ในฐานะผู้นำเวลารวมสำหรับมือหนึ่งจาก Yamalube Yamaha Official Rally Team อย่าง Adrien Van Beveren ที่นำ WR450F Rally ทำผลงานได้อย่างเกินเป้าที่คาดไว้ ก็ยังคงเดินหน้าทำผลงานเพื่อรักษาสถานะที่ดีที่สุดในการชิงชัย โดยในสเตจถัดมาคือ สำหรับ 8 เป็นช่วงการแข่งขันระยะทาง 584 กม. แต่มีช่วง special ที่ยาวที่สุดคือ 498 กม.ซึ่งมีนักแข่งหลายคนที่ต้องออกจากการแข่งขันในสเตจนี้ แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ Xavier de Soultrait จาก Yamaha ที่ขณะออกสตาร์ทนั้นเขารั้งอันดับหกโอเวอร์ออล แต่ก็ต้องถอนตัวเพียงแค่ กม.ที่ 171 ของช่วง special หลังมีอาการบาดเจ็บ ทำให้นักบิดYamaha ในกลุ่มนำนั้นเหลือเพียง Adrien Van Beveren ที่ในสเตจนี้ ต้องเปิดเกมชิงจังหวะเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำเวลารวมกับ Kevin Benavides ที่ทั้งคู่มีเวลาห่างกัน 00.03.14 ดังนั้นกุญแจสำคัญของทั้งคู่ก็คือ “รักษาตำแหน่งให้ดีและไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาด” เพราะฉะนั้นในเกมนี้การช่วงชิงตำแหน่งผู้ชนะจึงตกมาอยู่ที่การขับเคี่ยวระหว่าง Antoine Meo กับ Ricky Brabec ผลก็คือ Antoine Meo ผ่านจุดฟินิชเป็นคนแรก ด้วยเวลา 05.24.01 ชั่วโมง โดยที่ Brabec ตามหลังอยู่ 00.01.08 โดยมี Toby Price ตามมาเป็นอันดับสามช้ากว่า 00.02.45 ส่วนAdrien Van Beveren นั้น จบด้วยอันดับที่เจ็ดช้ากว่าผู้ชนะสเตจนี้อยู่ 00.08.44 อีกทั้งยังตามหลัง Kevin Benavides ที่จบด้วยอันดับสี่ด้วยเวลาที่ตามหลังผู้ชนะ 00.05.02 จากผลแข่งขันในสเตจนี้เอง ทำให้ Adrien Van Bereven ยังคงเป็นผู้นำเวลารวมด้วยเวลา 27.22.03 ช.ม. โดยที่อันดับสองอย่าง Kevin Benavides นั้น ตามมาติดๆด้วยเวลา 00.00.22 โดยมี Matthias Walkner กับ Toby Price จาก KTM ตามมาเป็นอันดับสามและสี่ ด้วยเวลาห่าง 00.06.34 และ 00.07.35 ตามลำดับในขณะที่อันดับห้านั้นเป็น Joan Barreda ที่ตามหลังผู้นำอยู่ 00.08.01 โดยที่ผู้ชนะในสเตจนี้อย่าง Meo นั้น รั้งอันดับหกของตารางเวลารวมด้วยเวลาที่ตามหลังอยู่ 00.09.56











และหลังจากสเตจที่แปดนี้จบลง ในวันรุ่งขึ้นก็มีการประกาศ”ยกเลิกStage9” ด้วยสาเหตุจากสภาพอากาศที่ไม่ดี ดังนั้นนักแข่งและขบวนคาราวานทั้งหมดก็จะฟรีรันไปตามเส้นทางปกติเพื่อออกจากโบลิเวียเข้าสู่ประเทศอาเจ็นติน่า ซึ่งจะเป็นจุดฟินิชของสเตจที่เก้านี้ 
 
เข้าสู่ Stage10 ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า “ความหวังสิ้นสุด” สำหรับ Yamalube Yamaha Official Rally Team เมื่อผู้นำเวลารวมอย่าง Adrien Van Beveren ล้มอย่างหนักในช่วง 3 กม.สุดท้ายก่อนถึงจุดฟินิช แน่นอนว่า นี่คือ บทลงโทษของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และส่งผลให้ ในกลุ่ม อันดับแรกหรือแต่สิบอันดับแรกนั้น ไม่มีนักแข่ง Yamaha เหลืออยู่ในขณะนี้หลังก่อนหน้านี้ Xavier de Soultrait ก็ถอนตัวไปก่อนแล้ว แต่ที่น่าเสียดายคือ Kevin Bevavides จาก HRC ไม่สามารถฉวยโอกาสขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างที่ควร เมื่อเขาพลาดจบในสเตจนี้ด้วยอันดับที่สิบเจ็ด ช้ากว่าผู้ชนะถึง 00.47.35 เช่นเดียวกับ Joan Barreda ที่อุตส่าห์ตีเวลากลับขึ้นไปรั้งในกลุ่มห้าอันดับแรกได้หลังจากที่หลงในช่วงครึ่งแรกจนตามหลังกว่ายี่สิบนาทีนั้น ก็มาพลาดอีกครั้งเมื่อเกมนี้ทำได้เพียงอันดับสิบสี่ของสเตจช้ากว่าผู้ชนะอยู่ 00.38.15 และยังรวมทั้ง Toby Price ที่พลาดในสเตจนี้จบด้วยอันดับสิบเก้า ตามหลังผู้ชนะ 00.49.17 ในขณะที่ผู้ชนะคือ Matthias Walkner ที่ผ่านเส้นฟินิชด้วยเวลา 04.52.26 ช.ม. ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Pablo Quintanilla จาก Husquavarna อยู่ 00.11.35 จากความผิดพลาดของนักแข่งในกลุ่มหัวแถวจากทีมแฟคทอรี่ทำให้นักแข่งจากทีมรองๆลงไปมีโอกาสทำผลงานขึ้นมาจบด้วยอันดับ TOP10ในสเตจนี้  และนี่เองน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อผู้นำเวลารวมตกเป็นของ Matthias Walkner จาก KTM ที่เป็นผู้นำด้วยเวลา 32.21.03 ช.ม. โดยมี Joan Barreda กับ Kavin Benavides จาก HRC ตามมาเป็นอันดับสองและสามด้วยเวลาที่ตามหลังผู้นำอยู่ 00.39.42 และ 00.41.23 ตามลำดับ