
เข้าสู่เกมส์การแข่งขันรถจักรยานยนต์เอ็นดูโร่กันอีกครั้งซึ่งในรายการนี้เป็นการแข่งขันกันแบบต่อเนื่องยาวนานถึง 3 ชั่วโมง กับเกมการแข่งขันที่ใช้ชื่อการแข่งขันว่า “Kawasaki Enduro 3Hrs.” ซึ่งในสนามนี้เป็นการแข่งขันในสนามที่ 2 ซึ่งทำการแข่งขันกันที่บริเวณอ่างเก็บน้ำสียัดจ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 5 สิงหาคม 2561
สำหรับเกมการแข่งขัน “Kawasaki Enduro 3Hrs.” นี้เป็นการแข่งขันในสนามที่ 2 จากการแข่งขันทั้งหมด 5 สนาม ซึ่งสนามแรกที่เชียงใหม่ก็ผ่านไปแล้ว ส่วนในสนามนี้เป็นสนามที่สอง และในสนามที่ 3 ก็จะลงใต้ไปกันที่หาดใหญ่ จ.สงขลา กลับมาสนามที่ 4 ที่จ.นครราชสีมา และมาปิดท้ายกันที่กรุงเทพฯ สำหรับในสนามที่ 2 นี้ก็เป็นการแข่งขันเอ็นดูโร่ 3 ชั่วโมง ซึ่งก็จะแย่งรุ่นการแข่งขันเป็นรุ่นต่างๆตามรุ่นรถ และนอกจากนั้นก่อนการแข่งขันก็จะมีรุ่นอื่นๆแข่งขันกันในช่วงเช้าอีก 4 รุ่นด้วยกัน โดยที่แบ่งเป็น รุ่นKawasaki140, รุ่นKawasaki150,รุ่นVersys-X300,รุ่นAdventure Open 1 ชั่วโมง ,รุ่น KLX250 โดยกำหนดรอบการแข่งขัน
ส่วนในรุ่น 3 ชั่วโมงนั้นก็จะแบ่งเป็นรุ่นต่างๆดังนี้ รุ่นKawasaki 140,รุ่นKawasaki 150,รุ่น KLX250 และรุ่น Production250 ซึ่งเปิดโอกาสให้รถต่างยี่ห้อเข้ามาร่วมการแข่งขันได้ ซึ่งในช่วงเช้าวันแข่งขันวันอาทิตย์นั้น ก็เปิดรับสมัครนักแข่งขันเข้าร่วมการแข่งขันในรุ่นต่างๆ ซึ่งหลังจากที่รับสัครเรียบร้อยก็เป็นการประชุมนักแข่งเพื่อแจ้งให้ทราบถึงกฏกติกาที่ต้องรู้มาจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง ข้อห้ามต่างๆรวมถึงให้ถามข้อสงสัยต่างๆได้ ซึ่งหลังจากที่ประชุมนักแข่งเรียบร้อยก็เป็นการประเดิมการแข่งขันในสนามที่ 2 ด้วยรุ่น Versys-X300 ซึ่งในรุ่นนี้แข่งขันกันแบบนับรอบสนามโดยที่มีรถลงทำการแข่งขัน 8 คันด้วยกันก่อนที่จะเป็นธีระ พุทธไทย(8) จะคว้าชัยชนะไปครองอันดับที่สองเป็น ณัฐวุฒิ คงฉิม(1)และอันดับที่สามเป็นสุทธิพงษ์(3) อันดับที่สี่เป็นวันชนะ อิ่มแสงวัฒน์(2) อันดับที่ห้าเป็น ตั้มมี่ ศรีดอนทราย(6)
รุ่นถัดมาเป็นการแข่งขันในรุ่นKawasaki 140และรุ่นKawasaki150 โดยปล่อยการแข่งขันในช่วงเวลาเหลื่อมกันนิดหน่อย โดยที่ในรุ่น Kawasaki 140 นั้นมีรถถึง 22 คันกันเลยทีเดียว ส่วนในรุ่น Kawasaki150 นั้นมีมากถึง 26 คันด้วยกัน ซึ่งนักแข่งส่วนใหญ่ก็ลงทำการแข่งขันในรุ่น 3 ชั่วโมงด้วยเป็นการลองรถซ้อมดูเส้นทางไปในตัว แต่เส้นทางอาจมีปรับเปลี่ยนบ้างในบางช่วง ซึ่งเส้นทางที่ใช้วิ่งทำการแข่งขันนั้นผู้จัดไว้ให้วิ่งถึง 3 กิโลเมตรต่อรอบสนามให้นักแข่งได้ประชันฝีมือกัน มีทั้งช่วงที่ต้องใช้ฝีมือเทคนิคส่วนบุคคลฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ซึ่งก็มีนักแข่งที่ไม่จบการแข่งขัน