แผนการหลังจากจบ 2020 MotoGP ของอันเดรียน เอียนโนเน่ ที่จะย้ายไปแข่งใน WorldSBK มีแนวโน้มต้องพังอย่างไม่เป็นท่า เมื่อมีประกาศบังคับใช้โทษแบนทันทีตั้งแต่ วันที่ 17 ธันวาคม 2019 หลังจากที่ FIM Antidoping ได้รับผลตรวจรอบสองจาก WADA ที่เป็นหน่วยงานอิสระในการตรวจสอบและต่อต้านสารต้องห้ามในนักกีฬาทั่วโลก ที่มีสมาชิกอย่างองค์กรโอลิมปิกสากล และ FIM เองก็ตอบรับเป็นหนึ่งในสมาชิกด้วยเช่นกัน โดยทางห้องแล็บของ WADA ที่เมืองเดรสเดน ในเยอรมัน ได้ตรวจสอบตัวอย่างปัสสวะของอันเดรียน เอียนโนเน่ ที่เก็บตัวอย่างมาจากการแข่งขันที่สนามเซปังฯประเทศมาเลเซีย ซึ่งการตรวจเบื้องต้นโดยหน่วยงานภายในของ FIM เองนั้นพบสารกระตุ้น ก่อนที่จะส่งตัวอย่างที่สองหรือ B sample ไปตรวจอย่างละเอียดในแล็ปดังกล่าว ซึ่งผลก็คือ เป็นบวก หรือ ไม่ผ่านเช่นเดิม จนนำมาซึ่งการประกาศโทษแบนที่จะมีผลทันทีตั้งแต่ 17 ธันวาคม นั่นหมายความว่าเขาจะไม่มีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันในทุกระดับ ทุกรายการ ภายใต้ข้อบังคับของ FIM Antidoping จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งกติกานั้นเปิดโอกาสให้ อันเดรียน เอียนโนเน่ สามารถยื่นคำร้องขออุธรณ์ได้ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ภายใต้ระเบียบกติกาของ World Anti-Doping Code และ FIM Anti-Doping Code ด้วยการยื่นคำร้องต่อ International Disciplinary Court หรือชื่อย่อ CDI (ที่เป็นคณะกรรมการกฤษฎีกาทางด้านวินัยของนักกีฬาหรือน่าจะเป็นศาลกีฬาโลก) ด้วยการหาหลักฐานมาหักล้าง หรือ พิสูจน์ให้ได้ว่าสารกระตุ้นประเภทสตียรอยด์นั้นเข้าสู่ร่างกายโดยบังเอิญหรือไม่เจตนา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับกรณีของสารประเภทสเตียรอยด์ เพราะสารประเภทนี้เป็นไปได้ยากที่จะเข้าสู่ร่างกายโดยไม่เจตนา เนื่องจากเป็นสารควบคุมที่จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ หรือจะต้องมีความรู้ที่จะใช้สารพวกนี้เท่านั้น นั่นหมายความว่าในเบื้องต้น ระยะเวลาในการถูกแบนนั้นจะเริ่มต้นด้วยตัวเลข 4 ปี และเคสนี้แตกต่างกับกรณีของ แอนโทนี่ เวส ที่พิสูจน์ได้ว่าเขาใช้โดยไม่เจตนาเพราะกินอาหารเสริมที่ไม่ได้ระบุส่วนประกอบชัดเจน ขณะที่ เอียนโนเน่ นั้น คาดว่าเขาได้ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อความแข็งแกร่งระหว่างการฟื้นฟูร่างกายหลังจากได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าในเวลานี้จะยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า โทษแบนเบื้องต้นสี่ปีที่มีผลอัตโนมัตินี้ จะสามารถอุธรณ์สำเร็จหรือไม่ ก็เชื่อว่า นักขี่ทดสอบอย่าง แบรดลี่ย์ สมิต จะได้โอกาสกลับมารับช่วงทำหน้าที่ทดสอบเพื่อพัฒนา Aprilia RS-GP ที่มีแผนจะเปิดตัวที่มาเลเซีย ในเดือนกุมภาพันธ์
'
Gameleon Menu