Van Beveren ควบ Yamaha WR450F Rally ตะลุยขึ้นทำเวลารั้งอันดับสองเวลารวม 2019 Dakar ในสเตจที่ 7

เข้าสู่เกมวันที่เจ็ดของการแข่งขัน ในstage7 มีรถแข่งพร้อมลงชิงชัย 95 คัน บนระยะทางรวม 387 กม โดยจะเป็นช่วง special 323 กม.ซึ่งในช่วงปล่อยตัวนั้นล่าช้าไปสามสิบนาทีเนื่องจากมีหมอกลงเยอะ ก่อนที่ Pablo Quintaniila จะทะยานออกไปเป็นคันแรกรับหน้าที่ openroad โดยที่มี KevinBenavides และ Matthias Walkner ไล่ตามกันออกไป ก่อนที่จะผ่านช่วง 50 กม.แรกก็ปรากฏว่า Ricky Brabec เปิดเกมบวกเร่งทำความเร็วจนทะยานขึ้นไปนำเวลารวม เช่นเดียวกับ Sam Sunderland ที่เสียเวลาจากการจอดแก้ไขเบรกหลังที่เสียในสเตจเมื่อวาน ก็เปิดเกมบวกทันที โดยเขาทะยานตาม Brabec ในระยะสิบวินาที น่าสนใจว่าเพียงแค่ต้นเกมของช่วง special นักแข่งในกลุ่มหกอันดับแรกเกาะกลุ่มกันไปในระยะเวลาสี่สิบวินาที จนผ่านเข้าสู่จุดเช็คพ้อยท์1 Brabec เข้าเป็นคันแรก ตามด้วยWalknerและ Quintaniila แต่เนื่องจากหมอกยังคงลงหนาและเป็นปัญหาในการมองเห็น ทางผู้จัดจึงปล่อยรอสถานการณ์ที่จุดปล่อยช้าไปอีกสามสิบห้านาที หลังจากออกสตาร์ทจากจุดเช็คพ้อยท์ Brabec ยังคงเร่งทำความเร็วโดยมีเพียง Sam Sunderland ที่เกาะติดมาด้วยช่องห่างเพียงสิบสี่วินาที จนกระทั่งผ่านช่วง special ไปได้ 250 กม. ปรากฏว่า Sunderland ทำผลงานได้เยี่ยม ขึ้นนำการแข่งขันทิ้งคู่แข่งที่ตามมาใกล้สุดกว่าหกนาที ในขณะที่ Brabec นั้นตามหลังอยู่ประมาณเจ็ดนาที ซึ่งก็น่าจะเพียงพอที่เขาจะขยับขึ้นไปเป็นผู้นำเวลารวมได้ถ้ายังคงรักษาจังหวะการขี่ไว้ได้จนจบ เพราะ Quintanilla นั้นตามหลังอยู่ถึงยี่สิบสองนาที จนสิ้นสุดการแข่งขันปรากฏว่า Sunderland ล็อกคันเร่งทำความเร็วทะยานคว้าชัยชนะเป็นสเตจที่สองให้กับตัวเองได้โดยมี Brabec ตามมาเป็นอันดับสาม ขณะที่ Adrien Van Beveren กับ Toby Price นั้นกับเลือกที่จะplay safe เพื่อยืนระยะรักษาระดับความเร็วเข้ามาเป็นอันดับสี่และแปดตามลำดับ โดยมีนักแข่งดาวรุ่งหรือนักแข่งจากกลุ่มต่ำกว่า TOP10 หลายคนเบียดเข้ามา  ก็ยังคงเป็นอีกวันที่ Adrien Van Beveren จาก Yamahalube Yamaha Rally team ยังคงทำได้ตามมาตรฐานของตนเองที่ “เน้นผิดพลาดน้อยที่สุด” ไม่เร่งทำเวลาจนเสี่ยงมากเกินไป ผลก็คือเขาขยับขึ้นรั้งอันดับสองของตารางเวลารวมได้หลังจากจบในสเตจนี้ ซึ่งความท้าทายในสเตจนี้อยู่ที่ทักษะทางด้าน Navigation ไม่ว่าการอ่านร่องทางที่จะขับขี่ไปบนสันดอนทราย การเลือกไลน์ขี่ไปบนทิศทางหรือเส้นทางที่จะมุ่งไปสู่เช็คพ้อยท์หรือเวย์พอยท์ตามที่ระบุในroadbook  ทุกๆการตัดสินใจในกระบวนการ Navigation ของแรลลี่ คือหัวใจสำคัญในวันนี้ ซึ่งเขาสามารถใช้ทุกๆทักษะและประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี จนจบด้วยอันดับสี่ของสเตจพร้อมทั้งเกาะกลุ่มTOP5 ของสเตจได้อย่างเหนียวแน่น ในขณะที่คู่แข่งบางคน”พลาด” ซึ่ง Van Beverenได้กล่าวว่า















