เป็นที่รู้กันดีว่าสิ้นสุดฤดูกาล 2020 นี้ นักแข่งหลายคนจะ “หมดสัญญา” กับทีม ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า ปัจจุบันมีนักแข่งน้อยมากที่จะได้รับสัญญาสองปีกับทีม ยกเว้นนักแข่งระดับหวังผลในกลุ่ม TOP5 เท่านั้นที่จะได้รับการการันตีสัญญาสองปีจากทีมแฟคทอรี่ ในช่วงเวลานี้ทีมที่มีกระแสมากที่สุดก็ คือ Ducati ที่ “กำลังมองหานักแข่งในระดับ Big Name” เข้าสู่ทีม โดยเป็นที่รู้กันว่า Danilo Petrucci นั้น มีอ๊อพชั่นแค่ 1+1 เท่านั้น แถมยังต้องกดดันเมื่อถูกเปรียบเทียบกับ Jack Miller อยู่เสมอ โดย Jack นั้นมีสัญญาแบบปีต่อปีกับทีมซัพพอร์ทของ Ducati ที่มักจะถูกร่ำลือว่า น่าจะเข้ามาเสียบโควตาของ Danilo ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ไม่สามารถยืนระยะทำผลงานได้สม่ำเสมอ “ผีเข้าผีออกด้วยกันทั้งคู่” กล่าว คือ หวังผลระยะยาวไม่ได้นั่นเอง หรือ แม้แต่จอมเก๋าอย่าง Andrea Dovisiozo เองก็ดูจะโรยลาไปมากในปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังคงทุ่มเทและพยายามอย่างมากให้กับทีม แต่ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างก็ไม่สามารถบรรลุความหวังสูงสุดได้สักที ด้วยเหตุนี้จึงมีการแสดงออกอย่างชัดเจนจากบริษัทและทีม ที่ต้องการนักแข่งระดับ Big Name ในที่นี้หมายถึง สามารถสู้เพื่อชัยชนะและมีศักยภาพพอที่จะลุ้นได้ถึงแชมป์เข้าสู่ทีม โดยไม่ต้องเสียเวลาปลุกปั้น กล่าวคือ ซื้อมาแล้วหวังผลได้เลยนั่นเอง ชัดเจนว่า ความปรารถนาในช่วงปีที่ผ่านมาของทีมจากโบโลญญ่านั่นก็คือ การได้ลายเซ็นของ Maverick Vinales รวมทั้ง Fabio Quartararo บรรจงจรดปากกาลงบนสัญญาของทีม แม้จะเป็นข่าวลือ แต่พวกเขาก็ไม่ปิดบังว่า ปรารถนาเช่นนั้นจริงๆ เช่นเดียวกับ HRC ที่ตัดสินใจขัดตาทัพเซ็นสัญญาหนึ่งปีกับ Alex Marquez ให้เข้ามาเป็นทีมเมทของ Marc แทนที่ Jorge Lorenzo ที่ตัดสินใจฉีกสัญญาที่เหลือหนึ่งปีพร้อมประกาศอำลาสังเวียน
 
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ Yamaha Factory Racing MotoGP Team ประกาศเซ็นสัญญาฉบับใหม่สำหรับฤดูกาล 2021-2022 กับ Maverick Vinales ทันทีสองปี ทั้งที่ยังไม่เริ่มฤดูกาล 2020 ก่อนที่ไม่กี่วันถัดมาจะประกาศไลน์อัพนักแข่งสำหรับฤดูกาล 2021-2022 ด้วยการแจ้งข่าวว่า เพิ่มนักแข่งโรงงานที่ชื่อ Fabio Quartararo ในขณะที่แถลงข่าวแจกออกมาว่า พวกเขาพร้อมซัพพอร์ท Valentino Rossi อย่างเต็มที่ ด้วยรถแข่งสเปคโรงงาน และทีมวิศวะกรแบบฟูลอ๊อพชั่นแบบเดิมที่เคยเป็นมา ขอเพียงแค่ Valentino ตัดสินใจที่จะแข่งต่อไป เนื่องด้วยระหว่างนี้ Valentino Rossi ต้องการพุ่งสมาธิไปที่การปรับตัวเข้ากับหัวหน้าช่างและทีมงานใหม่ที่เขาเปลี่ยนแปลงสำหรับการแข่งขันในปีนี้ รวมทั้งขอทำหน้าที่ทดสอบเตรียมความพร้อมของรถแข่งเวอร์ชั่นใหม่ให้ดีที่สุด โดยจะไม่ขอให้คำตอบใดใดแก่ทีมว่าจะเลือกอย่างไรกับอนาคตของตนเอง คาดการณ์ว่า ทีมจะได้คำตอบในช่วงแข่งขันอิตาเลี่ยนกรังด์ปรีซ์ เนื่องจาก Valentino ต้องการดูผลงานสักระยะก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่า จะแข่งต่อหรือไม่ในปี 2021 และนั่นจึงทำให้ทีมเดินหน้า เซ็นสัญญาสรุปไลน์อัพนักแข่งไปก่อนสองคนตามโควตาปกติ หนึ่งนั้นก็เป็นการปิดโอกาส “เสียบชิงนักแข่ง” ของค่ายอิตาลีไปในตัวด้วยเช่นกัน











