สำหรับการแข่งขัน 2018 Dakar Rally ที่กำลังจะมาถึงนี้นับเป็นครั้งที่ 40 ของรายการ โดยจะชิงชัยกันในพื้นที่สามประเทศ คือ เปรู-โบลิเวีย-อาเจ็นติน่า รวมระยะทางเกือบ 9,000 ก.ม. ระหว่าง 6-20ม.ค.2018 ที่จะมีทั้งสิ้น 14 สเตจ หลังแข่งขันถึงสเตจที่หกก็จะพักหนึ่งวันก่อนจะกลับมาแข่งขันกันต่อในช่วงสเตจที่เหลือ โดยรวมช่วงทดสอบพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์ทั้งสิ้น 4,234 กม.
สำหรับเส้นทางการแข่งขันในครั้งนี้ได้มีการปรับเส้นทางเข้าสู่ประเทศเปรูอีกครั้งเหมือนที่เคยใช้ในปี 2012และ2013 ส่วนเส้นทางในโบลิเวียก็เป็นการมีส่วนร่วมครั้งที่ห้าติดต่อกัน โดยที่อาเจ็นติน่านั้นก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแข่งขันเช่นทุกครั้งที่ผ่านมานับตั้งแต่ Dakar ย้ายมาแข่งในทวีปแอฟริกาใต้ ตั้งแต่ปี 2009
และในระหว่างนี้ทุกๆทีมแข่งจึงได้จัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับภาระกิจการแข่งขันครั้งนี้ทั้งหมด ขนส่งทางเรือ จากท่าเรือ Le Havre ในฝรั่งเศส ที่จะใช้เวลาในการเดินทางเกือบเดือนไปขึ้นที่ท่าเรือ Lima ที่ประเทศเปรู ซึ่งตามกำหนดการอุปกรณ์ทั้งหมดจะถึงมือของเจ้าหน้าที่หรือสต๊าฟทีมอีกครั้งที่จะตรวจเช็คในวันที่ 2 ม.ค. ก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ตรวจสอบอุปกรณ์ทางการแข่งขันของผู้จัดในพื้นที่สนามบิน Las Palmasในวันที่ 4 ม.ค.ตามกำหนด ซึ่งจุด technical checks นี้จะเป็นพื้นที่สุดท้ายของการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆก่อนที่จะเข้าสู่เกมการชิงชัยในวันที่ 6 ม.ค. สำหรับการชิงชัยในครั้งนี้ได้มีการปรับเส้นทางเข้าสู่ประเทศเปรูอีกครั้งเหมือนที่เคยใช้ในปี 2012และ2013 ส่วนเส้นทางในโบลิเวียก็เป็นการมีส่วนร่วมครั้งที่ห้าติดต่อกัน โดยที่อาเจ็นติน่านั้นก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแข่งขันเช่นทุกครั้งที่ผ่านมานับตั้งแต่ Dakar ย้ายมาแข่งในทวีปแอฟริกาใต้ ตั้งแต่ปี 2009
โดยหนึ่งในทีมแข่งแฟคทอรี่จากค่ายผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ร่วมแข่งขันนั้น ก็มี Yamalube Yamaha Official Rally Team ส่งทีมเข้าชิงชัยในแรลลี่สุดหฤโหดครั้งนี้ด้วย โดยมีการปรับไลน์นักแข่งใหม่จากปีที่ผ่านมา ที่จะนำทัพโดยนักแข่งที่มีประสบการณ์มากสุดในทีมอย่าง Adrien Van Beveren กับ Xavier de Soultrait พร้อมเสริมด้วย Franco Caimi และ Rodney Faggotter โดยทั้งสี่นักแข่งจะนำ รถแข่ง WR450F Rally ที่ว่ากันว่าได้รับการเสริมเขี้ยวเล็บชั้นยอดด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมกันนี้ทางฝั่ง Yamaha Ialy ยังได้ให้การสนับสนุน นักแข่งอย่าง Alessandro Botturi กับ Camelia Liparoti ที่จะเป็นอีกหนึ่งสองนักแข่งที่จะนำรถแข่งYamaha ลงชิงชัยอย่างเป็นทางการในเกมนี้
เช่นเดียวกับค่ายญี่ปุ่นอีกค่ายที่ส่งทีมอย่างเป็นทางการร่วมชิงชัยในเกมแรลลี่สุดหฤโหดนี้ก็คือ Honda Rally Team ที่จัดทีมห้าคนเข้าร่วมไล่ล่าความสำเร็จ ด้วยนักแข่งอย่าง Joan Barreda (# 5), Paulo Gonçalves (# 6), Michael Metge (# 14), Ricky Brabec (# 20) และ Kevin Benavides (# 47) ต่างก็จะนำ workbikes อย่าง Honda CRF450Rally ร่วมชิงชัยกับรถแข่งประเภทจักรยานยนต์ทั้งหมด 190 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถแข่งจากค่ายผู้ผลิตจากยุโรปอย่าง KTM ที่ผูกขาดความสำเร็จมากว่าหนึ่งทศวรรษนั้น จะต้องพบกับความท้าทายจากสองค่ายผู้ผลิตจากญี่ปุ่นทั้ง Yamaha และ Honda ที่พร้อมจริงจังในการชิงความเป็นสุดยอดในเกมแรลลี่สุดหฤโหด บนแผ่นดินแอฟริกาใต้นี้ ซึ่งเส้นทางการชิงชัยทั้งหมดใน 2018Dakar มีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
DAY STAGE CONTRY Km SS KmTotal
6/1 Lima-Pisco Perú 31 272
7/1 Pisco-Pisco Perú 267 278
8/1 Pisco-San Juan deMarcona Perú 295 501
9/1 S. Juan de Marcona-St.Juan de Marcona Perú 330 444
10/1 San Juan de Marcona-Arequipa Perú 264 770
11/1 Arequipa-La Paz Perú/Bolivia 313 758
12/1 Rest day in La Paz Bolivia – –
13/1 La Paz-Uyuni Bolivia 425 726
14/1 Uyuni-Tupiza Bolivia 498 584
15/1 Tupiza-Salta Bolivia/Argentina 242 754
16/1 Salta-Belén Argentina 372 795
17/1 Belén-Chilecito Argentina 280 484
18/1 Chilecito-San Juan Argentina 375 722
19/1 San Juan-Córdoba Argentina 423 904
20/1 Córdoba-Córdoba Argentina 119 284
Total 4234 8276
