แม้ว่าเกมการลุ้นชิงตำแหน่งจ่าฝูงของรุ่น MotoGP จะยังคงความเข้มข้นเพื่อที่จะชี้วัดถึงโอกาสในการ”ลุ้นแชมป์” แต่สำหรับเกมMotoGPสนามที่ 14 ที่ AragonGP นั้น “ไฮไลท์กลับโฟกัสไปที่ การคืนสู่สังเวียนครั้งแรกในรอบ 24 วัน หลังขาหัก ของวาเลนติโน่ รอสซี่ ที่ค่อนข้างจะสร้างความแปลกใจกับการทำเวลาในช่วงควอลิฟายจนได้กริดสตาร์ทอันดับที่สอง พร้อมๆกับสิ่งที่น่าสนใจก็คือ “จะยืนระยะได้กี่รอบ” ซึ่งที่สุดแล้วหลังจากที่ออกไปขับเคี่ยวในกลุ่มนำแบบมีลุ้นโพเดี้ยมได้อย่างน่าแปลกใจ ก่อนที่จะจบการแข่งขันในเกมนี้ด้วยอันดับที่ห้า หลังจากที่เริ่มทำความเร็วได้ลดลงในช่วงสิบเอ็ดรอบสุดท้าย ซึ่งวาเลนติโน่ รอสซี่ได้กล่าวหลังการชิงชัยว่า
“ ผมมีความยินดีกับสิ่งที่ทำได้นี้อยู่พอสมควร เพราะว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้เลยว่าจะสามารถกลับมาขี่ได้หรือไม่ จนกระทั่งสามารถที่จะออกสตาร์ทได้ในแถวหน้าจากการควอลิฟายเมื่อวานมันยอดเยี่ยมมาก ผมรู้สึกแฮปปี้อย่างมาก แล้วผมก็รู้ว่าในครึ่งหลังของการแข่งขันนั้นจะต้องพบกับความยากลำบากจากอาการบาดเจ็บอยู่บ้างอย่างแน่นอน ซึ่งระหว่างแข่งขันก็มีอาการเจ็บบ้างเล็กน้อย และอีกอย่างระหว่างแข่งนั้นผมก็ต้องพยายามรักษาสถานการณ์ที่ดีไว้ให้ครบรอบการแข่งขันเนื่องจากพบว่ามีการสึกหรอจากยางที่เราเลือก นั่นเป็นสิ่งที่ผมจะต้องพยายามรับมือตลอดการแข่งขัน ตลอดช่วงเวลาสองสัปดาห์ของโปรแกรมการออกกำลังกายของผมเป็นไปด้วยดีในการที่จะทำการเทรนนิ่งและฟื้นฟูขาให้อยู่ในสภาพที่พอจะรองรับการแข่งขัน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี หลังจากนี้ไปก็คงจะโฟกัสไปที่เกมการแข่งขันที่โมเตกิ ที่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสนามที่มีความสำคัญ แม้ว่าจะยังเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักกับขาของผมแต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีในเกมที่โมเตกิแม้ว่าจะไม่ 100% แต่ผมก็คิดว่าน่าจะฟิตมากขึ้นอีกเล็กน้อย ”
ในขณะที่ทีมเมทอย่างมาเวอริค บีญาเลส ที่แม้ว่าจะสามารถคว้าโพลโพสิชั่นมาครองได้ แต่ก็ทำได้เพียงอันดับสี่ในเกมนี้ได้กล่าวถึงเกมนี้ว่า
“ ยางแบบ hard tyre ที่เลือกนั้นค่อนข้างแย่สำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอบแรก แต่แล้วมันก็ค่อยๆเริ่มจะทำได้ดีในช่วงรอบหลังๆจนกระทั่งจบการแข่งขัน ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความหนึบของยางแต่ผมหมายถึงพัฒนาการประสิทธิภาพของยางในแต่ละรอบ แต่อย่างไรก็ตาม Folger ก็บอกว่ายาง medium tyre ที่เขาใช้นั้นก็ไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไรนัก มันกลายเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับเราว่าควรจะเลือกใช้ยางแบบไหนในสนามนี้ สนามถัดไปผมจะลองวางแผนทดลองใช้ยางที่คอมปาวด์แข็งกว่าในวันศุกร์เพื่อที่จะได้มีโอกาสทดลองจริง ซึ่งผมก็หวังว่าในสนามถัดไปนั้นจะสามารถทำได้ดีขึ้นและคิดว่าเราน่าจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นที่โมเตกิ ”
สำหรับในเกมนี้นักแข่งที่น่าจับสนใจก็คือ ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่สามารถก้าวสู่โพเดี้ยมได้อีกครั้งที่ Aragon ด้วยผลงานที่”พัฒนาขึ้น” กับรถแข่ง Ducati ที่สามารถขึ้นนำได้เกินกว่าครึ่งทางของการแข่งขัน โดยลอเรนโซ่ได้กล่าวว่า
“ เราเข้าใกล้กับโอกาสในการคว้าชัยอย่างมากในเกมนี้ หลังจากที่ผมขึ้นนำอยู่นานก่อนที่จะค่อยๆช้าลงไป แต่อย่างไรก็ตามเราพัฒนาได้ดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทีมที่สามารถทำอะไรมากมายที่ช่วยให้การแข่งขันของผมนั้นง่ายขึ้นกว่าที่ผ่านมา แม้ว่าสนาม Aragon นี้จะไม่เข้ากับสไตล์ของรถแข่งทีมเรา แต่เราก็สามารถพัฒนาได้ดียิ่ง ผมคิดว่าถ้าเราได้ใช้ยางแบบเดียวกันโอกาสก็น่าจะดีกว่านี้ เพียงแต่ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนเลือกยาง เราจึงไม่มองไปที่ยาง medium หรือ hard เพราะว่าสเปคยางที่เราเลือกนี้มันทำให้ในช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันนั้นผมไม่สามารถที่ยืนระยะทำความเร็วในช่วง .49วินาทีได้ ดังนั้นระหว่างแข่งผมจึงได้แต่พยายามคุมคันเร่งเพื่อที่จะรักษาสภาพยางให้จบการแข่งขัน ผมคิดว่าในเกมถัดไปสนามอย่างโมเตกิจะมีความเหมาะกับสไตล์ของรถแข่งเรามากกว่าที่นี่และนั่นเราจะพยายามให้ดีที่สุดอีกครั้ง น่าจะเป็นเกมที่ผมมีโอกาสสู้เพื่อชัยชนะก็ได้ในเกมที่กำลังจะมาถึง ”
และหลังจากจบเกมที่ AragonGP ด้วยชัยชนะของมาร์ค มาเควส ในขณะที่อังเดร โดวิซิโอโซ่ ทำได้เพียงอันดับเจ็ดนั้น ส่งผลให้ ช่องห่างคะแนนถูกยืดออกเป็น 16 แต้ม ซึ่งผลอันดับตารางคะแนนสะสมมีดังนี้