ก่อนหน้านี้ Gigi Dall’Igna เคยบอกถึงอ๊อพชั่นในการเซ็นสัญญาของนักแข่งในทีมDucati ว่า “ ตอนที่เราแยกทางกับJorge Lorenzo ผมก็ตัดสินใจจะเซ็นกับ Danilo Petrucci ด้วยสัญญาสองปี มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอนาคต ในการจัดการนักแข่งสำหรับทีม เพราะเรามีนักแข่งคนนึงแล้วที่เซ็นสองปีกับทีมซึ่งเขาเป็นนักแข่งหลัก ดังนั้นการที่ผมเลือก Daniloเข้าสู่ทีม จึงเป็นการดีที่จะไม่กดดันระหว่างกันในด้านผลงาน จากนั้นผมก็เพิ่มอ๊อพชั่นเป็น 1+1 หลังจากที่มีผลงานน่าพอใจ มันเป็นการตัดสินใจที่ดีกับทั้งสองฝ่ายที่จะไม่กดดันกันจนเกินไป ผมเคยชนะมาแล้วมากมาย แต่ในMotoGPผมยังทำไม่สำเร็จ ดังนั้นสำหรับผมเป้าหมายคือชัดเจนว่าต้องการประสบความสำเร็จ และเพื่อความชัวร์ผมจึงเลือกที่จะเซ็นสัญญาสองปีกับนักแข่งแค่คนเดียว ” ก็น่าจะเป็นแนวทางที่ชัดเจนก็คือ เพื่อง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงและลดความเสี่ยงในการหานักแข่งเข้าสู่ทีมนั่นเอง ดังนั้นเมื่อDucati รวมทั้งทีมอื่นๆมีทีท่าสนใจ นักแข่งBigName จึงไม่แปลกที่ Yamaha จะรีบสรุปไลน์อัพนักแข่งในทันทีทั้งที่ยังเหลือเวลาให้ตัดสินใจก็ตามที
 
แม้ว่าจะมีตัวเลือกอย่าง Johann Zarco ตามที่แฟนๆ MotoGP มองว่าเขายังคงเร็วสำหรับการลงชิงชัยในกลุ่มหน้า แต่สำหรับทีมแฟคทอรี่แล้ว “คงไม่กล้าเสี่ยง” เนื่องจากผลงานที่ KTM นั้น ชัดเจนว่า เขาล้มเหลว และมีปัญหากับการปรับตัวอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทำผลงานได้ดีกับทีมแซทเทิลไลท์อย่าง Tech3 ในช่วงที่ยังจับมือกับ Yamaha แม้แฟนๆจะมองว่า สไตล์ของKTM ไม่เหมาะกับตัวนักแข่ง แต่นี่คือรถแข่งโปรโตไทพ์ ที่ทุกสิ่งล้วนสร้างขึ้นมาเพื่อการแข่งขัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในแฟคทอรี่ทีม ที่สามารถเนรมิตอะไรได้มากมาย ตามที่กติกาเปิดช่องทางให้ ดังนั้น โอกาสสำหรับ Zarco ที่นอกจากอายุย่างเข้าสามสิบแล้ว ความล้มเหลวกับแฟคทอรี่KTM จึงเป็นตราบาปที่ทำให้ โอกาสสำหรับแฟคทอรี่ทีมต่างๆที่มีข่าวมาก่อนหน้านั้น “จึงเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น” ขณะที่ความเป็นจริง HRC เลือกเสี่ยงกับ Alex Marquez เช่นเดียวกับที่ Ducati กล้าที่จะวางเดิมพันกับ Danilo Petrucci ด้วยสัญญา1+1ด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่ Zarco นั้น ได้อานิสสงค์จากการขัดแย้งของ Karel Abraham กับทีม จน Ducati ยื่นมือเข้ามาช่วยทีมให้ได้ตัว Zarco มาร่วมทีมแทน ซึ่งบอสใหญ่ของทีมแฟคทอรี่ Ducati อย่าง Dall’Igna ได้กล่าวว่า 
 
