
ในรุ่นMoto2 ปี2018 ที่ผ่านมาต้องถือว่าเป็นรุ่นรวมดาวรุ่งก็ว่าได้ ที่นักแข่งดีกรีแชมป์ รุ่นเล็กอย่างMoto3 ขึ้นมารวมกันในรุ่นนี้กับแบบครบถ้วน ตั้งแต่ Alex Maruez(2014),Dany Kent(2015),Brad Binder(2016),Joan Mir(2017)จะขาดก็แชมป์สองสมัยแรกอย่าง Sandro Cortese(2012)ที่ไปแข่งในWorldSSP , Maverick Vinales(2013)ที่ไปแข่งในMotoGP ซึ่งในฤดูกาล2018 ที่ผ่านมานั้นเป็นที่รู้กันดีว่าจะเป็นปีสุดท้ายของการใช้เครื่องยนต์Honda สี่สูบที่พัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานของเครื่องยนต์ CBR600 สำหรับใช้ซัพพอร์ทการแข่งขันในรุ่น Moto2 ตั้งแต่ปี 2010 คิดคำนวณเป็นระยะทาง 2.8 ล้านกิโลเมตร เทียบเท่ากับการเดินทางไปกลับดวงจันทร์สามรอบนั้นได้สิ้นสุดลงในฤดูกาล 2018 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่นักแข่งลงชิงชัยด้วยเครื่องยนต์จากHonda และนี่คือส่วนหนึ่งของบันทึกเรื่องราวของเกมการชิงชัยในฤดูกาลสุดท้ายที่ผ่านมา ของการสิ้นสุดยุคเครื่องยนต์ Honda ฤดูกาลสุดท้ายของ Moto2 ซึ่งตำแหน่งแชมป์คนสุดท้ายเป็นของ Francesco Bagnaia ที่มี 306คะแนน เฉือนชนะ Miguel Oliveira ที่มี 297 คะแนน อยู่ 9 แต้ม ขณะที่อันดับสาม Brad Binder นั้นตามหลังอยู่ 105แต้ม
โดยผู้ชนะในฤดูกาลนี้ได้แก่ Bagnaia 8 ครั้ง จากเกมที่กาตาร์ในนัดเปิดฤดูกาล – สนาม 3 ที่อเมริกา – สนาม 5 ที่ ฝรั่งเศส-สนาม 8 ที่ เนเธอร์แลนด์ - สนาม 11 ที่ออสเตรีย – สนาม 13 ที่ ซานมารีโน่ - สนาม15 ที่ไทย - สนาม16ที่ญี่ปุ่น
Oliveira 3 ครั้ง เริ่มด้วยสนาม 6 ที่อิตาลี – สนาม 10 ที่สาธารณะเชค – สนาม 19 ที่บาเลนเซีย
Binder 3 ครั้ง เริ่มด้วย สนาม 9 ที่เยอรมัน – สนาม 14 ที่อารากอน – สนาม 17 ที่ออสเตรเลีย
Lorenzo Baldassarri 1 ครั้ง กับเกมสนาม 4 ที่ สเปน
Luca Marini 1ครั้ง กับเกมสนาม 18 ที่มาเลเซีย
Mattia Pasini 1 ครั้ง กับเกมสนาม 2 ที่อาร์เจนติน่า
Fabio Quartararo 1 ครั้ง กับเกมสนาม 7 ที่คาตาลุญญ่า
เกมนัดเปิดฤดูกาลที่ Losail,Qatar>กองบรรณาธิการของHondaRacingได้ยกให้เป็นเกมสุดมันระหว่าง>Bagnaia กับBaldassari ที่เป็นเกมช่วงชิงกันตั้งแต่ต้นเกมที่จะวัดว่าใครจะรั้งจ่าฝูงในนัดเปิดฤดูกาล ซึ่ง Lorenzo Baldassari กับ Francesco Bagnaia นัวเนียกันจนถึงรอบสุดท้าย ก่อนที่ในโค้งสุดท้ายรอบสุดท้าย Baldassari จะยัดเข้าโค้งพร้อมทั้งขึ้นนำทะยานออกจากโค้งได้เป็นคันแรกเฉือนชนะไปด้วยเวลาเพียง 0.112 วินาที
เกมถัดมาที่ Circuit of the Americas , United States ซึ่งเป็นสนามสามของฤดูกาล นั้น>กองบรรณาธิการของHondaRacing บอกว่าการขับเคี่ยวระหว่าง Bagnaia vs Marquez นั้นเป็นอีกเกมที่ชวนตื่นตา ซึ่งในเกม American GPเกมนี้ Alex Maruez โดดเด่นตั้งแต่ช่วงควอลิฟาย จนคว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่นจนกระทั่งขึ้นนำในช่วงครึ่งแรกของเกมการชิงชัย ก่อนที่ Bagnaia ที่ตามเกาะติดนั้นจะเปิดเกมบู๊ขยับขึ้นนำในช่วงท้ายเกมโดยเขาสามารถรั้งตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้ในห้ารอบสุดท้ายคว้าชัยได้อีกครั้ง ทว่าซีนที่น่าสนใจนั้นอยู่ที่ ความพยายามของ Joan Mir ที่เป็นหนึ่งในนักแข่งที่ติดกลุ่มพลาดล้มในรอบแรก และจากอันดับที่หล่นลงไปตำแหน่งที่สิบเก้าของเกม เขาขยับที่ละสเตปไต่ทีละตำแหน่ง เร่งทำความเร็วแซงขึ้นมาจนจบด้วยอันดับสี่ ห่างจากตำแหน่งสุดท้ายบนโพเดี้ยมเพียงสองวินาทีเท่านั้น
