
หลังจากพิชิตศึกการแข่งขันสุดทรหดรายการซูซูก้า เอ็นดูร้านซ์ 4 ชั่วโมง ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคว้าแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่สองได้อย่างสมศักดิ์ศรี !!! ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ก็ยกทัพนักบิดและทีมงานเดินทางถึงสนาม Madras Motor Race Track ประเทศอินเดียในอีกสองวันถัดมาแบบไม่มีการหยุดพัก เพื่อร่วมทำศึกชิงแชมป์ทางเรียบ เอเซีย โรด เรซซิ่ง 2018 สนามที่ 4
วันแรกของการซ้อมเพื่อเซ็ตรถตามโปรแกรมที่ผู้จัดการแข่งขันวางไว้ 3 ช่วงทั้งในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. และรุ่นเอเซียโปรดักชั่น 250 ซีซี. ทีมแมคคานิกส์ต้องทำงานอย่างหนักแข่งกับเวลาในการปรับรถแข่งให้พร้อมสำหรับสภาพสนามของ Madras Motor Race Track ที่มีถึง 12 โค้งบนความยาว 3.74 กิโลเมตร และมีทางตรงสั้นๆ เพียง 360 เมตร การซ้อมครั้งที่ 1 ในรุ่นเอเซียโปรดักชั่น 250 ซีซี. "ตี" อนุภาพ ซามูล No.500 ขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เปิดเกมบู๊ทำเวลา 1:48.4 นาที เร็วที่สุดในจำนวนนักแข่ง 24 คัน และทำเวลาได้เฉียบในการซ้อมครั้งที่ 2 โดยขึ้นเป็นผู้นำประกบคู่กันแบบสูสีกับนักแข่งอินโดนีเซีย ก่อนจบการซ้อมครั้งสุดท้ายกดเวลาลงมาอยู่ที่ 1:48.252 นาที ขณะที่ทีมเมทอีกสองคัน พีระพงศ์ บุญเลิศ No.45 และ คณาฑัต ใจมั่น No.90 ทำเวลามาเป็นอันดับที่ 7 และ 17 ในการซ้อมครั้งแรก ก่อนจะกดเวลาลงมาติดกลุ่มท้อป 10 ในการซ้อมครั้งที่ 2 โดยพีระพงศ์ บุญเลิศ No.45 ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 6 และ คณาฑัต ใจมั่น No.90 อยู่ที่อันดับ 9 “ตอนนี้สภาพร่างกายไม่มีปัญหาครับ แม้ว่าเพิ่งจะเจองานหนักที่ซูซูก้า เอนดูร้านซ์ 4 ชั่วโมง แต่ผมก็เตรียมตัวมาพร้อม ในส่วนของรถแข่ง เครื่องยนต์ปีนี้สมบูรณ์กว่าปีที่แล้วมาก เรามีการเซ็ตช่วงล่าง ระบบกันสะเทือนทั้งหน้าหลังใหม่ แม้ว่าสนามนี้จะโค้งเยอะ ค่อนข้างขี่ยาก แต่ผมก็มั่นใจว่าจะทำเวลาได้ดีในการควอลิฟายวันพรุ่งนี้ครับ" อนุภาพ ซามูล ขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจเต็มที่
ส่วนรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. เดชา ไกรศาสตร์ No.24 นักบิดจอมเก๋าส์กลับมาท้อปฟอร์มอีกครั้ง หลังจากได้รับบาดเจ็บข้อมือจนต้องหยุดพักในสนามที่ผ่านมา โดยทำเวลา 1:41.858 นาทีในการซ้อมครั้งที่ 2 ขึ้นเป็นผู้นำหัวแถวร่วมกับคู่แข่งชาวมาเลเซีย และทีมเมทรุ่นน้อง รัฐพงศ์ วิไลโรจน์ No.56 จบการซ้อมครั้งที่ 2 ด้วยการขยับเวลาขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 11 และปิดท้ายการซ้อมครั้งที่ 3 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ด้วยเวลา 1:41.828นาที ขณะที่ เคมินทร์ คูโบะ No.64 ซึ่งสร้างผลงานคว้าโพเดียมแรกให้กับทีมได้สำเร็จในสนามที่ 3 ต้องฮึดสู้กับสภาพร่างกายที่บอบช้ำจากอาการไข้ ลงซ้อมทำเวลาดีีที่สุดเอาไว้ได้ 1:43.894 นาที ก่อนแพทย์สนามสั่งให้หยุดพักไม่สามารถลงซ้อมได้อีกในช่วงสุดท้าย ต้องรอลุ้นการตรวจสภาพร่างกายอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ !!! วันนี้เป็นแค่การซ้อม เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน มันยังไม่ได้วัดผลอะไร ต้องรอดูวันพรุ่งนี้หลังช่วงควอลิฟาย ตรงนั้นก็คงเห็นได้ชัดขึ้นว่าใครจะมีศักยภาพขึ้นเป็นกลุ่มนำ และก็ต้องไปวัดผลกันจริงๆ ตอนแข่งนั่นแหละครับ คือต้องบอกว่า เอเซีย โรดเรซซิ่ง วันนี้ไม่ธรรมดา ยิ่งในรุ่น 600 ซีซี. จะเห็นว่านักแข่งที่อยู่กลุ่มหน้าๆ ล้วนแต่เคยผ่านการแข่งระดับโลกมาแล้วทั้งนั้น สำหรับความคาดหวังในการแข่งครั้งนี้ ก็คิดว่าน่าจะมี 1 ใน 5 แต่ยังไงผมก็จะทำให้ดีที่สุดครับ" เดชา ไกรศาสตร์ พี่ใหญ่ในกลุ่มนักแข่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม พูดทิ้งท้าย
Qualifying Session
ขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เปิดฉากการควอลิฟายเพื่อจัดตำแหน่งสตาร์ท รุ่นเอเซีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. โดย "ตี" อนุภาพ ซามูล No.500 ยังคงความร้อนแรงด้วยฟอร์มการขี่รักษาเวลาได้อย่างแม่นยำ ก่อนจบการควอลิฟายด้วยเวลาดีสุด 1 นาที 48.335 วินาที ออกสตาร์ทแถวหน้าในกริดที่ 3 ส่วนทีมเมททั้งสองคน พีระพงศ์ บุญเลิศ No.45 และ คณาฑัต ใจมั่น No.90 กดเวลาช่วงควอลิฟายได้เร็วขึ้นกว่าช่วงซ้อม Free Practice โดย พีระพงศ์ บุญเลิศ No.45 ทำเวลา 1 นาที 48.944 วินาที ยึดกริดสตาร์ทแถวที่สองในกริดที่ 6 และ คณาฑัต ใจมั่น No.90 ทำเวลา 1 นาที 49.346 วินาที ออกสตาร์ทกริดที่ 12
รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. การควอลิฟายเป็นไปอย่างดุเดือดเข้มข้น มีนักแข่งล้มได้รับบาดเจ็บจนกรรมการต้องสั่งตีธงแดงหยุดการแข่งขัน และการรีสตาร์ทใหม่ถึงสองครั้งทำให้นักแข่งขี่เกาะกันเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่มีจังหวะให้เปิดคันเร่งอัดกันได้เต็มที่ โดย เดชา ไกรศาสตร์ No.24 สามารถกดเวลาลงมาอยู่ที่ 1 นาที 41.347 วินาที ออกสตาร์ทกริดที่ 4 ส่วน รัฐพงศ์ วิไลโรจน์ No.56 ทำเวลาอยู่ที่ 1 นาที 41.571 วินาที ยึดกริดสตาร์ทที่ 8 และ เคมินทร์ คูโบะ No.64 ซึ่งลงขี่ด้วยสภาพร่ายกายไม่เต็มร้อย ทำเวลาได้ 1 นาที 41.635 วินาที คว้ากริดสตาร์ทอันดับที่ 12 หลังจบการควอลิฟายรุ่นนี้ปรากฎว่ามีนักแข่งที่ทำเวลาอยู่ในช่วง 1 นาที 41 วินาที จำนวนถึง 11 คัน ซึ่งทำให้การดวลคันเร่งในเรซที่ 1 ช่วงเย็นวันนี้จะต้องดุเดือดอย่างแน่นอน !!!
Race 1 Asia Production 250cc.
