​มาเวริค บีญาเลส นำยามาฮ่าคว้าโพเดี้ยมในเกมMotoGPที่เนเธอร์แลนด์

เกมโมโตจีพีสนามที่ 8 ที่ระเบิดเปิดฉากขึ้นที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเกมเป็นการชิงชัยกันอย่างดุเดือดของนักแข่งระดับพระกาฬที่สลับสักเปลี่ยนการชิงชัยอย่สวสนุกทั้งฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ที่สามารถขยับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงได้ก่อนใคร ทั้งมาร์ค มาเกรซ, อันเดรีย โดวิซิโอโซ่, วาเลนติโน่ รอสซี่, มาเวริค บีญาเลส, อเล็กซ์ ลินส์ที่ห้ำหั่นกันอย่างสนุก ก่อนจบการแข่งขันด้วยชัยชนะของมาร์ค มาเกรซ โดยอันดับ 2 ตกเป็นของ อเล็กซ์ รินส์ จากซูซูกิ และอันดับ 3 มาเวริค บีญาเลส, อันดับ  4 อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ และวาเลนติโน่ รอสซี่ ในอันดับที่ 5

“ แน่นอนว่าผมแฮปปี้ เรากำลังเริ่มที่จะเรียนรู้ว่าจะพัฒนาความเร็วอย่างไรในรอบแรก เราต่างก็ทำงานกันอย่างหนัก และที่สุดแล้วมันก็เริ่มสัมผัสถึงความรู้สึกดีที่ได้จากความแข็งแกร่งที่เราค้นพบ ส่วนหนึ่งนั้นน่าจะมาจากสภาพแทร็คที่แอสเซ่นนี้ด้วยที่เอื้อต่อสไตล์ของรถแข่งเพราะที่ผ่านมาผมสามารถขี่ได้เร็วที่นี่ ขณะที่แทร็คอื่นๆนั้นเราจะยังคงต้องทำงานหนักเพิ่มยิ่งกว่านี้ แผนของผมในเกมนี้นั่นก็คือการตั้งเป้าหมายไว้ที่อันดับหนึ่ง และนั่นคือคำตอบที่ว่าทำไมผมจึงไม่ยอมให้Marcแซงขึ้นไปโดยง่าย จนผมเองเกือบที่จะพลาดหลุดไปนอกแทร็ค เพราะว่าผมยกลึกและใช้เบรกช้ากว่าปกติพอสมควร อย่างไรก็ตามหลังเสียตำแหน่งผมก็สามารถกลับเข้ามาสู่เกมได้ด้วยความแข็งแกร่งที่มีของการพัฒนารถแข่งในสนามนี้ทำให้ผมสามารถที่จะทำอะไรได้มากขึ้น เพียงแต่ว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมไม่สามารถคว้าชัยในเกมนี้ได้นั้นก็มาจากตำแหน่งสตาร์ทที่อยู่ห่างจากแถวหน้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นในสนามถัดไปผมจึงคิดว่าจะต้องทำให้ดีขึ้นด้วยการทำงานที่หนักกันต่อไปหลังจากที่เราเริ่มมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมถัดไปที่เยอรมันนั้นก็เป็นอีกเกมที่ผมขี่ได้เร็วในปีที่แล้วก็เชื่อว่าน่าจะสามารถต่อยอดจากพัฒนาการที่เราทำได้ในเกมนี้ ผมเชื่อว่าเรารู้วิธีทางที่จะไปให้เร็วไอย่างไรในเกมสนามถัดไป”











