
ในฤดูกาล 2019 ของการแข่งขันMoto2 นั้น กล่าวได้ว่าเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ เมื่อรถแข่งทั้งหมดจะเริ่มต้นใช้เครื่องยนต์จากผู้สนับสนุนรายใหม่ คือ Triumph ตามที่ทราบกันไปแล้ว ซึ่งล่าสุดนักแข่งทั้งหมดก็กำลังเดินหน้าลงสนามทดสอบครั้งแรกใน Valencia test พร้อมกับรุ่นที่เกิดขึ้นใหม่อย่างMoto E ที่เป็นรถแข่งไฟฟ้า ที่แข่งขันเก็บคะแนนแบบที่เรียกว่า World Cup แต่ก่อนที่จักรยานยนต์เวิลด์จะพูดถึงรุ่นนี้ ก็กลับมาที่รุ่น Moto2 ซึ่งก็ปรากฏว่า ผลผลิตจากสถาบัน”ปั้นนักแข่ง”ของ Valentino Rossi อย่าง Luca Marini สามารถประเดิมผลงานการทดสอบกับเครื่องยนต์ใหม่ ได้ด้วยการทำ เบสต์แล็บได้ดีที่สุด จากรถแข่งทั้วหมดสามสิบคันที่ร่วมทดสอบ ซึ่งผลการทดสอบของนักแข่งที่ทำเวลาดีที่สุดในตลอด 3 วันเป็นดังนี้
ส่วนในรุ่น Moto E นั้น เบื้องต้นนั้นได้จำนวนนักแข่งที่จะร่วมชิงชัยทั้งสิ้น 18 คน จาก 12 ทีม โดยมีอดีตนักแข่งจาก MotoGP หรือ WorldGrandPrix อย่าง Sete Gibernau รองแชมป์โลกรุ่น500ซี.ซี.สองสมัย , Nico Terol แชมป์ 2011Moto3 , Mike di Meglio แชมป์ 2008 รุ่น 125 ซีซี รวมทั้งยังมีแชมป์จากสังเวียน FIM Endurance World Championship อย่าง Josh Hook(2017), Kenny Foray(2014) เป็นต้น ซึ่งนักแข่งทั้งหมดมีดังนี้
สำหรับการแข่งขันนั้นจะชิงชัยกันห้าสนามในเกม MotoGP ที่แข่งขันกันในยุโรปซึ่งได้ ยืนยันแล้วว่าจะแข่งร่วมในรายการดังนี้
• Jerez - 5th May
• Le Mans - 19th May
• Sachsenring - 7th July
• Austria - 11th August
• Misano - 15th September (สนามนี้จะแข่งสองเรซ)
รถแข่ง Energica Ego Corsa ที่นักแข่งทุกคนใน MotoE จะใช้ชิงชัยกันนั้น จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 20 Kwh ที่ให้กำลังมากถึง 120Kw หรือเทียบเท่า 160 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุดที่ 200 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-60 กม./ชม. ได้ในเวลา 2.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ ถึง 270 กม./ชม. โดยที่ใช้ระบบเบรกจาก Brembo, ระบบกันสะเทือนจาก Ohlins suspension , วงล้อจาก Marchesini wheels ซึ่งรถแข่งทุกคันจะถูกจำกัดและกำหนดสเปคชิ้นส่วนบางอย่างไว้แบบเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น สปริง ที่ทุกทีมจะได้รับอนุญาตให้เลือกในช่วงหรือแบบที่กำหนดไว้ โดยจะสามารถทำการปรับเซ็ทได้เฉพาะความแข็งตามความต้องการของนักแข่งเท่านั้น และล่าสุดจากการทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ Valencia test มีผลการทดสอบดังนี้