Rheza Danica Ahrens นักบิดอินโดนีเซีย สังกัด Astra Honda Racing Teamขยับแต้มเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ด้วยชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ในปีนี้ ในการแข่งขันที่ Madras Motor Race Track สนามชิงชัยครั้งที่ 4 ของการชิงแชมป์ FIM Asia Road Racing 2018 ขณะที่เพื่อนร่วมทีม Mario Suryo Aji จบอันดับที่สองอีกครั้งด้วยเวลารวม 21'53.515 นาที โดยนักแข่งของ Astra Honda Racing Team ออกตัวขึ้นนำได้ตั้งแต่ต้นเกม และทิ้งห่างกลุ่มที่ตามไล่ล่ามาข้างหลังออกไปได้เรื่อยๆ โดยจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นในรอบที่ 3 เมื่อ อนุภาพ ซามูล จากยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คู่แข่งตัวฉกาจที่สุดของพวกเขาต้องออกจากการแข่งขันเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้อง รอบที่ 9 กลุ่มนำ 3 คันซึ่งประกอบด้วย Rheza, Marioและ Rey Ratukore จาก ONEXOX TKKR Racing Team ยืดระยะห่างกลุ่มตามออกไปอีก 5 วินาที โดยทิ้งให้ Awhin Sanjaya, Anggi Setiawan, พีระพงศ์ บุญเลิศ, Rafid Topan Sucipto และ Richard Taroreh ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงอันดับที่ 4 เมื่อครบ 12 รอบสนาม Rey Ratukore ซึ่งเกาะกลุ่มนำในตำแหน่งที่ 3 อย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่รอบที่ 4 ก็ทะยานเข้าเส้นชัย คว้าโพเดียมอันดับ 3 ให้กับ ONEXOX TKKR Racing Team ได้สำเร็จ ส่วนการขับเคี่ยวของกลุ่มตามจบลงโดย Rafid Topan Sucipto กระชากคันเร่งรับธงตราหมากรุกคว้าอันดับที่ 4 ตามด้วย Awhin Sanjaya อันดับที่ 5 ในขณะที่ พีระพงศ์ บุญเลิศ จบลงด้วยความผิดหวัง หลุดออกนอกแทร็คลื่นไถลล้มขณะพยายามเบียดชิงอันดับ 4 ในโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย !!!
Super Sport 600cc. Anthony West นักบิดทีม Webike IKAZUCHI Racingเก็บแต้มสำคัญเพื่อขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์เอเชีย โรดเรซซิ่งปี 2018 ด้วยชัยชนะครั้งแรกของเขาที่ Madras Motor Race Trackพร้อมทั้งทำสถิติใหม่ด้วยเวลาต่อรอบ 1'40.585 วินาที เริ่มต้นเกม Taiga Hada และ Tomoyoshi Koyama ออกสตาร์ทคู่คี่นำไปถึงโค้งแรกได้ก่อน โดยมี Anthony West ตามไปในตำแหน่งที่ 3 ในรอบที่ 9ผู้นำเสียจังหวะล้อหลังลื่นสไลด์ขณะเข้าโค้ง ทำให้ West ขยับเข้าใกล้จนประกบติดท้าย จากนั้นในรอบที่ 14 Anthony West อดีตนักแข่งผู้เคยกรำศึก World Superbike และ motoGP มาอย่างโชกโชน ก็ขึ้นนำได้อย่างเด็ดขาด พร้อมปิดเกมเรซที่ 1 คว้าตำแหน่งชนะเลิศเป็นครั้งที่ 3 ด้วยเวลารวม 27'35.304 นาที ยืดระยะห่างบนตารางคะแนนสะสมออกไปอีก 35 คะแนนจากผู้ตามอันดับสอง จุดพลิกผันของเกมเกิดขึ้นในรอบที่ 7 ขณะที่ เดชา ไกรศาสตร์ นักบิดจอมเก๋าส์ชาวไทยที่กำลังไล่บี้ท้าย West ในโค้งที่ 4 แต่ถูก Azlan Shah Kamaruzaman ซึ่งเสียหลักล้มไถลมาชนจนล้มกระเด็นออกนอกแทร็คไปด้วยกันทั้งคู่ การแข่งขันในเรซที่ 1จบลงด้วยชัยชนะแบบทิ้งห่างของ Anthony West ตามด้วย Mohd Zaqhwan Zaidi อันดับที่ 2และ Taiga Hada อันดับที่ 3
Race 2 นักบิดไทยสวมหัวใจสู้เกินร้อย คว้าโพเดียมในศึกชิงแชมป์เอเซีย โปรดักชั่น 250 ซีซี.