สำหรับเกมสนามห้าของฤดูกาลชิงชัยกันที่Lemans,France นั้น>กองบรรณาธิการHondaRacing กล่าวว่าเป็นการขี่แห่งปี ที่ระบุว่าเป็น Vierge ‘s ride of the season ที่นอกจากการขี่ของ Mirในเกมก่อนหน้านี้แล้วแล้ว นักแข่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการขี่แห่งปีก็คือ Xavi Vierge ที่สามารถควอลิฟายจนออกสตาร์ทได้จากแถวหน้า แต่เนื่องจากเกิดปัญหาทางด้านเทคนิค ส่งผลให้เขาต้องไปสตาร์ทจากท้ายแถว ปรากกว่าด้วยทักษะชั้นเยี่ยม เขาสามารถที่จะทำการขับเคี่ยวกับนักแข่งทั้งสามสิบคนในรุ่นได้อย่างเร้าใจ เมื่อในยี่สิบห้ารอบการแข่งขันเขาสามารถไล่แซงจนจบด้วยอันดับที่ห้าในเกมนี้
ผลการแข่งขันในสนามเจ็ดของฤดูกาลที่ Circuit de Barcelona-Catalunya , Spain >ทางกองบรรณาธิการของ Honda Racing ได้ระบุว่าเป็นเกมที่ตั้งชื่อว่า Shock from Quartararo ซึ่งหลายคนแปลกใจกับตำแหน่งโพลโพสิชั่นของ Fabio Quartararo ที่ทำโพลได้ครั้งแรกในชีวิต ขณะที่ก่อนหน้านี้ทำได้ดีที่สุดเป็นอันดับเก้าในAmerica GP แต่ที่ต้องเซอร์ไพรสยิ่งขึ้นก็คือ เขาสามารถคว้าชัยในเกมนี้ได้สำเร็จ ทั้งที่ผลงานที่ดีที่สุดก่อนหน้านี้เขาทำได้เพียงแค่อันดับหกในเกม Sanmarino GP ในปีที่ก่อนนี้
เข้าสู่ช่วงเอเชียทัวร์กับเกมสนามสิบแปดที่ Sepang,Malaysia >กับเหตุการณ์ที่เรียกว่า Marquez Magic ที่แน่นอนว่าไม่มีใครสงสัยในทักษะของ Marc Marquez ที่ในเกมนี้แม้เขาจะพลาดล้มจนต้องเปลี่ยนรถแข่งคันที่สองก่อนจะออกมากดเวลาคว้าโพลโพสิชั่นไปได้ ซึ่งในเกมที่มาเลเซียนี้ดูเหมือนว่า ความสามารถนี้จะส่งผ่านยีนส์ เมื่อ Alex Marquez ก็ทุ่มเทเต็มที่เต็มที่หลังล้มระหว่างควอลิฟายเช่นเดียวกับ Marc แล้วก็กลับมากดเวลาคว้าโพลได้เหมือนกัน และก็ที่สนามนี้เช่นกันที่ซึ่ง ตำแหน่ง 2018 Champion สิ้นสุดการต่อสู้ที่นี่ เมื่อ Bagnaia ผ่านเส้นชัยเป็นอันดับสามก็เพียงพอที่เขาจะเฉลิมฉลองตำแหน่งแชมป์โลกได้ทันทีแม้จะยังเหลือการชิงชัยที่Valencia อีกเกมก็ตาม ด้วยชัยชนะ 8 ครั้ง รวมโพเดี้ยมทั้งสิ้น 12 ครั้ง ในฤดูกาลนี้ ส่งผลให้เขาครองบัลลังก์แชมป์โลก Moto2 ปิดท้ายยุคของเครื่องยนต์จากHonda ในรุ่นนี้ไปครอง
และนับจากปีแรกที่เริ่มต้นแข่งขันเป็นต้นมา ตำแหน่งแชมป์ในรุ่น Moto2 ในยุคสมัยของเครื่องยนต์ Honda มีดังนี้
2010Toni Elias(Moriwaki),2011Stefan Bradl(Kalex),2012Marc Maruez(Suter),2013Pol Espargaro(Kalex),2014Esteve Rabat(Kalex) ,2015-2016Johann Zarco(Kalex),2017Franco Mobidelli(Kalex),2018 Francesco Bagnaia(Kalex)
สำหรับฤดูกาลหน้า 2019 Moto2 นั้น จะเป็นการเริ่มต้นสู่ยุคใหม่ของเครื่องยนต์ที่จะได้รับการสนับสนุนจากค่ายรถจากอังกฤษอย่าง Triumph ที่พัฒนาเครื่องยนต์มาใช้ในการแข่งขันแทนHonda ก็ต้องติดตามว่า ใคร จะประเดิมแชมป์แรกของรุ่น Moto2 ในยุคใหม่ กับเครื่องยนต์จากTriumph และที่น่าสนใจก็คือ ดาวรุ่งจากซุ้ม VR46 จะสามารถก้าวขึ้นมาสร้างความสำเร็จในรุ่นนี้ได้อีกหรือไม่ หลังจากที่ Franco Morbidelli และ Francesco Bagnaia เป็นสองนักแข่งเด็กปั้นจากโรงเรียนสอนซิ่งค่าย VR46 ที่คว้าแชมป์โลกสองสมัยหลังสุดไปครองได้แล้วนั่นเอง