รถพังบ้างไปต่อไม่ได้บ้างจนกระทั่งครบการแข่งขันนั้นผลการแข่งขันในรุ่น Kawasaki140 นั้นเป็น กิตติคุณ นพคุณ(A/11) อันดับที่สองเป็นชาติภูมิ หลาบหนองแสง(A/10) อันดับที่สามเป็นชาติไทย จันทร์ทอง(A/02) อันดับที่สี่เป็นปราโมทย์ ธนพุฒิพงศ์(A/14)และอันดับที่ห้าเป็นมานพ เข็มบุญ(A/20) ส่วนในรุ่นKawasaki 150 นั้นเป็นไตรภพ บุญแต่ง(B/04)อันดับที่สองเป็นศุภกฤต ไหมพรม(B/20) อันดับที่สามเป็นเชิดชาย พลดงนอก(B/07)อันดับที่สี่เป็น หัสพงศ์ ชัยนันท์ธนสิน(B/13) อันดับที่ห้าเป็นปิยะ อู่ทรัพย์(B/23)
ต่อจากนั้นก็มาต่อกันด้วยรุ่น Adventure Open 1ชั่วโมง โดยที่ในรุ่นนี้มีนักแข่งนำรถลงแข่งถึง 13 คันโดยที่ที่ในรุ่นนี้มีนักแข่งสองคนในแต่ละคันผลัดกันขี่กันคนละสองรอบครบ 1 ชั่วโมงใครสามารถทำรอบได้มากที่สุดเป็นผู้ชนะการแข่งไปรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่สนุกสนานกันอีกรุ่นหนึ่งโดยที่การขับขี่เป็นไปอย่างทุกลักทุเลกินแรงนักแข่งเป็นอย่างมากโดยที่เมื่อการแข่งขันครบ 1 ชั่วโมงตามกำหนดแล้วนั้นก็เป็น ธีระ พุทธไทยคู่กับฟิยะพงษ์ ชูใจ(E/08) เป็นผู้ชนพไป อันดับที่สองเป็นของ ตั้มมี่ ศรีดอทรายคู่กับสิทธิชัย แสงนัทธี(E/07) อันดับที่สามเป็นของพงษ์ศักดิ์ คำพรมมีคู่กับ ณภัทร สุวรรณ(E/04) อันดับที่สี่เป็น พิริยะ รุ่งเรืองคู่กับนพพล ตุลาธาร (E/03) และอันดับที่ห้าเป็นจิรพันธุ์ เสียงดังคู่กับศุภโชค เกตุดี(E/11)
ซึ่งหลังจากที่จบการแข่งขันในช่วงเช้าก็เป็นเวลาพักเพื่อรอเวลาในการแข่งขัน “Kawasaki Enduro 3Hrs.” โดยเมื่อถึงเวลาแข่งขันเป็นก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในพิธีเปิดระหว่างผู้จัดและผู้สนับสนุนต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มทำการแข่งขัน “Kawasaki Enduro 3Hrs.” โดยที่เริ่มทำการแข่งขันในเวลา 14.00น. โดยที่การแปล่อยก็ทำการปล่อยกันที่ละรุ่นการแข่งขัน โดยที่ในรุ่น 3 ชั่วโมง รถแต่ละคันต้องมีนักแข่ง 3 คนผลัดกันขับี่กันคนละสามรอบการแข่งขันโดยที่แยกผลการแข่งขันเป็นรุ่นๆไปโดยที่ในรุ่น 3 ชั่วโมงก็จะมีรุ่นต่างๆดังนี้ก็คือรุ่น Production 250 ซึ่งรุ่นนี้ไม่จำกัดยี่ห้อ,รุ่นKawasaki KLX250,รุ่น Kawasaki 150 และรุ่นKawasaki 140 ส่วนเส้นทางนั้นก็มีปรับเปลี่ยนไปบ้างจากเส้นทางที่แข่งขันแบบนับรอบในช่วงเช้า ซึ่งในรุ่น 3 ชั่วโมงตอนบ่ายนี้เมื่อแข่งขันครบสามชั่วโมงแล้วนั้นนักแข่งจะต้อขับขี่อีกหนึ่งรอบสนามจึงถือว่าจบการแข่งขัน ซึ่งผลการแข่งขันนั้นก็จะเช็คเอาจากการนับรอบของกรรมการโดยที่นักแข่งแต่ละคนนั้นก็ต้องขับขี่ให้ครบสามรอบก่อนจะเปลี่ยนตัวนักแข่งคนต่อไปลงมาทำการขับขี่แข่งขันต่อได้ ซึ่งเกมส์การแข่งขันนั้นก็สนุกสนานตามสไตล์ เอ็นดูโร่ 3 ชั่วโมงก็มีให้ลุ้นกันตลอดเวลา 3 ชั่วโมง กับสภาพเส้นทาง ที่บางช่วงเป็นร้องน้ำเป็นหลุมนักแข่งขับไปหลายๆรอบหลายๆคันร่องน้ำอาจจะลึกขึ้นหลุมอาจจะกว้างขึ้นอาจจะต้องเหนื่อยในการผ่านอุปสรรคเหล่านี้ รวมไปถึงสภาพรถที่อาจจะพังไม่สามารถขับขี่แข่งขันต่อได้ รวมไปถึงความฟิตของนักแข่งในชั่วโมงแรกๆอาจจะยังสดขับขี่ได้สบายๆ ซึ่งช่วงท้ายๆอาจจะมีล้าบ้างอาจจะไม่ไหว และอาจจะไม่จบการแข่งขันได้ ซึ่งก็เป็นที่สนุกสนานได้ลุ้นกันตลอด รวมไปถึงการเซอร์วิสต่างๆ เซอร์วิส โซ่ฉีดน้ำมันหล่อลื่น เติมน้ำมันเชื้อเพลิง เปลี่ยนยางที่แตกก็มีให้เห็น ซึ่งเมื่อจบเกมส์การแข่งขันแล้วนั้นผลก็ปรากฏว่าในรุ่น Kawasaki KLX250 ผู้ชนะนั้นเป็นรถหมายเลข K/02 จตุรพร เรืองภักดิ์และ ชาติไทย จันทร์ทอง ทำจำนวนรอบได้ 24 รอบ อันดับที่สองเป็นรถหมายเลข K/01 ศุภากร โทษาธรรม พิเชษฐ์ หงวนตัดและพงษา มีศรี ทำจำนวนรอบได้ 22 รอบ อันดับที่สาม เป็นรถหมายเลข K/08 ธีระ พุทธไทย,ปิยะพงษ์ ชูใจ และมังกร จิระพันธ์ ทำจำนวนรอบได้ 22 รอบเท่ากันแต่ช้ากว่า รุ่น Kawasaki 140 ผู้ชนะเป็นรถหมายเลข T/17 ศุภมิตร จำปาทอง,กิตติพงษ์ คล้ายอ้น และสมานชัย คำรังษี ทำได้ 24 รอบ อันดับที่สองเป็นรถหมายเลข T/22 ศราวุธ มาภิวงค์ เกริกเกียรติ นามแก้วและณัฐพล ทองวรรณ์ ทำได้ 24 รอบ อันดับที่สามเป็นรถมหายเลข T/11 สนั่น ประทุมยศ เจนณรงค์ คำพาและอนู ประมวล ทำได้ 24 รอบเท่ากัน รุ่น Kawasaki 150 ผู้ชนะเป็นรถหมายเลข W/13 ณัฐวุธ พากเพียน,คธาวุฒิ ปรีเปรม และสุรกิจ เงินเย็น ทำได้ 24 รอบ อันดับที่สองเป็นรถหมายเลข W/07 บุญเลิศ บุญแต่ง,กิตติศักดิ์ กลัดลาย และไตรภพ บุญแต่ง ทำได้ 24 รอบ อันดับที่สามเป็น พงศธร อินทะสืบ,ณัฐพล ขจรคำและธนกร วงษ์วิชัย ทำได้ 24 รอบ Production 250 นั้นผู้ชนะเป็นรถหมายเลข P/02 จตุรพร เรืองภักดิ์และชาติไทย จันทร์ทอง ทำได้ 24 รอบ อันดับที่สองเป็นรถหมายเลข P/09 มานพ เข็มบุญ,รชต รักความดีและพจน์ พงศ์เลิศพัฒนะ ทำได้ 22 รอบ อันดับสามเป็นรถหมายเลข P/10 ปรีชา คำมีสิทธิ์,สมใจ หนูนะและนเรศ ศรีแก้ว ทำได้ 22 รอบ
และนี่ก็คือเกมส์การแข่งขัน “Kawasaki Enduro 3Hrs.” ในสนามที่ 2 ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำสียัด อ.ท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งก็เป็นความสนุกสนานเข้มข้นที่น่าติดตามอีกหนึ่งรายการการแข่งขันรถจักรยานยนต์เอ็นดุโร่ ซึ่งในสนามต่อไปจะเป็นการแข่งขันในสนามที่ 3 ซึ่งจะจัดกันที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาในวันที่ 15-16 กันยายน ผู้ที่สนใจติดตามกันต่อได้เลยครับ