“ผมพยายามอย่างมากที่จะอยู่ในทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่ในกลุ่มนำตลอดทั้งวัน ซึ่งผลก็คือมันช่วยให้อันดับบนตารางเวลารวมของผมขยับสูงขึ้นไปอีกเล็กน้อย ถือได้ว่าเป็นวันที่ดีที่ได้รับผลแข่งที่ยอดเยี่ยม จากประสบการณ์ทำให้ผมเข้าใจถึงสถานการณ์การขับขี่ในสภาพเส้นทางแบบนี้ ความสำคัญในการตะลุยผ่านสันดอนทรายแบบนี้ก็คือจะต้องไม่ผิดพลาดและระมัดระวังทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับnavigation ซึ่งในระหว่างขับขี่นั้นผมสังเกตพบว่ามีนักแข่งกลุ่มใหญ่ที่กำลังหลงเส้นทาง และนั่นจึงทำให้ผมตระหนักว่าจะต้องมุ่งสู่ทิศทางที่ถูกต้องเพื่อหาwaypoint ถัดไป ระหว่างนั้นเองก็มีนักแข่งส่วนหนึ่งที่พยายามตามมาพร้อมผมในเส้นทางที่ถูกต้องด้วยกัน ทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่าการตัดสินใจเลือกเส้นร่องไลน์ขี่นั้นถูกต้อง ผมยังคงสามารถรักษาสถานการณ์การแข่งขันที่ดีไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นในอีกไม่กี่สเตจที่เหลือ ผมจึงคิดว่าจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและแน่นอนว่ายังคงแนวคิดเดิมไว้คือ จะต้องใส่ความระมัดระวังและจะต้องไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงใดๆ ผมจะยังคงเดินตามแผนการแข่งของผมเพื่อทำสิ่งที่ดีที่สุดในเปรูนี้ ”














 
ขณะที่ทีมเมทอย่าง Xavier de Soultrait นั้น จบสเตจนี้ด้วยอันดับเจ็ด หลังจากที่โดนโทษบวกเวลาเพิ่มเล็กน้อย จากการขี่เกิน 30กม./ชม.ในพื้นที่จำกัดความเร็ว ทำให้ต้อง +1นาที ทว่าอันดับบนเวลารวมของเขาก็ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย คือ รั้งในอันดับสิบโอเวอร์ออลนั่นเอง ซึ่ง de Soultrait ได้กล่าวว่า “ วันนี้ผมดีขึ้นทั้งความเร็วและจังหวะการขับขี่ ที่สามารถคงความเร็วในระดับที่ดีโดยที่ไม่ก่อความเสี่ยงใดๆขณะแข่งขัน ทำให้สามารถยืนระยะไปในกลุ่มนำได้ตลอดช่วง special ก่อนที่ผมจะตัดสินใจในบางช่วงของเส้นทางเพื่อที่จะเปิดเกมเพื่อตีเวลาคืนจากที่เสียไปในวันที่ผ่านมา นอกจากนี้สภาพร่างกายของผมเองก็ดีขึ้นมาเกือบ100%จากอาการเมาทะเลเมื่อวันก่อน หลังจากกินยาเข้าไปก็ทำให้กลับมาดีขึ้นแล้วในตอนนี้ สำหรับในวันพรุ่งนี้ เส้นทางการแข่งขันนั้นจะเป็นช่วงที่แยกกันระหว่างสองล้อกับสี่ล้อที่จะใช้เส้นทางแข่งที่ต่างกัน อีกทั้งจะกลับมาใช้การปล่อยตัวแบบเป็นกลุ่ม ที่จะมุ่งเข้าสู่พื้นที่สันดอนทราย แน่นอนว่าปัจจัยแข่งในสเตจนี้ไม่ได้วัดกันที่ความเร็วแต่ความเสี่ยงในเกมจะอยู่ที่ navigation เพราะฉะนั้นผมจะต้องพยายามลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นทุกอย่างในระหว่างแข่งขัน”

Stage 7 Provisional Classification
1. Sam Sunderland (GBR), KTM, 03:51:41
2. Ignacio Cornejo (CHL), Honda, 03:53:32, +01:51
3. Ricky Brabec (USA), Honda, 03:58:11, +06:30
4. Adrien Van Beveren (FRA), Yamaha, 04:01:21, +09:40
5. Luciano Benavides (ARG), KTM, 04:03:00, +11:19
6. Andrew Short (USA), Husqvarna, 04:03:10, +11:29
7. Xavier de Soultrait (FRA), Yamaha, 04:03:53, +12:12

 
Provisional Overall Classification [After Stage 7]
1. Ricky Brabec (USA), Honda, 24:48:02
2. Adrien Van Beveren (FRA), Yamaha, 24:55:49, +07:47
3. Toby Price (AUS), KTM, 24:56:30, +08:28
4. Sam Sunderland (GBR), KTM, 24:58:00, +09:58
5. Pablo Quintanilla (CHL), Husqvarna, 24:58:01, +09:59
6. Kevin Benavides (ARG), Honda, 25:04:17, +16:15

10. Xavier de Soultrait (FRA), Yamaha, 25:28:10, +40:08












UIP : 390 | Page View : 396