​ทัพนักแข่งYamaha พร้อมนำ WR450F Rally สู้ศึก 2019 Dakar

ทีมโรงงานยามาฮ่า ลงชิงชัยในแรลลี่ดาการ์ ในชื่อ Yamalube Yamaha Rally ด้วยรถแข่งWR450F Rally “เวอร์ชั่นล่าสุด” ซึ่งได้ออกเดินทางจากท่าเรือในฝรั่งเศสไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือในเปรูเป็นที่เรียบร้อย และนักแข่งพร้อมด้วย WR450F Rally ได้ผ่านการตรวจสภาพ รวมทั้งมีโอกาสสัมผัสพื้นทะเลทรายในขั้นตอนเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้าย ก่อนจะเข้าสู่การชิงชัยทั้งสิ้นสิบสเตจ ระหว่าง 6-17 มกราคมนี้   สำหรับเส้นทางการแข่งขันทั้ง 10 สเตจจะมีดังนี้
สเตจ 1: Lima-Pisco , Liaison 247km-Special 84 km
สเตจ 2 : Pisco-San Juan De Marcona , Liaison 211 km –Special 342 km
สเตจ 3 : San Juan De Marcona-Areuipa , Liaison 467 km –Special 331 km
สเตจ 4 : Areuipa-Mouegua (Bike/Quad) , Arequipa-Tacna(Truck/SXS/Car) , Liaison 106 km-Special 405 km ในสเตจนี้เป็นมาราธอนสเตจ marathon stage ที่ห้ามทำการเซอร์วิสรถแข่งหรือให้การช่วยเหลือนักแข่ง ยกเว้นนักแข่งด้วยกันที่ยังคงอยู่ในการแข่งขัน
สเตจ 5 : Moquegua-Arequipa (Bike/Quad) , Tacna-Arequipa (Truck/SXS/Car) , Liaison 431 km-Special 345km ,ขั้นตอนการสตาร์ทนั้น จะปล่อยตัวเป็นกลุ่ม mass starts
REST : Arequipa
สเตจ 6 : Arequipa-San Juan De Marcona , Liaison 502 km-Special 336 km
สเตจ 7 : San Juan De Marcona –San Juan De Marcona  , Liaison 64 km-Special 323 km
สเตจ 8 : San Juan De Marcona – Pisco , Liaison 215 km-Special 360 km สำหรับการสตาร์ทในสเตจนี้จะปล่อยตัว ตามลำดับ จากผลงานในสเตจที่7 สำหรับ TOP10 ประเภทจักรยานยนต์และรถยนต์ , TOP5 สำหรับรถบรรทุก
สเตจ 9 : Pisco-Pisco , Liaison 96 km-Special 313 km จะมีการปล่อยตัวแบบ mass start
สเตจ 10 : Pisco-Lima , Liaison 247 km-Special 112 km ปีที่ผ่านโดยปกติสเตจสุดท้ายจะเป็นแนววิ่งโชว์สำหรับผู้นำที่เพียงแค่ประคองตำแหน่งการแข่งขันก็เพียงพอ ทว่าในปีนี้สเตจสุดท้ายนี้ เส้นทางจัดในระดับ”ยาก”   










 
โดย Adrien Van Beveren ได้กล่าวว่า “ ผมมีความพร้อมอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขัน โดยตลอดไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหลังจบแรลลี่ชิงแชมป์โลก ผมก็ทำการฟิตสภาพร่างกายเป็นอย่างดี ซึ่งผมรู้สึกว่าสมรรถนะร่างกายของผมนั้นอยู่อีกระดับเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ซึ่งผมมั่นใจว่าตัวผมมีความพร้อมมากเพียงพอสำหรับการยืนระยะแข่งขันในแรลลี่ที่ยากที่สุดรายการนี้ สำหรับในปีนี้กับการแข่งขันที่เปรูโดยส่วนตัวผมคิดว่าสภาพการแข่งขันที่นี่น่าจะเหมาะกับสไตล์การขี่ของผม ซึ่งนั่นหมายความว่าผมจะสามารถบิดได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มต้นจนจนการแข่งขัน แม้ว่าความยากของการแข่งจะยังคงมีเรื่องของการอ่านทาง การตัดสินใจเลือกไลน์ขี่ ที่ระหว่างทางนั้นจะมีสันดอนทรายค่อนข้างมาก แต่ก็มั่นใจว่าจะสามารถก้าวผ่านมันไปได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้ดีที่สุด และในดาการ์นี้ก็เช่นกันผมหวังที่จะมีผลงานที่ดีที่สุด ”









 
อีกหนึ่งนักแข่งของทีมอย่าง Xavier de Soultrait ก็ได้ออกมากล่าวว่า “ ผมทำงานมากมายอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรายการนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองมีความพร้อมเต็มร้อยสำหรับการท้าทายในเกมที่ยากที่สุดรายการนี้ ผมพยายามศึกษารายละเอียดเส้นทางแต่ละสเตจ สภาพการแข่งขันในแต่ละวันมาเป็นอย่างดี ซึ่งผมเชื่อว่ารู้มากพอว่าจะต้องทำอย่างไรในการแข่งขันดาการ์ครั้งนี้ และที่ผ่านมาก่อนหน้านี้รถแข่งของเราก็แสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพที่ดีเพียงไรกับการฝ่าไปในสันดอนทราย ผมหวังว่าจะสามารถทำความเร็วได้ดีมากพอในทุกสเตจ ซึ่งผมเองโฟกัสไปที่การทำอันดับให้ดีที่สุดในแต่ละวัน ” นอกจากนี้อีกสองนักแข่งอย่าง Franco Caimi และ Rodney Faggotter ต่างก็ออกมากล่าวในทำนองเดียวกันว่า ต่างเตรียมความพร้อมกันอย่างเต็มที่เพื่อหวังจะทำผลงานที่ดีที่สุดร่วมกับทีมใน 2019 Dakar Rally นี้ 









UIP : 374 | Page View : 380