“ตี” อนุภาพ ซามูล ยอดนักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ไล่บดขยี้กับคู่แข่งชาวอินโดนีเซียนอย่างสุดมันส์ ก่อนคว้าอันดับ 3 คัมแบ็กขึ้นโพเดี้ยม เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ประเทศอินเดีย
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 มีคิวดวลความเร็วสนาม 4 ระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคมนี้ ที่ มาดราส มอเตอร์ เรซ แทร็ก ประเทศอินเดีย โดยล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเรซที่ 2 ของรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ชิงชัยทั้งสิ้น 12 รอบสนาม กริดสตาร์ทเรซนี้มียอดนักบิดไทยอย่าง “ตี” อนุภาพ ซามูล หมายเลข 500 จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ออกตัวจากแถวแรกในกริดที่ 3 ตามด้วยทีมเมทอย่าง “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ หมายเลข 45 ในกริดที่ 6 ส่วน คณาทัต ใจมั่น หมายเลข 90 ได้ออกตัวจากกริดที่ 12 “ตี" อนุภาพ ซามูล No.500 กลับมาระเบิดฟอร์มโหดได้อย่างสะใจอีกครั้งหลังจากรถแข่งมีปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องในเรซที่ 1 โดยออกสตาร์ทได้เฉียบขึ้นนำในรอบแรกประกบติดด้วยนักบิดอินโดนีเซีย โดยมีทีมเมทอย่าง พีรพงศ์ ตามขึ้นมาลุ้นโพเดี้ยมอีกคนในอันดับ 4 จนกระทั่งเข้ารอบที่ 5 นักแข่งไทยยังคงเติมความร้อนแรงให้กับเกมเบียดสลับกันขึ้นเป็นผู้นำกับกลุ่มนักแข่งอินโดนีเซียอีก 3 คัน โดยมี "ต๋ง" พีระพงศ์ บุญเลิศ No.45 เกาะติดกลุ่มอยู่ในอันดับที่ 4 กลายเป็นกลุ่มนำ 5 คัน ดวลคันเร่งเพื่อช่วงชิงตำแหน่งชนะเลิศกันอย่างดุเดือด โดยการลุ้นแชมป์ที่อินเดียต้องไปวัดกันถึงโค้งสุดท้าย ก่อนที่ อนุภาพ จะนำรถแข่งเข้าป้ายเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลารวม 22 นาที 0.830 วินาที ตามหลังแชมป์อย่าง ราฟิซ โทปัน ซูซิปโต นักบิดอินโดนีเซียนของ ยามาฮ่า เพียง 0.286 วินาทีเท่านั้น ด้าน พีรพงศ์ ตามเข้าป้ายในอันดับ 5 ตามหลังแชมป์เพียง 1.147 วินาที ส่วน คณาทัต เจอสถานการณ์ยากลำบากในกลุ่มกลาง ก่อนพลาดล้มในรอบสุดท้าย พลาดแต้มอย่างนาเสียดาย
ส่วนผลการแข่งขันในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ปรากฏว่า “ตั้น” เดชา ไกรศาสตร์ จอมเก๋าชาวไทยหมายเลข 24 จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ออกสตาร์ทจากกริดที่ 3 ก่อนจบเรซในอันดับ 7 ตามด้วย “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ทีมเมทหมายเลข 59 ในอันดับ 8 ตามหลังแชมป์คนละ 17.968 วินาที และ 20.749 วินาที ตามลำดับ ส่วน เขมินท์ คูโบะ ดาวรุ่งไทยจากสังกัด ยามาฮ่า เรซซิ่ง อาเซียน จบเรซอันดับ 10 ตามหลังแชมป์ 28.183 วินาที
ผ่านการแข่งขัน 4 สนาม อนุภาพ ยังคงอยู่ในสถานการณ์ลุ้นแชมป์ของรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น รั้งอันดับ 3 มี 108 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง 40 คะแนน ส่วน พีรพงศ์ รั้งอันดับ 8 มี 61 คะแนน ตามด้วย คณาทัต ในอันดับ 14 มี 33 คะแนน สำหรับทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม มีคิวลงแข่งขันในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามถัดไป ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคมนี้ ที่สนามเซนตุล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย ก่อนจะกลับมาตัดสินแชมป์ประจำปีที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-2 ธันวาคมนี้