อนุภาพ ซามูล บิดยามาฮ่า YZF-R1 จากกริดสตาร์ทอันดับ 1 ทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงในรุ่นซูเปอร์สต๊อก1000 หรือ ST1 ในรายการ R2M Thailand Superbikes2018 สนามที่ 2 พร้อมคว้าชัยชนะไปครอง โดยควง ประวัติ ญาณวุฒิ ที่ออกสตาร์ทจากอันดับ 3 แต่ขยับขึ้นมาคว้าที่ 2 ในเกมการชิงชัยพร้อมทะยานเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2
 
เกมการแข่งขันในรุ่นซูเปอร์สต๊อก1000 ในรายการ R2M Thailand Superbikes2018 สนามที่ 2 ที่จัดขึ้นที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิต นครชัยศรี ในรุ่นนี้มีนักแข่งลงชิงชัย 6 คน โดยผู้ที่ทำเวลาในการควอลิฟายมาเป็นอันดับที่ 1 ได้แก่ ตี-อนุชา ซามูล(500) กับรถยามาฮ่า YZF-R1 จากทีมYamaha Powerspeed Racing Team เวลา 1’20.996 นาที อันดับ 2 เบญจมิน ฟอรตต์(40) กับรถคาวาซากิ ZX-10R จากทีมNU-RANGSIT Dr.Bike Top 1 Racing Team เวลา 1’21.241 นาที อันดับ 3 ประวัติ ญาณวุฒิ(95) กับรถยามาฮ่า YZF-R1 จากทีมYamaha Devil Eagle Power Oil RCT เวลา 1’21.250 นาที อันดับ 4 อภิเดช บุญศรี(80)  กับรถคาวาซากิ ZX-10R จากทีมKawasaki PTT Nuda ลายพราง เวลา 1’21.537 นาที อันดับ 5 อัศวิน คงทนไพศาล(78) กับรถคาวาซากิ ZX-10R จากทีมUTR Dr.Bike Racing Team เวลา 1’24.552 นาที อันดับ 6 วุฒิชัย นามศิริ(16) กับรถซูซูกิ GSX-R1000 จากทีมSPW Performance Racing Team เวลา 1’28.329 นาที กับเกมการแข่งขัน 17 รอบสนาม













ทันทีที่สัญญาณไฟแดงดับลง รถแข่งพันซีซีในคลาสซูเปอร์สต๊อกก็พุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ท ตี-อนุภาพ ซามูล เต็งหนึ่งของรุ่นนี้พุ่งทะยานขึ้นไปได้ในโค้งแรก โดยมีเบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ ขยับจากกริดสตาร์ทที่ 3 ขึ้นมารั้งที่ 2 ตามด้วย เบญจมิน ฟอรตต์ ที่เกาะติดตามหลัง ผ่านเข้าโค้ง 4 ตี-อนุภาพ เร่งจังหวะขึ้นเพื่อหนีการติดตามของคู่แข่ง ขยับยืดระยะห่างออกมาอีกเล็กน้อยพร้อมยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยมี เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ ที่พยายามเร่งจังหวะการติดต่อ ผ่านรอบแรก ตี-อนุภาพ ขยับระยะห่างออกเบิร์ด-ประวัติ ออกไปจากเดิม จากนั้นก็ทำความเร็วต่อรอบให้ดีขึ้นจนกดเวลาต่อรอบดีที่สุดไว้ที่ 1’20.162 นาที เร็วที่สุดในบรรดานักแข่งในรุ่นนี้ และเมื่อครบ 17 รอบสนาม ตี-อนุภาพ ซามูล ก็นำยามาฮ่า YZF-R1 คว้าชัยชนะในรุ่นซูเปอร์สตีอก1000 ได้อีกสนาม ขณะที่เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ ก็นำรถยามาฮ่า YZF-R1 เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 อันดับ 3 อภิเดช บุญศรี อันดับ 4 เบญจมิน ฟอรตต์ ส่วนในคลาส ซูเปอร์สต๊อก1000 ST1 Pro Rookie นั้น ผู้ชนะได้แก่ อัศวิน คงทนไพศาล(78)  อันดับ 2 วุฒิชัย นามศิริ