เข้าสู่การแข่งขัน เอ็นดูโร่ ชิงแชมป์ประเทศไทย 2017 ในสองสนามสุดท้ายกับ รายการการแข่งขัน “SGFN THAILAND ENDURO CHAMPIONSHIP 2017” ในสนามที่ 3 และ 4 จัดควบกันสามวันในวันที่19-21 มกราคมที่ผ่านมา โดยทำการแข่งขันกันที่ สนาม TOP NORTH PARK CHIANGRAI จังหวัดเชียงราย
 
การแข่งขันเอ็นดูโร่ “SGFN THAILAND ENDURO CHAMPIONSHIP 2017”  จัดการแข่งขันโดย บริษัท สตาร์ท โก ฟินนิช ไนน์ จำกัด ภายใต้การรับรองของสมาพันธ์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย ในพันธกิจร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยที่เกมส์การแข่งขันเอ็นดูโร่ในสนามที่ 3 และ 4 นี้แบ่งออกเป็นสนามละ 3 ช่วงทดสอบพิเศษ ให้นักแข่งได้ทำเวลากันโดยที่แต่ละสนามนั้นจะมีช่วงทดสอบพิเศษในช่วงกลางคืนซึ่งนั่นก็คือรถแข่งทุกกคันจะต้อง มีไฟหน้าและไฟท้ายหรือไฟเบรคนั่นเอง โดยที่ในรุ่นต่างๆนั้นก็จะแบ่งกันตามประเภทรถต่างๆ โดยในสนามนี้แบ่งการแข่งขันเป็นทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน โดยมีรุ่นการแข่งขัน ED1,ED2,ED3,ED4 และ ED6











เริ่มการที่เกมการแข่งขันในสนามที่ 3 ประเดิมกันก่อนกับเส้นทางสุดหฤโหด แต่เรียกได้ว่าสนุกสนานสำหรับนักแข่งทุกๆคนที่ได้มาลงแข่งในสนามนี้ที่เมื่อจบในช่วงทดสอบพิเศษแรกไปนั้นต่างก็ชมกับเส้นทางการแข่งขันที่สนุกสนาน สำหรับในวันแรกนี้ก็มีสองช่วงทดสอบพิเศษให้นักแข่งได้ดวลฝีมือกัน ซึ่งการสตาร์ทการแข่งขันหลังจากที่นำรถมาตรวจสภาพแล้วนั้นก็สตาร์ทเรียงตามลำดับรุ่นไล่เรียงเวลากันไปคันละหนึ่งนาที ซึ่งนักแข่งแต่ละคันแต่ละรุ่นต่างก็พยายามทำเวลากันอย่างสุดความสามารถ โดยที่เมื่อจบช่วงทดสอบพิเศษแรกไปนั้นเป็น มานพ อับดุลย์การี(10) รุ่นED2 ทำเวลามาดีที่สุดอันดับที่สองเป็นกฤษดา โปธาตน(88) อันดับที่สามเป็น ณัฐพงษ์ สิงห์สันต์(5) รุ่นED1 ไล่เรียงเวลากันไป ซึ่งเมื่อจบแต่ละช่วงทดสอบพิเศาก็จะมีเวลาให้นักแข่งได้เซอร์วิสรถแข่งตามเวลาที่กำหนดซึ่งนักแข่งต้องเป็นผู้ที่ทำเองทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ตั้งโซ่ เติมน้ำมัน เปลี่ยนกรองอากาศ ติดไฟส่องสว่างเพิ่มเพื่อแข่งในช่วงทดสอบพิเศากลางคืน หลังจากนั้นก็เก็บรถรอเวลาสตาร์ทในช่วงกลางคืน ซึ่งก็เป็นเกมการแข่งขันให้นักแข่งได้มีความท้าทายกับเส้นทางแต่ช่วงกลางคืนนี้จะสั้นกว่าช่วงกลางวันเพียงนิดเดียว ซึ่งเรียกได้ว่าไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ซึ่งผู้ที่ทำเวลามาดีที่สุดเป็น ณัฐนันท์ ปัญญาราษฏร์(44) จากรุ่น ED1 กับณัฐพงษ์ สิงห์สันต์จากรุ่น ED1 เช่นกัน เท่ากันที่ 41.13 นาที หลังจากนั้นก็ทำการเก็บรถเพื่อเพื่อรอการเซอร์วิสในช่วงเช้าและแข่งขันกันในช่วงทดสอบพิเศษ สุดท้าย ในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น และในช่วงทดสอบพิเศษสุดท้ายของสนามที่ 3 ก็เป็นไปอย่างสุดมันส์ก่อนที่จะเป็น มานพ อับดุลย์การี(10)จะทำเวลามาดีที่สุดในช่วงสุดท้าย อันดับที่สองเป็น กฤษดา โปธาตน(88) อันดับที่สามเป็นณัฐพงษ์ สิงห์สันต์(5) และเมื่อรวมเวลาทั้งหมดแล้วนั้นผลการแข่งขันกํนเป็นตามนี้ แยกตามรุ่น
 
