ยามาฮ่ายังมีคงมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยามาฮ่าออกข่าวแถลง การต้อนรับแชมป์โลกโมโตจีพี 3 สมัย ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ เข้าร่วมทีมในฐานะ “นักทดสอบ” รถแข่งของทีมโรงงาน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับยามาฮ่าในการแข่งขัน MotoGP ในฤดูกาล 2020
 
หลังจากประกาศแขวนหมวกกันน็อคอย่างเป็นทางการไปในการแข่งขันโมโตจีพี2019 ในนัดปิดฤดูกาล เจ้าของฉายา “เดอะร็อคเก็ตบอย” ก็เข้ารับการรักษาร่างกายและสภาพจิตใจจนกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง จนมาถึงวันนี้ ยามาฮ่าได้แถลงข่าวถึงการกลับมาลงสนามอีกครั้งในการซ้อมปรีเทสอย่างเป็นทางการที่จะมีขึ้นที่สนามเซปังเซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ โดยฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ จะกลับขับขี่ยามาฮ่า YZR-M1 อีกครั้ง รวมถึงการทดสอบอย่างเป็นการส่วนตัวเพื่อมาช่วยทีมวิศวกรของยามาฮ่าในการพัฒนารถแข่ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ มีสไตล์การขับขี่แม่นยำและสามารถหาข้อมูลของสมรรถนะของรถได้ดี อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก อดีตหัวหน้าช่างของวาเลนติโน่ รอสซี่ ซิลวาโน่ กราบูซาร่า ที่จะมาเป็นหัวหน้าทีมในการทดสอบรถยามาฮ่าYZR-M1 ในครั้งนี้อีกด้วย
 
ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ นักแข่งโมโตจีพีที่มากประสบการณ์ เจ้าของดีกรีแชมป์โลก 5 สมัย (แชมป์โลกGP125-1สมัย, แชมป์โลก GP250-1สมัย และแชมป์โลกโมโตจีพี 3 สมัย) โดยฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ เข้าร่วมงานกับยามาฮ่าในรุ่นโมโตจีพีในปี 2008  ก่อนที่จะคว้าแชมป์โลกในปี 2010, 2012 และ 2015
 
 
ทั้งนี้ ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ได้กล่าวว่า “ผมมีความสุขมากกับการตัดสินใจเข้าร่วมทีมทดสอบโรงงานของยามาฮ่า ผมวางแผนที่จะมีส่วนร่วมใน MotoGP เสมอและกลับไปที่พิทการาจ และผมคิดว่านี่จะเป็นบทบาทที่เหมาะสม ผมรู้จักทีมและ M1 เป็นอย่างดี ยามาฮ่าเหมาะสมกับสไตล์การขี่ของผม และมันจะน่าดีใจมากเมื่อได้พบกับจักรยานยนต์ที่ผมคุ้นเคยอีกครั้ง”
 
"การกลับมาที่ยามาฮ่านั้นนำมาซึ่งความทรงจำที่ดี เราได้รับความไว้วางใจจากการคว้าแชมป์โลกให้กับยามาฮ่ามาแล้วด้วยกันถึง 3 ครั้ง ดังนั้นผมจึงรู้ว่าจุดแข็งของเราว่าอยู่ตรงไหน ผมต้องขอขอบคุณยามาฮ่าสำหรับโอกาสนี้ ผมพร้อมที่จะลงขับขี่ภายใต้แรงผลักดัน ในขณะที่ผมเองก็เพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตที่สงบเงียบกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
 
"ผมมีแรงบันดาลใจมากในการทำงาน และมีความกระตือรืนร้นที่จะเริ่มขี่ ผมต้องการทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของยามาฮ่า และผมก็หวังว่าประสบการณ์การขับขี่ของผมจะเป็นประโยชน์ต่อวิศวกรและนักแข่งของยามาฮ่า และนำยามาฮ่ากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง”