
หลังเกม JapaneseGP ด้วยตำแหน่งโพลโพสิชั่นของ Johann Zarco จาก Monster Yamaha Tech3 ที่นับเป็นการสตาร์ทจากกริดสตาร์ทอันดับหนึ่งครั้งที่สองในฤดูกาลแรกด้วยสถานะของ Rookie year ส่งผลให้เขาเป็นนักแข่งฝรั่งเศสคนที่สองที่สามารถคว้าโพลโพสิชั่นมากกว่า1ครั้งในฤดูกาลเดียว นับจากที่ก่อนหน้านี้ในปี 1988 เคยทำได้โดย Christian Sarron จากรุ่น 500 ซีซี ขณะที่กริดสตาร์ทอันดับสองในเกมนี้เป็นของ Danilo Petrucci จาก Octo Pramac Racing ที่เป็นการสตาร์ทจากแถวหน้าครั้งที่สี่ในฤดูกาลนี้ และเป็นโอกาสที่จะลุ้นจบการแข่งขันด้วยการติดอันดับ TOP3 หรือ มีตำแหน่งบนโพเดี้ยมได้เป็นครั้งที่สี่ในปีนี้อีกด้วยถ้าหากว่าสามารถขับขี่ได้ดีในวันแข่งขันจริง จากตำแหน่งสตาร์ทในสองอันดับแรกนี้นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ทีมแข่งอิสระหรือแซทเทิลไลท์ทีมสามารถยึดสองกริดแรกกริดในแถวหน้าได้โดยหลังสุดคือ ปี 2013 จากเกม CzechGPที่ Cal Crutchlow คว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่น โดยมี Alvaro Bautista สตาร์ทจากกริดที่สอง และกริดสตาร์ทอันดับที่สามจากการควอลิฟายนั้นเป็นของ Marc Marquez จาก Reosil Honda ผู้ที่รั้งจ่าฝูงตารางคะแนนสะสมในเวลานี้ และที่น่าจับตาคือผู้นำในแถวที่สองจากกริดสตาร์ทอันดับสี่ของ Aleix Espargaro จาก Aprilia Racing Team Gresini ที่ถือว่าเป็นตำแหน่งสตาร์ทที่ดีที่สุดจากการควอลิฟายของรถแข่ง Aprilia นับตั้งแต่มีการแข่งขัน MotoGP เป็นต้นมา ในขณะที่รองจ่าฝูงบนตารางคะแนนอย่าง Andrea Dovizioso จาก Ducati Team สตาร์ทจะออกสตาร์ทจากกริดที่9 หลังจากจบการควอลิฟายหาตำแหน่งสตาร์ท นักแข่งต่างให้ความเห็นว่า
Danilo Petrucci : ผมมองดูแทร็คแล้วก็พบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นยังคงเต็มไปด้วยน้ำ ซึ่งมันคงจะน่ากลัวหากจะต้องใช้ยางสลิค ดังนั้นผมจึงคิดว่าน่าจะต้องใช้ยางสองชนิดในช่วงควอลิฟายนี้ คือ คอมปาวด์soft กับ extra soft ที่น่าจะไว้ใช้ในช่อวงรอบท้ายๆ ซึ่งแม้ว่าในการควอลิฟายนั้น Johann จะสามารถทำได้ดีกว่า แต่สำหรับผมแล้วนั้นกลับรู้สึกแฮปปี้กับเวลาที่ทำได้นี้ เพราะว่าจริงๆแล้วผมหวังไว้เพียงแค่ทำเวลาในกลุ่มTOP5 เท่านั้นเอง
Valentino Rossi : จากสภาพแทร็คที่มีน้ำไม่มากนั้นเราเชื่อว่าพื้นน่าจะแห้งไวดังนั้นเราจึงเลือกที่จะใช้ยางสลิค ทว่าพื้นแทร็คนั้นกลับยังคงเปียกและมันไม่เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้
Marc Marquez : ผมสามารถที่จะทำเวลาต่อรอบได้ดีด้วยยางคอมปาวด์ soft และก็เริ่มคิดว่าน่าจะทำได้ดีขึ้นกับ extra soft แต่แล้วผมกลับตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงใช้ยางสลิค มันมีโอกาสที่จะทำเวลาได้ดี แต่ขณะเดียวกันมันกลับทำให้อยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอย่างมาก และนั่นทำให้ผมไม่อยากเสี่ยงที่จะบวกเพื่อทำเวลาต่อรอบให้ดีกับยางสลิคที่คาดว่าน่าจะใช้ได้ในช่วงท้ายของการควอลิฟาย