ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง Rest Day หรือพักการแข่งขันหนึ่งวันนั้น จากการชิงชัยใน Stage6 ที่ถือว่าเป็นอีกเส้นทางการแข่งขันที่ค่อนข้างลำบากซึ่งรถแข่งทั้งหมดจะออกสตาร์ทจากเปรู เข้าสู่ประเทศโบลิเวีย โดยจากรถแข่งที่เหลือผ่านในสเตจที่แล้วมี 114 คัน แต่พร้อมออกสตาร์ทในสเตจนี้เพียง 111 คันก่อนที่สุดท้ายแล้วจะสามารถผ่านจัด CP1 หรือ เช็คพ้อยท์ที่ 1จำนวน 107คัน ซึ่งระยะทางรวมในสเตจนี้ 760 กม. แบ่งเป็นช่วง special 313 กม. ปรากฏว่าในกลุ่มนำมีรถแข่งถึง 9 คัน ที่ไล่เกาะกลุ่มกันด้วยระยะห่างในช่วงเวลา 3 นาทีเท่านั้น โดยที่ผลการแข่งขันในสเตจหกจบลงปรากฏว่า Adrien Van Beveren กับ Xavier de Soultrait จาก Yamalube Yamaha Official Rally Team สามารถนำ WR450F Rally ผ่านจุดฟินิชในกลุ่มสี่อันดับแรกของตารางเวลารวมไว้ได้ โดย Adrien Van Beveren ตามหลัง Xavier De Soultrat เข้าไปเป็นอันดับที่สิบในสเตจนี้ แต่ก็ยังคงรั้งในกลุ่มหัวตารางด้วยการทำเวลารวมมาเป็นอันดับสอง โดยที่ Xavier รั้งอยู่ในอันดับเจ็ด ซึ่งมือหนึ่งของทีมอย่าง Adrien Van Beveren ได้กล่าวว่า







“ มันเป็นวันที่ยาวนานมาก แต่เราก็สามารถผ่านเข้าสู่โบลิเวียและกลับเข้าสู่ Bivouac(แค้มป์ที่พักระหว่างแข่งขัน)ในโบลิเวียได้โดยไม่ประสบปัญหาใดๆ แม้ว่าระหว่างทางบางช่วงจะมีฝนตกลงมาซึ่งมันหนาวเย็นอย่างมากจริงๆ เป้าหมายของผมในวันนี้คือ พยายามอย่าให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องของการอ่านทางและระบบนำทาง ดังนั้นผมจึงคงความเร็วไว้ในระดับหนึ่งเพื่อให้สามารถเกาะกลุ่มสิบอันดับแรกไว้ไม่ให้ถูกทิ้งห่างโดยเน้นไปที่ความปลอดภัย เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดใดๆที่จะส่งผลเสียต่อการแข่งขันในเกมที่เหลือ ถึงเวลานี้ผมรั้งเป็นอันดับสองของตารางเวลารวมซึ่งช่องห่างนั้นใกล้กันมาก อะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นผมจะต้องพยายามทำให้ดีที่สุดและต้องไม่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ”







หลังจากจบ Stage6 ทุกทีมก็มีเวลาพักหนึ่งวัน ใน Bivouac ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ La Paz ในประเทศโบลิเวีย ซึ่งตลอดหนึ่งวันทุกทีมจะมีโอกาสเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆเพื่อกลับเข้าสู่การชิงชัยในอีกแปดสเตจที่เหลือ ซึ่งทีม Yamalube Yamaha Official Rally Team ก็ได้เตรียมปรับแต่งประสิทธิภาพให้กับ WR450F Rally ให้กลับมามีความสมบูรณ์อีกครั้ง
 
กลับเข้าสู่การแข่งขันในช่วงครึ่งหลังด้วย Stage7 กับระยะทางรวม 726 กม. เป็นช่วง special 425 ก.ม.หลังจากที่ชาร์จพลังอย่างเต็มที่ก็ปรากฏว่า Adrien Van Beveren สามารถทำเวลากลับขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้นำเวลารวมได้อีกครั้ง หลังจากที่จบสเตจนี้ด้วยอันดับสองตามหลังผู้ชนะในสเตจนี้อยู่ 00.02.51 โดยผู้ชนะคือ Joan Barreda ที่ผ่านเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 05.11.10 ชั่วโมงในขณะที่ผู้นำเวลารวมจากสเตจที่หกอย่าง Antoine Meo นั้นทำได้เพียงอันดับเก้าในสเตจนี้ที่ช้ากว่าผู้ชนะอยู่ 0012.46 ซึ่งผลการแข่งขันมีดังนี้
Dakar Rally 2018 - Stage 7 - Provisional Classification
1. Joan Barreda (ESP), Honda, 05:11:10 ชั่วโมง
2. Adrien Van Beveren (FRA), Yamaha, 05:14:01 ชั่วโมง , +02:51
3. Kevin Benavides (ARG), Honda, 05:19:12 ชั่วโมง, +08:02
4. Toby Price (AUS), KTM, 05:19:53 ชั่วโมง, +08:43
5. Pablo Quintanilla (CHL), Husqvarna, 05:20:03 ชั่วโมง, +08:53
6. Matthias Walkner (AUT), KTM, 05:20:26 ชั่วโมง, +09:16
…
8. Xavier de Soultrait (FRA), Yamaha, 05:21:13 ชั่วโมง, +10:03
22. Alessandro Botturi (ITA), Yamaha, 05:55:35 ชั่วโมง, +44:25
31. Rodney Faggotter (AUS), Yamaha, 06:07:31 ชั่วโมง, +56:21
และสรุปอันดับเวลารวมหลังจากผ่านไป7สเตจ จากทั้งสิ้น 14สเตจ มีผลเวลาดังนี้
Dakar Rally 2018 - Provisional Overall Classification [After Stage 7]
1. Adrien Van Beveren (FRA), Yamaha, 21:49:18 ชั่วโมง
2. Kevin Benavides (ARG), Honda, 21:52:32 ชั่วโมง, +03:14
3. Joan Barreda (ESP), Honda, 21:54:03 ชั่วโมง, +04:45
4. Matthias Walkner (AUT), KTM, 21:57:36 ชั่วโมง, +08:18
5. Toby Price (AUS), KTM, 22:02:52ชั่วโมง , +13:34
6. Xavier de Soultrait (FRA), Yamaha, 22:05:57 ชั่วโมง, +16:39
…
23. Rodney Faggotter (AUS), Yamaha, 23:45:36 ชั่วโมง, +01:56:18
24. Alessandro Botturi (ITA), Yamaha, 3:57:39 ชั่วโมง, +02:08:21