รุ่น ED1
1.ณัฐพงษ์ สิงห์สันต์ (5) เวลา 2:47.37 ชั่วโมง
2.ณัฐนันท์ ปัญญาราฎร์(44) เวลา 2:50.18 ชั่วโมง
3.มาโนชย์ อับดุลการี(34) เวลา 2:57.55 ชั่วโมง
รุ่น ED2
1. มานพ อับดุลการี(10) เวลา 2:42.20 ชั่วโมง
2. สุปรีย์ อดุลยวิศิษฐ์ (97) เวลา 2:56.28 ชั่วโมง
3.ชาติไทย พฤฒิสาร(9) เวลา 3:01.50 ชั่วโมง
รุ่น ED3
1.กฤษดา โปธาตน เวลา 2:46.37 ชั่วโมง
2. อดิศักดิ์ คำจ้อย(7) เวลา 2:48.52 ชั่วโมง
3.ณัฐพงษ์ กันทะหลั่น(38) เวลา 2:55.14 ชั่วโมง
รุ่น ED4
1.ณัฐนันท์ ปัญญาราษฎร์(44) เวลา 2:50.18 ชั่วโมง
2.สุปรีย์ อดุลยวิศิษฐ์ (97) เวลา 2:56.28 ชั่วโมง
3. กิตติธัช เสริฐกระโทก เวลา 2:59.16 ชั่วโมง
รุ่น ED6
1.วันมงคล ยาบุญนะ(81) เวลา 2:57.37 ชั่วโมง
2.สุทัศน์ ไชยเทพ(50) เวลา 3:12.27 ชั่วโมง
3.เชียง เยมอ(30) เวลา 3:38.00 ชั่วโมง













หลังจากนั้นเมื่อจบเกมการแข่งขันในสนามที่สามก็ต่อกันด้วยสนามสุดท้ายในสนามที่ 4 ซึ่งก็เริ่มแข่งขันกันด้วยช่วงทดสอบพิเศษในช่วงกลางคืนอีกครั้ง ให้นักแข่งที่พลาดตำแหน่งในสนามที่สามได้มาแก้ตัวกันต่อเลยทันทีโดยที่เมื่อปล่อยสตาร์ทกันไปไล่เรียงอันดับรุ่นคันละหนึ่งนาทีนั้น นักแข่งแต่ละคนก็ทำกันอย่างสุดความสามารถมีไล่แซงกันบ้าง ซึ่งเมื่อครบระยะของช่วงทดสอบพิเศาแรกนั้นเป็นกฤษดา โปธาตน(88) รุ่น ED3 ทำเวลามาดีที่สุด อันดับที่สองเป็นณัฐนันท์ ปัญญาราษฏร์(44) จากรุ่น ED1 ไล่ตามมาเพียง 5 วินาทีเท่านั้น อันดับที่สามเป็นณัฐพงษ์ สิงห์สันต์(5) รุ่นED1 ซึ่งหลังจากครบระยะทางที่กำหนดแล้วนั้นนักแข่งก็เก็บรถเข้าปาร์คเฟิร์ม เพื่อรอทำการเซอร์วิสรถรวมไปถึงเติมน้ำมันในช่วงเช้าในวันสุดท้าย