“ จะได้รับการซัพพอร์ทอะไรพิเศษหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผลงานของเขาด้วย สำหรับผมสิ่งสำคัญคือผลงานในสนาม ถ้าเขาสามารถแสดงให้เห็นผลงานที่ดีเราก็พร้อมให้การสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นแก่เขา แน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์เพราะกติกากำหนดให้ต้องปิดผนึกไว้ตลอดทั้งฤดูกาล ดังนั้นอะไรที่นอกเหนือจากกติกากำหนดเราก็พร้อมจะให้การสนับสนุนเขาทุกอย่าง แต่ก็อย่างที่บอกต้องขึ้นอยู่กับผลงานของเขาด้วยว่าอยู่ในระดับใด ”

ขณะที่หนึ่งในเป้าหมายที่หวังลึกๆอย่าง Maverick Vinales นั้น “กลับมามั่นใจกับYZR-M1” นับจากที่ทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล2019 ที่ผ่านมา จนกล้าที่จะตัดสินใจเซ็นสองปีกับทีมนั้น Lin Jarvis ในฐานะ Manager Director ของ Yamaha Motor Racing ได้กล่าวว่า “ นับตั้งแต่เรานำเขามาสู่ทีมแฟคทอรี่ในปี 2017 ทำให้เรารับรู้ได้ถึงทักษะความสามารถที่เขามีมากขึ้น เขามีพัฒนาการที่ดี มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างยิ่ง รวมทั้งความตั้งใจที่จะเทรินนิ่งสมรรถนะร่างกายให้มีความพร้อม เพื่อที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีมทุกครั้งที่นำ M1 ลงสู่สนาม โดยสามฤดูกาลแรกที่เขาอยู่กับเรา สามารถคว้าชัยได้ 6 ครั้ง กับตำแหน่งบนโพเดี้ยม 19 ครั้ง อีกทั้งเขายังมีส่วนร่วมกับทีมร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง ในเวลาที่ผ่านมารถแข่งของเราค่อยๆพัฒนาไปทีละสนาม จนเป็นไปในทิศทางที่บวกมากยิ่งขึ้น เรามองเห็นอนาคตที่ดีระหว่างเรากับเขาในทีมแฟคทอรี่ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจร่วมกันที่จะต่อสัญญาออกไปอีกสองปี ”











หลังจากที่ตกลงเซ็นต์กับขุนพลหนุ่มวัย 25ปี ต่อไปอีกสองปี ไม่กี่วันถัดมา Yamaha Factory Racing MotoGP Team ก็ประกาศไลน์อัพนักแข่งอย่างเป็นทางการสำหรับปี 2021-2022 ด้วยการเซ็นกับ นักแข่งดาวรุ่งวัย 20 ปี อย่าง Fabio Quartararo ซึ่งในปีที่ผ่านมาในฐานะรุกกี้ เขาสามารถทำผลงานขึ้นโพเดี้ยมได้รวมเจ็ดครั้ง (ที่สอง 5 ครั้ง ที่สาม 2 ครั้ง) พร้อมทั้งถูกจับตามองจากหลายๆทีมที่ต่างก็ให้ความสนใจในตัวนักแข่งชาวฝรั่งเศสคนนี้ ก่อนที่ต้นสังกัดอย่าง Petronas Yamaha Sepang Racing Team จะได้รับการประกาศอัพเกรดสเปคอะไหล่ชุดคิทให้กับรถแข่งในปีนี้ และด้วยสัญญาที่จะครบสองปีกับทีมในสิ้นปีนี้ เขาก็ได้รับข้อเสนอให้ย้ายเข้าไปเป็นนักแข่งแฟคทอรี่ทีมในฤดูกาลหน้าด้วยสัญญาสองปี ซึ่ง Lin Jarvis ได้กล่าวว่า “ จากผลงานที่เขาทำได้ในฐานะรุกกี้ในปีที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เราเห็นถึงทักษะและความเฉลียวฉลาดในเกมการแข่งขัน และเมื่อเขาจะสิ้นสุดสัญญากับทีมSRT ในสิ้นปีนี้ เราจึงตัดสินใจที่จะเลือกเซ็นต์กับเขาเข้ามาเป็นนักแข่งทีมแฟคทอรี่ ในปี2021-2022 และในปีนี้เราก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเขาในแบบ full support ด้วยรถแข่ง YZR M-1 factory spec และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เขามาสู่ทีมแฟคทอรี่เป็นทีมเมทกับ Maverick ในฤดูกาลหน้า ”

