
YAMAHA FACTORY RACING TEAM กับการผสานความร่วมมือของนักแข่งอย่างคัสซึยูกิ นากาซึกะ, อเล็กซ์ โลว์ และ ไมเคิล ฟานเดอมาร์ค ที่ร่วมกันบิดยามาฮ่า YZF-R1 ตะลุยฝ่าสายฝนนับตั้งแต่วินาทีแรกของการชิงชัย ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดการแข่งขันแต่ก็สามารถเปิดเกมสู้กับคู่แข่งอย่างสนุก ก่อนจะทะยานคว้าแชมป์ซูซูก้า 8 ชั่วโมง เอ็นดูร้านซ์ได้อีกสมัยและยังเป็นการคว้าแชมป์ 4 สมัยซ้อนอีกด้วย
ขุนพลนักบิด YAMAHA FACTORY RACING TEAM ซึ่งนำทัพโดย คัสซึยูกิ นากาซึกะ นักแข่งดีกรีแชมป์ออลเจแปนในรุ่นJSB1000 พร้อมด้วย อเล็กซ์ โลว์ และ ไมเคิล ฟานเดอมาร์ค นักแข่งจากเกมเวิร์ลด์ซูเปอร์ไบค์ ร่วมผนึกกำลังควบรถแข่ง Yamaha YZF-R1 หมายเลข 21 โชว์ฟอร์มการขับขี่สุดแข็งแกร่งแบบเหนือชั้น แม้เริ่มต้นจะออกสตาร์ทในอันดับที่ 3 แต่ก็รักษาตำแหน่งที่ 3 หลังการออกสตาร์ทในรูปแบบเลอมังค์สตาร์ท ซึ่งในช่วงสองชั่วโมงแรกจะต้องไล่ตามคู่แข่ง แต่ก็สามารถขยับขึ้นมาครองจ่าฝูงได้สำเร็จ จากนั้นก็เปิดเกมชิงชัยกับคู่แข่งทั้งจากทีมRed Bull Honda Japan Post, ทีมKawasaki Team Green,ทีม S-PulseDream RacingIAI, F.C.C TSR Honda Frane ที่ชุมนุมนักแข่งมือระดับโลกทั้งจากเวิร์ลด์ซูเปอร์ไบค์, โมโตจีพี,โมโตทู รวมถึงคลาสออลเจแปน ซึ่งตลอดทั้งเกมเป็นไปอย่างดุเดือดและคู่คี่สูสีมากที่สุด ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมานับตั้งแต่ออกสตาร์ท แม้ฝนจะหยุดตกไปในช่วง 3 ชั่วโมงแรก แต่ก็กลับมาตกอีกครั้งในชั่วสองชั่วโมงสุดท้าย โดยเฉพาะในช่วงสองชั่วโมงสุดท้ายรถเซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งบนแทร็คเพื่อนำนักแข่งให้วิ่งตามเพื่อรอเวลาให้ฝนซา ก่อนที่จะเปิดเกมดวลกันในช่วงชั่วโมงครึ่งสุดท้าย โดยในช่วงสองชั่วโมงสุดท้ายนั้นทีมYAMAHA FACTORY RACING TEAM สามารถกลับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง และเริ่มขยับทิ้งห่างคู่แข่งออกจากถึงหนึ่งนาทีกว่าๆ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการขับขี่ในเวลากลางคืน ซึ่งถือเป็นงานยากของทุกทีม แต่ด้วยประสบการณ์ของสามนักแข่งที่ผ่านเกมนี้มาแล้วเมื่อปีก่อน ทำให้การรักษาตำแหน่งผู้นำเป็นไปได้อย่างมั่นคงจนครบ 8 ชั่วโมงของการแข่งขันกับอีกหนึ่งรอบสุดท้าย ธงตราหมากรุกก็โบกสะบัด รถแข่งยามาฮ่า YZF-R1 ทะยานผ่านธงตราหมากรุก คว้าแชมป์ซูซูก้า 8 ชั่วโมง เอ็นดูร้านซ์2018 ได้สำเร็จ พร้อมทำรอบการแข่งขันไว้ 199 รอบ ซึ่งรูปเกมในปีนี้เป็นครั้งที่เกมสูสีมากที่สุดในฤดูกาลหนึ่ง เพราะนอกจากจะมีนักแข่งระดับโลกมาลงแข่งขันกันคึกคักแล้ว ตัวแปรสำคัญนั้นก็คือสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาเกือบตลอดการแข่งขัน การทำงานที่ดีของทีมงาน รวมทั้งการขับขี่ที่แน่นอนของนักแข่ง ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยให้รถแข่งยามาฮ่า YZF-R1 ที่ส่งพลังที่ดุดันเร้าร้อนทะยานคว้าชัยชนะเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ยามาฮ่าทีมโรงงาน YAMAHA FACTORY RACING TEAM กลับมาร่วมทำการแข่งขันอีกครั้งในสนามซูซูก้าอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตแห่งนี้