“แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ยอดดาวบิดไทยจากสังกัด วีอาร์46 มาสเตอร์ แคมป์ ทีม สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ แซงคู่แข่ง 12 คัน ผงาดโพเดี้ยมอันดับ3 โดยเป็นนักแข่งไทยคนแรกที่ได้โพเดียมในศึก โมโตทรี จูเนียร์ สนาม 4 เรซแรกที่ บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
 
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนาม 4 ดวลความเร็วเรซแรกในวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่สนาม เซอร์กิต เดอ คาตาลุนญ่า เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ระยะทางต่อรอบ 4.627 กิโลเมตร
 
เรซแรกซึ่งมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ตามเวลาประเทศไทย แข่งขันทั้งสิ้น 16 รอบสนาม โดยในสนามนี้มีนักบิดเข้าร่วมแข่งขันถึง 43 คัน ขณะยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เจ้าของหมายเลข 24 จากสังกัด วีอาร์ 46 มาสเตอร์ แคมป์​ ทีม กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งหลังบาดเจ็บจากสนามแรก โดยในเรซนี้นักบิดหนุ่มจากชลบุรีได้ออกตัวจากกริดที่ 15





นักบิดไทยออกสตาร์ทเรซได้อย่างยอดเยี่ยม ทะยานขึ้นมาเกาะกลุ่มกลางได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อยๆ ไต่ขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง โดย อภิวัฒน์ เป็นนักบิดที่ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ในเรซนี้
 
จบการแข่งขัน 16 รอบสนาม อภิวัฒน์ ขยับแซงคู่แข่งขึ้นมาถึง 12 อันดับ ก่อนบิดเข้าป้ายเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลารวม 29 นาที 35.578 วินาที ได้ฉลองโพเดี้ยมในรายการนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ตามหลังแชมป์ในเรซนี้เป็นของ เซร์คิโอ การ์เซีย ดาวรุ่งสแปนิชจาก จูเนียร์ เอสเตรลล่า การ์ลิเซีย เพียง 0.503 วินาที เท่านั้น ตามด้วยทีมเมทอย่าง เจเรมี อัลโคบ้า ในอันดับ 2






 
หลังจบการแข่งขันในเรซแรก แสตมป์ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์  ที่คว้าอันดับที่ 3 ของรุ่น Moto3 Junior World Championship ได้กล่าวว่า “เราเริ่มต้นด้วยตำแหน่งสตาร์ทที่ไม่ดีเราออกจากกริดที่ 15 รอบแรกที่ออกไปเราก็พยายามที่จะแซงขึ้นไปข้างหน้าให้มากที่สุด ก็มีกระทบกระทั่งกับคู่แข่งหลายๆ คนเพราะทุกคนก็ต้องการที่จะไปข้างหน้าเหมือนกันหมด เราก็พยายามตั้งสมาธิและควบคุมสติ และค่อยๆ ทำเป็นสเตปๆ ขึ้นไป จนในรอบที่ 3 ก็เริ่มเกาะกลุ่มหน้าทัน ซึ่งมั่นใจกับตัวรถแข่งตั้งแต่วันซ้อมแล้วอาจจะมีการปรับเซ็ทเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ แต่ถือว่าสมบูรณ์มาก และยางที่ใช้ในเรซนี้เลือกเป็นยางซอล์ฟซึ่งในตอนแรกกับการต้องการขึ้นไปทันกลุ่มหน้าก็ใช้ยางไปพอสมควรทำให้ช่วงกลางพยายามเก็บยางและบริหารให้พอตลอดการแข่งซึ่งในรอบสุดท้ายยางเริ่มมีอาการสไลด์ในช่วงเปิดคันเร่งเลยตัดสินใจประคองให้จบการแข่งขัน สำหรับโพเดี้ยมนี้มันเป็นอะไรที่มากมายมันคืออะไรหลายๆ อย่างที่เรามาเจอ เป็นอะไรหลายๆ อย่างที่เราต้องปรับตัวกับการแข่งขันที่ห่างจากประเทศบ้านเกิดกว่า 300,000 กิโล ปีครึ่งที่ผ่านมาเราต้องเจออะไรเยอะด้วยระดับการแข่งขันถือว่าเป็นรางวัลชีวิตของผม และต้องขอบคุณผู้บริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ที่เชื่อมั่นและสนับสนุนในตัวผม ขอบคุณทีมงาน VR46 Mastercamp ที่ทำงานอย่างเต็มที่ ขอบคุณพี่เบนซ์ที่ดูแลผมอยู่ตลอด ขอบคุณครอบครัวและทีมงาน Yamaha Thailand Racing ที่เป็นกำลังใจให้กันเสมอ รวมถึงพี่ๆ สื่อมวลชน และ แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจและติดตามเชียร์ผมมาโดยตลอด ยังเหลือการแข่งในเรซ 2 ผมจะทำมันเต็มที่อีกครั้งครับ”