
ในปี 2019 ที่ผ่านมาต้องกล่าวว่าเป็นฤดูกาลแข่งขันที่ทีมSuzuki Ecstar ก้าวรุดหน้าอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยชัยชนะสองครั้งจาก Alex Rins บนแทร็ค COTA และ Silverstone จนสามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สี่บนตารางคะแนนสะสม ขณะที่รุกกี้อย่าง Joan Mir สามารถทำผลงานจบในแต่ละสนามในกลุ่มสิบอันดับแรกได้หลายครั้ง แต่ก็ต้องได้รับบาดเจ็บรวมทั้งต้องพักจากการลงแข่งขันไปสองสนาม ทว่าก็สามารถจบด้วยอันดับสิบสองบนตารางคะแนนสะสม นั่นแสดงให้เห็นพัฒนาที่ค่อนข้างจะก้าวกระโดของรถแข่ง GSX-RR ของทีม จากโรงงานในHamamatsu และจากการที่เมื่อวานได้มีการเปิดตัวของทีมแฟคทอรี่ซูซูกิอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมใน 2020MotoGP ทางกอง บ.ก.จักรยานยนต์เวิลด์เราก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับพัฒนาการในปีที่ผ่าน จากการสนทนากับ Shinichi Sahara ในฐานะ Project Leader และ Ken Kawauchi ในฐานะ Technical Manager รวมทั้งผู้จัดการอย่าง Davide Brivio ที่จะมาพูดถึงภาระกิจในการลงทดสอบครั้งแรกก่อนจะเปิดฤดูกาลใหม่
ดูเหมือนว่าผลงานของ 2019GSX-RR นั้นจะพัฒนาขึ้นมาก ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการเน้นในการพัฒนาเรื่องของแชสซีส์ใช่หรือไม่ รวมทั้งชิ้นส่วนสปอยเลอร์ที่ออกแบบมาใช้ก็น่าจะส่งผลให้สามารถขับขี่ได้เร็วขึ้นด้วยไหม
Kawauchi : หากเทียบกับรถแข่งในโมเดลก่อนหน้านี้แล้ว คงจะบอกความแตกต่างกันได้ไม่มากนัก มันต่างกันในรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ส่วนการที่บอกว่าแชสซีส์นั้นต่างกันไหมก็คงจะบอกชี้ชัดได้ลำบากเพราะเมื่อเทียบกับ 2018GSX-RR แล้ว เราก็มีเพียงแค่การเสริมชิ้นส่วนคาร์บอนลงไปบนเฟรมเพิ่มเติมซึ่งที่จริงแล้วมันก็เป็นแบบเดียวกับที่ทำในเวอร์ชั่นสุดท้ายของ 2018GSX-RR นั่นแหละ หรือแม้แต่ชิ้นส่วนสปอยเลอร์ที่ติดตั้งบริเวณสวิงอาร์มนั้นเราก็บอกไม่ได้เช่นกันว่ามันให้ประสิทธิภาพแตกต่างกันอย่างไร เพราะว่า มันมีผลน้อยมากเมื่อเทียบกับการที่จะติดหรือไม่ติด ที่สำคัญเรายังไม่เคยมีโอกาสได้ใช้ในสนามเดียวกันในสถานการณ์แบบเดียวกันมาทำการเปรียบเทียบถึงความแตกต่างของผลที่ได้ แม้ว่ามันอาจจะมีผลบางอย่างที่ดีขึ้นเมื่อติดตั้งไป แต่ผมบอกได้เลยว่ามันมีความแตกต่างกันน้อยมาก
แล้วเวลาที่ทำได้ดีขึ้นนั้นมีผลเกี่ยวเนื่องกับชิ้นส่วนนี้บ้างไหม เพราะหลายทีมต่างก็หันมาพัฒนาแอโรพาร์ทกันมากขึ้น
Sahara : ในส่วนของผมนั้นเชื่อว่ามันมีผลกับเวลาต่อรอบที่ทำได้ดีขึ้นนะ....