ในขณะที่ Valentino Rossi นั้น ได้ตกลงกับทีมว่าจะขอเวลาตัดสินใจเพื่อให้คำตอบว่า จะยังแข่งต่อในปี2021 หรือไม่ ในช่วงกลางฤดูกาล 2020 นี้ โดยก่อนหน้านี้ Yamaha ขอเจรจาถึงการต่อสัญญาฉบับใหม่แต่ Valentino Rossi บอกว่า ไม่ต้องการคิดอะไรในเวลานี้มากไปกว่า การมุ่งทำหน้าที่เตรียมทดสอบรถแข่งเพื่อพัฒนาให้มีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งเขาหวังที่จะกลับมาทำผลงานให้ดีที่สุดกับ M1 อีกครั้ง และเพื่อความท้าทายครั้งใหม่นี้ เขาจึงได้เปลี่ยนตัวหัวหน้าช่าง รวมทั้ง จนท.ในบางตำแหน่ง เพื่อรองแนวทางใหม่ๆเพื่อพัฒนารถแข่งให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน ในฤดูกาลที่ 25 ของการเป็นนักแข่งเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ซึ่งตลอดระยะเวลา 24 ฤดูกาลที่ผ่านมานั้น เขาลงแข่ง 243 ครั้ง ชนะได้ 56 ครั้งในระดับพรีเมียร์คลาส โดยเป็นนักแข่งเพียงคนเดียว ที่ชนะด้วยเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันถึง 5 แบบ ในยุคเริ่มต้นของ MotoGP (500cc 4-cylinder two-stroke, 990cc 5-cylinder four-stroke, Yamaha 990cc 4-cylinder four-stroke, Yamaha 800cc 4-cylinder four-stroke and a Yamaha 1000cc 4-cylinder four-stroke) ดังนั้นในฤดูกาล2020 นี้เขาจะมุ่งมั่นทำผลงานให้เต็มที่เป็นอันดับแรก หลังจากนั้นเมื่อพิจารณาผลงานของตนเอง จนถึงช่วงกลางฤดูกาล เขาก็จะให้คำตอบกับทีมว่า “จะตัดสินใจเช่นไร”  ในขณะที่ Lin Jarvis ได้กล่าวถึงกรณีของ Valentino Rossi ว่า “ เราเคารพในการตัดสินใจของเขา และจะรอคำตอบตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยเขาจะขอทุ่มเทให้กับการแข่งขันในฤดูกาลนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับฤดูกาล2021 ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจเช่นไรเราก็จะเคารพในสิ่งที่เขาเลือก และถ้าเขาจะยังแข่งขันต่อในปี2021 เราก็จะยังคงเตรียม YZR M-1 factory spec พร้อมด้วยทีมวิศวกรจากYamahaทั้งหมด สำหรับ Valentino Rossi แต่ถ้าเขาเลือกที่จะแขวนชุดแข่ง เราก็จะยังคงความร่วมมือในด้านต่างๆไว้ต่อไป โดยเฉพาะโปรเจ็คการพัฒนานักแข่งรุ่นใหม่ใน Riders Academy รวมทั้งกิจกรรมต่างที่ Yamaha VR46 Master Camp รวมทั้งการที่เขาจะยังเป็น Yamaha brand ambassador อย่างไรก็ตามอย่างน้อยในเวลานี้เราจะยังมีหนึ่งฤดูกาลที่จะต้องร่วมมือกันในเกมการชิงชัยตลอดทั้งฤดูกาลนี้ ซึ่งเราและแฟนๆจะยังคงให้การสนับสนุน Valentino อย่างเต็มที่ในทุกๆสนามเช่นที่ผ่านมา จนกว่าจะถึงวันที่เขาตัดสินใจแขวนชุดแข่ง ”
 
นับเป็นเกมที่ Yamaha ปิดทุกดีลสกัดทุกความหวังที่หลายทีมแฟคทอรี่ โดยเฉพาะ Ducati มุ่งหวังจะคว้านักแข่ง Big Name เข้าสู่ทีม ด้วยการเซ็นสองนักแข่งชั้นยอดที่ขึ้นชื่อว่าเร็วในระดับท็อปของรุ่นไว้กับทีม นับจากนี้เชื่อว่า ทีมที่กำลังหนาวๆๆร้อนๆก็คงไม่พ้นแฟคทอรี่ Suzuki ที่คาดว่า Alex Rins อาจจะ “ได้รับข้อเสนอ” ที่ปฏิเสธไม่ได้จากทีมแฟคทอรี่จากโบโลญญ่าในอิตาลี อยู่ที่ว่า Suzuki จะยอมให้ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเช่นที่เคยเสีย Maverick Vinales ให้กับ Yamaha หรือไม่ และ ตัวแปรแรกนั้นก็คือ GSX-RR ในฤดูกาลนี้ จะมีสมรรถนะที่ดุดันขึ้นกว่าเดิมแค่ไหนนั่นเอง