ช่วงทดสอบพิเศษที่สองของสนามสุดท้ายก็เริ่มขึ้นในช่วงสายๆ โดยที่ในช่วงนี้เส้นทางก็เป็นไปด้วยความตื่นเต้น โดยที่นักแข่งที่ทำเวลาไม่ดีในช่วงกลางคืนก็มาเอาคืนกันในช่วงนี้เห็นทางไกลๆบิดคันเร่งได้เต็มกว่าช่วงกลางคืน โดยที่เมื่อจบช่วงทดสอบพิเศษนี้เป็นมานพ อับดุลย์การี(10) ทำเวลามาดีที่สุด อันดับที่สองเป็นณัฐพงษ์ กันทะหลั่น(38) อันดับที่สามเป็นกฤษดา โปธาตน(88) และในช่วงทดสอบพิเศษสุดท้ายก็เป็นการแข่งขันที่สนุกสนานตื่นเต้นไม่แพ้กันซึ่งเมื่อจบ 3 ช่วงทดสอบพิเศษของสนามสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยผลการแข่งขันกันเป็นดังนี้ แยกตามรุ่น
รุ่น ED1
1.ณัฐพงษ์ สิงห์สันต์ (5) เวลา 3:00.01 ชั่วโมง
2.ณัฐนันท์ ปัญญาราฎร์(44) เวลา 3:01.51 ชั่วโมง
3.เศรษฐศักดิ์ สมนา(14) เวลา 3:05.54 ชั่วโมง
รุ่น ED2
1. มานพ อับดุลการี(10) เวลา 2:51.28 ชั่วโมง
2. เขมรัฐ สุธรรมวาท(15) เวลา 3:02.03 ชั่วโมง
3.เศรษฐศักดิ์ สมนา(14) เวลา 3:05.04 ชั่วโมง
รุ่น ED3
1.ณัฐพงษ์ กันทะหลั่น(38) เวลา 2:55.17 ชั่วโมง
2. อดิศักดิ์ คำจ้อย(7) เวลา 2:56.12 ชั่วโมง
3.วันมงคล ยาบุญนะ(81) เวลา 3:00.50 ชั่วโมง
รุ่น ED4
1.ณัฐนันท์ ปัญญาราษฎร์(44) เวลา 3:01.51 ชั่วโมง
2. กิตติธัช เสริฐกระโทก(26) เวลา 3:12.37 ชั่วโมง
3. ปุรเชษฐ์ เคหา (4) เวลา 3:17.53 ชั่วโมง
รุ่น ED6
1.วันมงคล ยาบุญนะ(81) เวลา 3:00.50 ชั่วโมง
2.สุทัศน์ ไชยเทพ(50) เวลา 3:16.13 ชั่วโมง
3.ราเชนทร์ ไชยยะ(28) เวลา 3:18.00 ชั่วโมง







ซึ่งก็จบการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการแข่งขันเอ็นดูโร่ชิงแชมป์ประเทศไทยประจำปี 2017 กับรายการ SGFN THAILAND ENDURO CHAMPIONSHIP 2017 ซึ่งก็ได้ตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยดังนี้
รุ่น ED1 มาโนชย์ อับดุลย์การี (34)
รุ่น ED2 มานพ อับดุลย์การี(10)
รุ่น ED3 ณัฐพงษ์ กันทะหลั่น(38)
ส่วนตำแหน่งแชมป์ประจำรายการก็คือ
รุ่น ED4 ณัฐนันท์ ปัญญาราษฏณ์(44)
รุ่น ED6 วันมงคล ยาบุญนะ(81)