​พรีวิวก่อนเกม MotoGP สนาม 14 ที่อารากอน กับ 17 โค้ง 11 จุด แรงเบรก 1.5G

เข้าสู่สนามที่14 ของฤดูกาล ที่เป็นเกมบนแผ่นดินยุโรปก่อนจะเข้าสู่ช่วงเอเชียทัวร์ในโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ด้วยเกมที่สนามแข่ง Aragon สนามแข่งน้องใหม่ล่าสุดของสเปนที่ก่อสร้างเสร็จในปี2009 แล้วเริ่มใช้เป็นหนึ่งในสังเวียนการชิงชัยรายการMotoGP ในปี2010เป็นต้นมา ด้วยความยาว 5,077 ม.ต่อรอบ มีจุดเบรก 11 จากทั้งหมด 17 โค้ง โดยไฮไลท์อยู่ที่ช่วง 2 กิโลเมตรแรกของสนามที่จะมีจุดเบรกมากถึง 7 จุด ซึ่งกล่าวได้ว่า สนามแห่งนี้ เบรกจะเข้ามามีบทบาทค่อนข้างมากในการแข่งขันกับจังหวะการ braking โดยเฉพาะในช่วง 2 กิโลเมตรแรกตามที่กล่าวถึงนั้น บางครั้งความร้อนที่เกิดจากการทำงานของเบรกนั้น อาจจะระบายความร้อนไม่ทันจนบางครั้งอาจจะสร้างปัญหาให้กับประสิทธิภาพการเบรกระหว่างแข่งขันได้นั่นเอง สำหรับระดับความยากของการใช้เบรก จากเรท 1-5 นั้น ในสนามAragon นี้ จัดอยู่ในระดับ 4 ซึ่ง ถือว่ายาก หรืออยู่ในเลเวล Hard นั่นเอง
 
จากการแข่งขันทั้งสิ้น 23 รอบ ของรถแข่ง MotoGP นั้นเฉลี่ยจะใช้จังหวะการเบรกรวม 13 นาที คิดเป็น 31% ของระยะเวลาในการแข่งขัน เฉลี่ยแต่ละรอบจะใช้ระยะเวลาในการเบรก 34 วินาที โดยโค้งที่ยากที่สุดของสนาม คือ โค้ง16 ที่ซึ่งรถแข่งจะทะยานมาด้วยความเร็ว 344 กม./ชม. ก่อนจะลดความเร็วสุดท้ายเหลือ 139 กม./ชม. ด้วยระยะทางเบรก 284 ม. ในระยะเวลาเบรก 4.6 วินาที ที่จะต้องใช้แรงกดบนมือเบรกด้วยแรงที่เทียบได้กับน้ำหนัก 8.1 กก. จังหวะเบรกในจุดนี้จะเกิดแรงขนาด 1.5G
 
ถัดมาก็คือโค้งที่1 ที่รถแข่งจะทะยานมาด้วยความเร็ว 285 กม./ชม. ก่อนที่จะลดความเร็วสุดท้ายเหลือ 89 กม./ชม.  บนระยะทางเบรก 245 ม. ในระยะเวลา 5.0 วินาที ด้วยแรงกดบนมือเบรกที่เทียบได้กับน้ำหนัก 6.6 กก.ซึ่งในจังหวะนี้จะเกิดแรงระดับ 1.5G เช่นเดียวกับโค้งที่16



 นอกจากนี้ยังมีอีกสองโค้งที่จังหวะการใช้เบรกเกิดแรงในระดับเกิน 1.1G ก็คือ โค้งที่ 8 ที่จะต้องลดความเร็วจาก 213 กม./ชม. ลงมาเหลือ 98 กม./ชม. บนระยะทางเบรก 150 ม. ในเวลา 3.5 วินาที ด้วยแรงกดลงมือเบรกที่เทียบเท่ากับน้ำหนัก 5.5 กก. ที่จังหวะนี้จะเกิดแรงในระดับ 1.2G
 
และถัดมาก็คือ โค้ง12 ที่จะลดความเร็วจาก 266 กม./ชม.เหลือ 96 กม./ชม. บนระยะทางเบรก 222 กม. ในระยะเวลา 4.7 วินาที ด้วยแรงที่กดลงบนมือเบรกเทียบเท่ากับน้ำหนัก 6.0 กก. ซึ่งจะเกิดแรงในระดับ 1.2G ในขณะที่โค้งอื่นๆก็จะเกิดแรงในจังหวะการเบรกระดับ 0.8-1.1G ด้วยความเร็วสุดท้ายที่ต้องการลงลงมาก่อนเข้าโค้งระหว่าง 71-160 กม./ชม.
 
สำหรับในสนามแห่งนี้เจ็ดครั้งหลังสุดนั้นปรากฏว่า Honda ชนะได้ 4 ครั้ง , Yamaha ชนะได้ 2 ครั้ง โดยที่ Ducati เคยชนะ 1 ครั้ง ในสมัยของ Casey Stoner ที่ทำในปี 2010 และห้าครั้งหลังสุดตำแหน่งสูงสุดบนโพเดี้ยมที่นี่ล้วนเป็นของนักแข่งจากสเปนทั้งสิ้น  ซึ่งในปี2016ผลงานบนโพเดี้ยม คือ Marc Marquez –Jorge Lorenzo และ Valentino Rossi ตามลำดับ โดยที่ Maverick Vinales ตามมาเป็นอันดับสี่ ในขณะที่ Andrea Dovizioso จบด้วยอันดับ 11 ซึ่งในเกมที่จะถึงในช่วงวันอาทิตย์นี้คงต้องมาดูกันว่า 3 นักแข่งที่จะลุ้นแชมป์โลกโมโตจีพี ใครจะผลงานได้ดีกว่ากัน...ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว













UIP : 353 | Page View : 360