มาเวริค บีญาเลส กล่าวถึงผลงานการขึ้นโพเดี้ยมอันดับที่สามในเกม DutchTT ที่สนาม Assen หลังจากที่เขาสามารถกลับมาแสดงถึงความแข็งแกร่งได้อีกครั้งทั้งที่ออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่หกก่อนจะขยับขึ้นไปลุ้นในกลุ่มชิงตำแหน่งบนโพเดี้ยมรวมทั้งการมีโอกาสสู้ในการช่วงชิงตำแหน่งจ่าฝูงระหว่างการแข่งขันอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ในการควอลิฟายนั้น มาเวริค บีญาเลส ก็ได้กล่าวหลังควอลิฟายถึงโอกาสในการแข่งขันว่า
“ การออกสตาร์ทจากกริดที่หกนั้นไม่ถือว่าเลวร้ายเท่าไร เพราะมันเป็นเพียงแค่การทำความเร็วให้ดีที่สุดในรอบใดรอบหนึ่ง ดังนั้นนอกเหนือจากการเน้นเรื่องการทำความเร็วต่อรอบให้ดีที่สุดเพื่อตำแหน่งสตาร์ทแล้วผมยังต้องโฟกัสไปถึงการทำความเร็วในสถานการณ์ที่รถแข่งมีเชื้อเพลิงเต็มแบบเดียวกับการแข่งขันจริงไว้ด้วยเพื่อที่จะวางแผนการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะสามารถทำผลงานได้ดี แน่นอนว่าในจังหวะสตาร์ทนั้นผมจะต้องพยายามออกตัวให้ดีที่สุด นอกจากนี้สิ่งที่ผมและทีมจะต้องทำก็คือการตัดสินใจที่จะเลือกยางให้ถูกต้องเหมาะกับสภาพการแข่งขันจริงให้มากที่สุด แน่นอนว่าเรายังคงมีเวลาในคืนนี้ที่จะทำงานให้ดีด้วยการเลือกยางที่เหมาะสมที่สุดและปรับเซทให้ดีที่สุดสำหรับการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ ”

และในที่สุดด้วยความพร้อมของ รถแข่ง M1 ที่พัฒนาสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ก็เป็นส่วนช่วยให้ มาเวริค บีญาเลส สามารถกลับมาทำผลงานในมาตรฐานที่เคยทำได้อีกครั้ง กับการ”ลุ้นคว้าชัย”ในการแข่งขัน







ขณะที่ทีมเมทอย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่ นั้น จบเกมนี้ด้วยอันดับที่ห้าได้กว่าถึงผลงานที่Assen นี้ว่า
“ มันเป็นเกมที่มีความดุดันอย่างยิ่ง ผมเองก็แฮปปี้ที่มีโอกาสได้ร่วมชิงชัยในกลุ่มหน้า มันเป็นการแข่งขันที่น่าเร้าใจตลอดเกมแต่ผมก็เศร้าเล็กน้อยเพราะเข้าสู่เกมนี้ด้วยความมั่นใจว่าจะสามารถมีตำแหน่งบนโพเดี้ยมได้แต่ก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในช่วงต้นเกมที่ผมกับลอเรนโซ่ มีการสัมผัสกันเล็กน้อยในขณะที่ใช้ความเร็วสูงโชคดีที่เราทั้งคู่ไม่ล้ม เมื่อมาถึงอีกจังหวะที่ผมกับโดวี่ ต้องช่วงชิงตำแหน่งกันนั้นก็ส่งผลให้เราเสียเวลาไปจากจังหวะที่หลุดออกแทร็คไปมากพอสมควรจนส่งผลให้เราเสียอันดับไปทั้งที่ทั้งผมและโดวี่นั้นต่างก็มีดีมากเพียงพอสำหรับการขึ้นโพเดี้ยมในเกมนี้ แต่ก็นั่นแหละเมื่อเกิดความผิดพลาดมันก็ต้องชดเชยด้วยอะไรบางอย่าง ”











หลังจากครบรอบการชิงชัยบนแทร็คAssen ตำแหน่งบนโพเดี้ยมไล่เรียงตามลำดับคือ มาร์ค มาเกรซ – อเล้กซ์ รินส์ – มาเวริค บีญาเลส – อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ และ วาเลนติโน่ รอสซี่ โดยอันดับคะแนนสะสมหลังผ่านไปแปดสนามมีอันดับบนตารางคะแนนดังนี้
1.มาร์ค มาเกรซ มี140 คะแนน
2.วาเลนติโน่ รอสซี่ มี 99 คะแนน
3.มาเวริค บีญาเลส มี 93 คะแนน
4.โยฮัน ซาโก้ มี 81 คะแนน
5.อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ 79 คะแนน
6.แคล คลัทช์โลว์ 79 คะแนน
7.ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ 65 คะแนน
8.ดานิโร่ เปตรุซี่ มี 71 คะแนน
9.อันเดรีย เอียนโนเน่ มี 71 คะแนน
10.แจ็ค มิลเลอร์ มี 55 คะแนน

















UIP : 489 | Page View : 497