
ในการแข่งขันครั้งที่ 41 ของ Dakar Rally หมายเลข1 นั้นจะเป็นรถแข่งของ เจ้าของตำแหน่งแชมป์จากปีที่แล้ว คือ Matthias Walkner ขณะที่รองแชมป์อย่าง Kevin Benavides เลือกที่จะใช้หมายเลข 47 ซึ่งเป็นหมายเลขที่ใช้ตั้งแต่ครั้งแรกในปี2016 ส่วน Toby Price ที่จบบนโพเดี้ยมในปีที่แล้วก็เปลี่ยนมาใช้หมายเลข 3 ขณะที่นักแข่งในระดับแฟคทอรี่ทีมคนอื่นนั้น ก็ได้แก่ Paulo Goncalves หมายเลข2, Adrien van Beveren หมายเลข4 ,Joan Bareda Bort หมายเลข5 , Pablo Quintanilla หมายเลข6 ,Jose Ignacio Cornajo หมายเลข 10 , Sam Sunderland หมายเลข14 , Ricky Brabec หมายเลข 15 , Xavier de Soultrait หมายเลข18 ,Rodney Faggotter หมายเลข 25 และ Andrew Shot หมายเลข 29 เป็นต้น สำหรับนักแข่งหญิงใน 2019 Dakar Rally นี้ จะมีทั้งหมด 6 คน ที่เข้าร่วมแข่งขันในประเภทรถจักรยานยนต์ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ Laia Sanze ที่จะใช้หมายเลข17 ในขณะที่นักแข่งหญิงหน้าใหม่ในประเภทรถจักรยานยนต์จะมี Sara Garcia หมายเลข 98 กับ Gianna Velarde หมายเลข130 นอกจากนี้ในประเภทรถควอด ก็จะยังคงมีนักแข่งหญิงอย่าง Suany Martinez หมายเลข 274 ที่ลงแข่งขันมาแล้วสามครั้ง โดยมีเป้าหมายในครั้งนี้ที่จะพยายาม”จบการแข่งขัน”ให้สำเร็จ
เช่นเดียวกับในช่วงสิบปีหลังสุดของการแข่งขัน Dakar Rally โดยรถแข่งทั้งหมดเกือบ 270 คัน จะมาพร้อมกันที่ท่าเรือ Le Harve ในฝรั่งเศส เพื่อที่จะขนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมุ่งสู่ Port of Lima หรือท่าเรือในกรุงลิม่า ประเทศเปรู ที่จะใช้เวลาเดินทาง 21 วัน ซึ่งกำหนดการคือ สิ้นเดือนธันวาคม รถแข่งและอุปกรณ์ทั้งหมด จะต้องขึ้นฝั่งที่เปรูนั่นเอง สำหรับการแข่งขันครั้งที่ 41 ของ Dakar Rally จะชิงชัยกันระหว่าง 6-17 มกราคม ที่ซึ่งในปีนี้จะแข่งเพียงในพื้นที่ประเทศเปรูแห่งเดียวเท่านั้น โดย 70% ของเส้นทางแข่งขันจะอยู่ในทะเลทราย จากทั้งสิ้น 10 สเตจ ระยะทางรวม 5 พันกิโลเมตร และ Adrien Van Beveren หนึ่งในนักแข่งจาก Yamalube Yamaha Rally Team ที่เพิ่งพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บในช่วงครึ่งปีหลังสุดได้พร้อมที่จะลงชิงชัยใน 2019 Dakar Rally ได้กล่าวว่า
“ผมคงไม่ดีใจไปมากกว่านี้อีกแล้วที่ในช่วงไม่กี่เดือนนี้สามารถที่จะกลับมาออกกำลังทำการฟิตซ้อมแล้วลุกขึ้นมาจับรถแข่งลงซ้อมได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง ซึ่งผมรู้สึกดีอย่างมากที่ได้จับรถแข่งอีกครั้งและสัมผัสได้ถึงความรุดหน้าของรถแข่งที่พัฒนาจนรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่มี ผมรู้สึกว่าเราก้าวขึ้นไปอีกขั้นกับการแข่งขันดาการ์ในครั้งนี้ ขณะที่ในส่วนตัวผมเองนั้นก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของร่างกายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว ถึงเวลานี้สำหรับผมแล้วนั้นคิดว่าขอเวลาเรียนรู้รายละเอียดเล็กน้อยในส่วนต่างทั้งรถแข่ง แผนการแข่งขัน และอื่นอีกเล็กน้อยก็พร้อมที่จะเข้าสู่เปรู ที่ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ส่วนใหญ่จะแข่งขันกันในเปรูที่ซึ่งเส้นทางโดยมากจะอยู่ในทะเลทราย ซึ่งส่วนตัวผมนั้นชอบมากกับการตะลุยไปบนสันดอนทราย และแม้ว่าระยะทางการแข่งขันจะสั้นลงกว่าที่ผ่านมาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเกมที่ง่าย ความเป็นดาการ์ก็ยังคงความโหดในแบบฉบับของดาการ์เช่นที่ผ่านมา แน่นอนว่าผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งถึงเวลานี้ผมมีความมั่นใจในความรุดหน้าของรถแข่งและทีมเรามากขึ้น และเชื่อว่าเส้นทางแข่งขันในครั้งนี้จะเหมาะกับสไตล์ของผมอีกด้วย ”
โดยในเบื้องต้น ทั้ง สิบสเตจของการชิงชัยใน 2019 Dakar Rally มีดังนี้
Race Schedule - Dakar Rally 2019
Stage 1 | Jan 7 | Lima to Pisco | SS: 84km | Total: 331km
Stage 2 | Jan 8 | Pisco to San Juan de Marcona | SS: 342km | Total: 554km
Stage 3 | Jan 9 | San Juan de Marcona to Arequipa | SS: 331km | Total: 779km
Stage 4 | Jan 10 | Arequipa to Moquegua | SS: 352km | Total: 511km
Stage 5 | Jan 11 | Moquegua to Arequipa | SS: 345km | Total: 776km
Rest Day | Jan 12 | Arequipa
Stage 6 | Jan 13 | Arequipa to San Juan de Marcona | SS: 317km | Total: 839km
Stage 7 | Jan 14 | San Juan de Marcona to San Juan de Marcona | SS: 323km | Total: 387km
Stage 8 | Jan 15 | San Juan de Marcona to Pisco | SS: 361km | Total: 576km
Stage 9 | Jan 16 | Pisco to Pisco | SS: 313km | Total: 410km
Stage 10 | Jan 17 | Pisco to Lima | SS: 112km | Total: 358km
มาเอาใจช่วย สี่นักแข่ง Yamalube Yamaha Rally Team ทั้ง Adrien Van Beveren, Xavier de Soultrait , Rodney Faggotter และ Franco Caimi ว่าจะสามารถนำ WR450F Rally ทำผลงานได้ดีเพียงใดในเกมแรลลี่สุดหฤโหดครั้งนี้