NINE STAMP อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักแข่งทีม VR46 MASTER CAMP ในฐานะนักแข่งไวลด์การ์ดกับก้าวแห่งประสบการณ์การลงชิงชัยในเกม Moto3 เป็นครั้งที่2 แม้จะจบการแข่งขันในอันดับที่ 22 แต่ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ระดับโลกไปไว้ใช้ในอนาคต
 
NINE STAMP อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักแข่งทีม VR46 MASTER CAMP กับเกมเสริมสร้างประสบการณ์ในการแข่งขันระดับโลกเป็นครั้งที่สองของปีในการแข่งขันในรุ่น Moto3 ที่ทำการแข่งขันที่สนามเซปังเซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย จากรอบการควอลิฟาย NINE STAMP อภิวัฒน์ อยู่ในกริดสตาร์ทอันดับที่ 26 ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งเกินร้อยที่จะทำผลงานให้ดีที่สุด พร้อมวางเป้าหมายแรกไว้ด้วยการขับขี่ให้จบการแข่งขัน







เกมออกสตาร์ท นักแข่งในคลาสMoto3 ทั้ง 29 คันพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ท NINE STAMP อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ กับรถแข่งหมายเลข 9 เริ่มต้นเกมกับการออกสตาร์ทได้ดีขยับขึ้นมาอีก 3-4 ตำแหน่งก่อนถึงโค้งแรก แต่เมื่อเข้าโค้งด้วยความมุ่งมั่นบวกกับบิดทะยานด้วยความเร็ว ทำให้ไปเสียงจังหวะในโค้งแรก แต่ก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดีก่อนที่จะพยายามเกาะกลุ่มเพื่อชิงชัยในรอบแรกให้ดีที่สุด หลังผ่านรอบแรก NINE STAMP ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 23 ในขณะที่เกมชิงแชมป์โลกในกลุ่มหน้าเปิดศึกกันอย่างดุเดือด ทั้งฮอร์เก้ มาร์ติน#88และ มาร์โก้ เบนเซสกี้#12 ต่างชิงจังหวะกันอย่างดุเดือด เข้ารอบ 4 NINE STAMP ขยับเวลาขึ้นมาอยู่ที่ 2’16.361 นาที และรอบที่ 6 ก็ทำเวลาอยู่ที่ 2’16.151 นาที ซึ่งถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดในรอบการแข่งขัน ซึ่งNINE STAMP สามารถแสดงให้เห็นหัวใจของนักสู้ แม้จะเจอกับอุปสรรค์ในการปรับเซ็ทรถ โดยเฉพาะสภาพการแข่งขันบนแทร็คแห้งที่มีอุณหภูมิสูงถึง 30 องศา ด้วยข้อมูลDATAในสภาพแทร็คแห้งที่มีเพียงน้อยนิด NINE STAMP พยายามนำรถแข่งคู่ใจไปให้เร็วที่สุดเพื่อเป้าหมายให้จบการแข่งขัน จนเมื่อครบ 17 รอบของการชิงชัย NINE STAMP อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ สามารถจบการแข่งขันในอันดับที่ 22 ได้ ในขณะที่กลุ่มหน้าของการแข่งขันเพื่อชิงชัยในตำแหน่งแชมป์โลก ฮอร์เก้ มาร์ติน สามารถคว้าชัยชนะคว้าแชมป์โลกMoto3 ไปครอง ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญมาร์โก้ เบนเซสกี้#12 จบการแข่งขันในอันดับที่ 5








 
ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจในเกมการแข่งขันของ NINE STAMP อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักแข่งในคลาสโมโต3จูเนียร์ ที่ได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ดในการลงทำการแข่งขันในเกมระดับชิงแชมป์โลกถึง 2 สนาม เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ล้ำค่าของนักแข่งไทยในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนเวทีระดับโลก
 
นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด  ได้กล่าวว่า “การแข่งขันในวันนี้เป็นอีกประสบการณ์ที่ต่อยอดมาจากการแข่งขัน PTT Thailand GrandPrix ทั้งนี้เรามุ่งหมายว่าสนามนี้เราจะเอานักแข่งมาเก็บประสบการณ์เพราะสนามเซปังแห่งนี้เป็นสนามที่มีความยากระดับหนึ่ง ซึ่งในสอง-สามวันมานี้อภิวัฒน์ก็มีปัญหาในการปรับเซ็ทรถเพราะสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ทำให้เซ็ทติ้งรถยาก นักแข่งเองก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นและมีความกังวล วันนี้ที่แข่งก็จะเห็นว่าท็อปสปีดก็ยังไม่ดีนัก วันนี้ออกตัวได้ดีแต่ความเร็วในโค้งทำให้เราเกาะกลุ่มได้ยาก การจบในอันดับที่ 22 ถือว่าอภิวัฒน์ก็คงได้ประสบการณ์ในเกมนี้ไปใช้อีกเยอะ สิ่งหนึ่งที่เราต้องเรียนรู้คือนักแข่งกับทีมจะต้องมีความเข้าใจในการทำงานนี้และต้องผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน สนามนี้เรามีปัญหาในการเซ็ทติ้งทำให้อภิวัฒน์มีโอกาสขับขี่รถได้น้อย ข้อมูลที่เราจะเอามาใช้ในการปรับเซ็ทรถก็น้อยลงไปอีก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราได้เรียนรู้ ซึ่งแน่นอนว่าเราได้อะไรหลายอย่างไปเยอะมากในวันนี้ ทั้งนี้เราอย่าลืมว่า อภิวัฒน์เองก็เป็นนักแข่งที่มีพรสวรรค์ มีความสามารถ ตลอดฤดูกาลในเกมCEV ซึ่งเป็นรายการน้องๆชิงแชมป์โลก อภิวัฒน์อยู่ในระดับท็อปเท็น อย่างปีนี้ที่ลงแข่งไปก็มีผลงานที่ดีได้รองแชมป์ หรือล่าสุดที่สเปนก็ได้อันดับ 4 ซึ่งถือว่ามีความสามารถอยู่ อภิวัฒน์ยังมีความสามารถในการพัฒนาไปได้ต่อไปในเกมซึ่งอาจจะเป็นโมโตทรีหรือโมโตทูครับ”







ด้าน “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันว่า “เรซนี้เป็นเรซที่ยากมากสำหรับผม และทีม เราเสียการซ้อมช่วงหนึ่งไปเต็มๆ จากการล้มในรอบ FP2 ของวันแรก ทำให้เรายังหาเซ็ตอัพที่ลงตัวไม่ได้ การแข่งขันในเรซนี้เราได้ประสบการณ์ที่เยอะมากๆ ครับ โดยเฉพาะในเรซระดับเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งนักบิดทุกๆ คนปรับตัวได้เร็วมาก และเราเองก็ต้องเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองให้เร็วขึ้น สนามนี้อาจยังไม่ใช่เรซของเรา แต่ผมจะยังไม่หยุดพัฒนา ฝากแฟนๆ ติดตามผลงานด้วยครับ”

สำหรับ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ #9 ยังมีคิวลงแข่งขันในศึก เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามสุดท้ายในวันที่ 24-25 พฤศจิกายนนี้ ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน