​ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เตรียมส่ง 3 รุ่นบิ๊กไบค์ใหม่ในช่วงมอเตอร์โชว์นี้

จากงานเปิดโชว์รูมยามาฮ่าบิ๊กไบค์แห่งใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่ “ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เชียงใหม่”สาขากาดสวนแก้ว ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เจริญมอเตอร์ เชียงใหม่ จำกัดซึ่งเป็นโชว์รูมรถบิ๊กไบค์เต็มรูปแบบและครบวงจรแห่งแรกของภาคเหนือ เพื่อรองรับการเติบโตของผู้ใช้ชาวบิ๊กไบค์ที่เติบโตขึ้น

ทั้งนี้คุณประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังจากร่วมทำพิธีเปิดโชว์รูม ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เชียงใหม่ ว่า “ตลาดบิ๊กไบค์โดยรวมของประเทศมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น16.8 %  โดยภาคเหนือเติบโตถึง 42.5% ถ้ามองที่เชียงใหม่ก็เติบโต 23 % ส่วนจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือก็เติบโตด้วยเช่นกัน  ถ้าจะมองเป็นจังหวัดที่มีการเติบโตของตลาด อันดับ 1 แน่นอนว่าเป็นกรุงเทพ อันดับ 2 ชลบุรี อันดับ 3 เชียงใหม่ เรียกว่าเชียงใหม่เป็นตลาดใหญ่อันดับ 3”
 
จากแผนของยามาฮ่าที่วางไว้ว่าจะขยายสาขาของไรเดอร์สคลับให้เป็น 14 แห่ง นั้น คุณประพันธ์กล่าวต่อว่า “ปัจจุบันยามาฮ่ามีไรเดอร์สคลับอยู่ 14 แห่ง แต่ยังไม่เป็นโชว์รูมเฉพาะบิ๊กไบค์ แต่ที่นี่ถือว่าเป็นโชว์รูมที่ขายเฉพาะรถบิ๊กไบค์อย่างเดียว แรกๆตอนที่ตลาดเริ่มโตขึ้นจะไปลงทุนให้เป็นโชว์รูมบิ๊กไบค์อย่างเดียวจะเป็นการลงทุนที่สูง เราจึงให้ดีลเลอร์ที่อยากขายและจังหวัดใหญ่และโชว์รูมใหญ่พอ เราก็จะให้ทำช็อปเพิ่มอีกช็อปนึง คล้ายๆคอนเนอร์ขึ้นมาพอตลาดโตขึ้นแล้ว เรามองว่าคุ้มค่าที่จะทำ ก็ค่อยขยับขึ้นมา ตอนนี้ที่เป็นโชว์รูมไรเดอร์สคลับนอกจากที่กรุงเทพฯก็มีที่ลพบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และเร็วๆนี้ก็ที่สุราษฎร์ธานี และเราก็จะทยอยเปิดอย่างเป็นทางการอีกหลายแห่ง”


 
“สาเหตุที่จะยกระดับจากดีลเลอร์ให้มาเป็นโชว์รูมบิ๊กไบค์นั้น เราจะดูตลาดเป็นหลัก ว่าจังหวัดที่จะเปิดใหญ่พอไหม การลงทุนจะคุ้มไหม ฉะนั้น 14 แห่งที่เราจะเปิดก็คือจังหวัดใหญ่ที่เรามองอยู่ ซึ่งก็รวมถึงบุรีรัมน์เพราะเป็นที่ทราบดีว่ามีสนามแข่ง การเปิดโชว์รูมยามาฮ่าไรเดอร์สคลับเราก็ต้องมีในเรื่องของขนาดพื้นที่ อย่างที่เชียงใหม่ก็ต้องมีพื้นที่ 300 ตารางเมตร ศูนย์บริการต้องมีกี่แท่นและมีรายละเอียดต่างๆอีก รวมถึงเรื่องของอุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆด้วยเพราะเราก็มองในเรื่องนี้เพราะคนก็สนใจ” คุณประพันธ์กล่าวเพิ่มเติม
 
ทางด้านอะไหล่ จากการเติบโตของตลาดที่สูงขึ้น ยามาฮ่าได้จัดเตรียมอะไหล่ไว้รองรับความต้องการของลูกค้าเพียงพอและรวดเร็วอย่างไรนั้น บอสใหญ่ของยามาฮ่ากล่าวว่า “ในส่วนของลูกค้านั้นเรามองว่า ลูกค้าบิ๊กไบค์เป็นคนสำคัญ คนเล่นบิ๊กไบค์เป็นคนมีรายได้สูงมีการคาดหวังสูง เรามีการสำรองอะไหล่ไว้เยอะและไม่ขาด ซึ่งเรามีศูนย์อะไหล่ยามาฮ่าอยู่ที่สิงคโปร์ ซึ่งเรียกว่า YDS ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจัดส่งอะไหล่ ซึ่งราคาอะไหล่ก็สมเหตุสมผลและเราก็ดูความเหมาะสมด้วย ยามาฮ่ามีระบบการควบคุมอะไหล่ ซึ่งจากที่เราทำตลาดรถเล็กและเมื่อทำรถบิ๊กไบค์ก็ทำวิธีเดียวกัน ซึ่งปีนี้ในส่วนของบิ๊กไบค์ เรามีรถรุ่นใหม่ถึง 4 รุ่น ซึ่งแน่นอนว่าเราได้มีการตระเตรียมความพร้อมของอะไหล่ต่างๆให้พร้อม ซึ่งระบบการควบคุมอะไหล่จะเข้าไปครอบคลุมถึงจำนวนการขายของรถในแต่ละรุ่น ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องของระบบการจัดการ ซึ่งถ้ามีการสั่งอะไหล่ในวันนี้ก่อน10โมง วันรุ่งขึ้นอะไหล่ก็จะถึงร้านแล้ว ฉะนั้นค่ายใหญ่ๆอย่างยามาฮ่าเรามีความพร้อมในด้านอะไหล่อยู่แล้ว”
 
มาถึงคำถามสำคัญและเป็นไฮไลต์ของการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ เรื่องรถบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ที่จะมีถึง 4 รุ่นนั้น คุณประพันธ์กล่าวว่า “ ปีนี้ยามาฮ่าบิ๊กไบค์จะมีรถรุ่นใหม่ 4 รุ่นด้วยกัน โดยจะเริ่มจาก MT09 จะเป็นไมเนอร์เชนท์ ต่อมาเป็นรุ่น YZF-R6 All New  และรุ่น TMAX All New โดยทั้ง 3 รุ่นนี้จะปรากฏตัวที่งานมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ โดยMT09 จะวางขายราวๆเดือนเมษายน ส่วน R6 All New จะวางราวๆเดือนมิถุนายนและ TMAX All New ก็เดือนกรกฎาคมและสุดท้ายคือ SCR950 รถสไตล์เรฟโท ซึ่งจะมาในช่วงปลายปี”
 
ทราบกันอย่างนี้แล้ว ก็เตรียมตัวพบกับ 3 รุ่นรถยามาฮ่าบิ๊กไบค์ได้ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ และอีก 1 รุ่นในช่วงปลายปีกันได้นะครับ...กองบรรณาธิการ นิตยสารจักรยานยนต์เวิร์ลด์และ www.motobikeworldmag.com รายงาน


 

UIP : 624 | Page View : 634