Kawauchi : เราให้ความสนใจในหลายอย่างตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา เราสังเกตุข้อมูลต่างๆรายละเอียดต่างๆในการลงสนามแต่ละครั้ง แต่ก็ไม่สามารถชี้ชัดหรือระบุความแตกต่างที่เกิดขึ้นได้มากนัก อย่างเช่นการที่ Joan ลงสนามในช่วงวอร์มอัพเขาจะไม่สามารถทำเวลาได้ดีมากนักเมื่อไม่มีชิ้นส่วนดังกล่าว ดังนั้นเราจึงตัดสินใจติดตั้งให้เขาในช่วงของการแข่งขัน แต่เราก็บอกไม่ได้ว่าชิ้นส่วนดังกล่าวมีผลมากน้อยเพียงใด เพราะเราไม่มีโอกาสพิสูจน์ข้อมูลเปรียบเทียบในสถานการณ์แบบเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้ระหว่างแข่งก็บอกได้ว่าชิ้นส่วนดังกล่าวมีส่วนช่วยให้ Joanสามารถเซ็ทเวลาการขี่กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย
Sahara : ก็คล้ายๆที่ดูคาติเคยอธิบายไว้ตอนที่นำมาใช้ครั้งแรกแล้วมีการวิพากษ์วิจารณ์กันนั่นแหละ ว่ามันส่งผลต่อค่าของอากาศพลศาสตร์มากน้อยเพียงใด ซึ่งดูคาติก็บอกว่ามันมีผลน้อยมาก ส่วนตัวผมเองก็คิดเช่นนั้น แต่ส่วนหนึ่งที่มีผลแน่นอนเพียงแต่จะมากหรือน้อยนั้นก็คือผลทางด้านการลดอุณหภูมิของยางหลัง แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีผลอะไรมากมายนัก เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ดูเหมือนว่าดูคาติเองจะพยายามหาทางที่จะพัฒนาชิ้นส่วนที่มีผลต่อค่าอากาศพลศาสตร์มากขึ้นแม้ว่ากติกาจะห้าม คุณคิดว่าพอจะมีทางหลบเลี่ยงข้อห้าอะไรบ้างไหมหากซูซูกิคิดที่จะมาเน้นชิ้นส่วนพวกนี้บ้าง
Kawauchi : เราเองก็ศึกษารายละเอียดข้อกำหนดต่างๆไม่น้อยกว่าใคร แต่เชื่อเถอะเรื่องของช่องว่างในกติกาน่ะแทบจะไม่เปิดโอกาสให้หรอก และเราเองก็มีอะไรมากมายที่แพลนไว้เพื่อพัฒนารถแข่งของเราเช่นกัน แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆของแผนการที่จะต้องพัฒนารถแข่งของเรา หรือแม้แต่ในช่วงตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาสื่อให้ความสนใจตามข่าวที่หลายทีมหันมาโฟกัสกับการพัฒนาสวิงอาร์มคาร์บอนกัน แม้แต่เราเองก็สนใจที่จะหาข้อมูลด้วยเช่นกัน แต่มันก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะลงมือพัฒนาในชิ้นส่วนนี้ เพราะว่าเราเองก็ยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ว่าทำไมจึงต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนสวิงอาร์มจากอลูมิเนียมมาเป็นคาร์บอนแบบพวกเขาด้วย แน่นอนว่าทุกคนอ้างถึงเรื่องน้ำหนักที่เบา แต่ว่ามันก็ขึ้นกับโครงสร้างการออกแบบด้วยว่าจะผลิตชิ้นส่วนคาร์บอนนั้นมาเป็นรูปทรงหรือใช้โครงสร้างแบบใด เพราะว่าบางครั้งวัสดุคาร์บอนก็มีน้ำหนักมากกว่าอลูมิเนียมอัลลอยเช่นกัน แน่นอนว่าคุณสมบัติของวัสดุทั้งสองชนิดต่างกัน ดังนั้นมันก็อยู่ที่จุดประสงค์ในการนำมาใช้ ซึ่งฟิลลิ่งที่ได้จากการขับขี่ก็น่าจะแตกต่างกัน เพียงแต่ว่าเวลานี้มันไม่ได้อยู่ในแผนการลำดับต้นๆที่เราจะให้ความสำคัญในการพัฒนา
แล้วเรื่องของระบบเบรกล่ะ ที่ในฤดูกาลที่ผ่านมาเริ่มจะมีนักแข่งบางคนสนใจที่จะให้ย้ายเบรกหลังมาคุมที่แฮนด์เดิลบาร์ นักแข่งของคุณสนใจแนวคิดนี้ด้วยไหม
Kawauchi : ยังไม่เคยคุยกันเรื่องพวกนี้เลย และที่สำคัญนักแข่งทั้งคู่ของเราต่างก็มีทักษะในการขับขี่ที่ดีในการควบคุมเบรกด้วยเท้าตามแบบดั้งเดิม ดังนั้นเราจึงไม่มีความสนใจที่จะมาพัฒนาการย้ายระบบเบรกหลังให้มาควบคุมบนแฮนเดิลบาร์ แต่ก็ไม่แน่นะในอนาคตถ้ามันมีผลชัดเจนกับรูปแบบหรือสไตล์การขี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นชัดเจนเราก็อาจจะสนใจบ้างก็ได้
ในช่วงของการพัฒนา GSX-R พวกคุณพยายามอย่างมากที่จะลดความแข็งกระด้างของโครงสร้างแชสซีส์ แต่เวลานี้กับ GSX-RR ดูเหมือนพวกคุณกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ตรงข้ามด้วยความพยายามที่จะเพิ่มความแข็งให้กับโครงสร้างแชสซีส์ที่สังเกตได้จากกความพยายามเสริมชิ้นส่วนคาร์บอนไปบนโครงสร้างแชสซีส์
Kawauchi : เราจำเป็นต้องปรับแผนการพัฒนาเพราะเมื่อกลับมาพิจารณารถแข่งของเราก็พบว่าโครงสร้างแชสซีส์รถแข่งของเรามีการให้ตัว ยืดหยุ่นค่อนข้างมาก ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องปรับให้มันมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้รถนิ่งมากขึ้น ถึงเวลานี้แม้ว่าเราจะพัฒนารถใหม่มาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าแชสซีส์โมเดล2018กับ2019 นั้นแตกต่างกันอย่างไร เราพยายามปรับเปลี่ยนในส่วนต่างๆเพื่อหาจุดที่ลงตัวที่สุดเพื่อสร้างสมดุลให้กับรถแข่งของเรา ซึ่งบางอย่างของเดิมก็ดีกว่าบางอย่างของใหม่ก็ดีกว่า กล่าวคือในเวลานี้เราไม่สามารถชี้ชัดถึงความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ดังนั้นพื้นฐานมันจึงไม่แตกต่างอะไรมากนัก และถึงเวลานี้แม้จะพัฒนา 2020GSX-RR ออกมาใหม่เรียบร้อย แต่เราก็ยังคงต้องเดินหน้าพัฒนากันต่อไป เพื่อเป้าหมายที่ดีที่สุดในการลงสนามแต่ละครั้ง โดย 2020 GSX-RR นั้น ได้ต่อยอดพัฒนามาจากรถแข่ง 2018และ2019 ที่พวกเขาสามารถพัฒนาได้อย่างรุดหน้าด้วยข้อมูลที่สะสมมาต่อเนื่องจากการทุ่มเททำงานอย่างหนัก และจากการเปิดตัวเมื่อวานที่ทราบกันไปจาการไลฟ์สตรีมมิ่งของทีม รวมทั้งการนำเสนอตามหน้าโซเชี่ยลต่างๆก็จะเห็นว่า นี่คือรถแข่งโรงงานในแบบ All New ที่พร้อมจะส่งลงเตรียมความพร้อมกับการทดสอบอย่างเป็นทางการในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่ง Davide Brivio ในฐานะผู้จัดการทีมได้กล่าวถึงการทดสอบที่จะเริ่มต้นใหม่กับ GSX-RR เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับสเปคใหม่ล่าสุดทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ที่มีการปรับชิ้นส่วนภายใน ทั้งในส่วนของแชสซีส์ที่มีการปรับเปลี่ยนโมดิฟายในบางอย่าง รวมถึงสวิงอาร์มใหม่และชุดคิดใหม่ๆที่จะต้องหาบทสรุปที่ดีที่สุดให้เร็วที่สุด
“เรามีลิสต์รายการที่ค่อนข้างยาวที่จะต้องพยายามทำตามแผนการทดสอบชิ้นส่วนต่างๆเหล่านั้น ไม่ว่าในพื้นที่ของ แชสซีส์, สวิงอาร์ม, อิเลคทรอนิคส์, แฟริ่งใหม่ หรือแม้แต่รายละเอียดในชิ้นส่วนอะไหล่เล็กน้อยต่างๆที่เรานำมาทดสอบนั้นจะต้องทำการทดสอบเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับรถแข่งของทีมเรา แน่นอนว่านี่คือหน้าที่ที่เราจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ตลอดทั้งสามวันของโปรแกรมการทดสอบนี้”