อนุชา นาคเจริญศรี บิดยามาฮ่า YZF-R1 ไล่แซงคู่แข่งจากอันดับ 4 ขึ้นไปผงาดคว้าชันชนะในรุ่นซูเปอร์ไบค์ 1000 SB1 พร้อมคว้าชัยชนะติดต่อกันสองสนาม ส่วนแชมป์ประจำปีในรุ่นSB1 ตกเป็นของ ฐิติพงศ์ วโรกร จากคาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ส่วนแชมป์ในรุ่น SB2 ตกเป็นของออ ปิตะบุตร จากทีม Core Motor Sport Thailand
 
รุ่น D.I.D Superbikes 1000 ในการแข่งขัน IRC-elf MotoRace สนามสุดท้ายที่สนามพีระเซอร์กิต พัทยา โดยในรอบการควอลิฟาย อนุชา นาคเจริญศรี(10) บิดยามาฮ่า YZF-R1 ทำเวลามาเป็นอันดับ 1 เวลา 1’01.083 นาที อันดับ 2 ฐิติพงศ์ วโรกร(100) เวลา 1’01.393 นาที อันดับ 3 ชัยวิชิต นิสกุล(25) เวลา 1’01.958 นาที อันดับ 4 ออ ปิตะบุตร(65) เวลา 1’06.401 นาที อันดับ 5 อัศวิน คงทนไพศาล(78) เวลา 1’06.737 นาที อันดับ 6 Thierry Perenon(1) เวลา 1’06.742 นาที อันดับ 7 รัฐศาสตร์ รุ่งศิริทิพย์(5) เวลา 1’06.991 นาที












โดยในรุ่นนี้ทำการแข่งขันรวมทั้งหมด 17 รอบสนาม ในระหว่างช่วงก่อนการแข่งขันในรุ่น SB1 จะเริ่มขึ้นมีฝนตกลงมา แต่ในช่วงของการแข่งขันพื้นแทร็คก็เริ่มแห้งมากขึ้นแต่หลายๆจุดก็ยังเปียกชิ้นอยู่ เกมการแข่งขันเริ่มขึ้นทันทีที่สัญญาณไฟแดงดับ รถแข่งทั้ง 7 คันพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ท ในโค้งแรก ฐิติพงศ์ วโรกรทะยานขึ้นนำไปก่อนตามด้วยชัยวิชิต นิสกุล, ออ ปิตะบุตรและ อนุชา นาคเจริญศรี ทั้ง4นักแข่งต่างทะยานเกาะกลุ่มกันไป จนเข้ารอบสอง อนุชา นาคเจริญศรี ที่ขี่ยามาฮ่า YZF-R1 ที่เริ่มคุ้นเคยกับสภาพสนามที่มีจุดที่แห้งและเปียกชิ้นมากขึ้นก็เริ่มขยับตำแหน่งขึ้นมาโดยขยับแซง ออ ปิตะบุตร ขึ้นอยู่ที่ 3 และถัดมาอีก2 รอบ ชัยวิชิต นิสกุลก็ขยับแซงฐิติพงศ์ วโกร ขึ้นมานำ ขณะที่อนุชา นาคเจริญศรีที่อยู่ที่ 3 ก็เร่งจังหวะมากขึ้น พร้อขยับเข้ามาใกล้ ฐิติพงศ์ วโรกรและทะยานแซงขึ้นไปอยู่ที่ 2 จากนั้นเพียงแค่รอบเดียว อนุชา นาคเจริญศรีก็บิดยามาฮ่า YZF-R1 ทะยานแซงชัยวิชิต นิสกุลขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง จากนั้นอนุชา ก็เร่งจังหวะขยับรถคู่กายแสดงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมขยับหนีห่างจากคู่แข่งขึ้นไปเรื่อยๆกับการนำเป็นอันดับ 1 จนทะยานผ่านธงตราหมากรุกคว้าแชมป์ในรายการ IRC-elf MotoRace ติดต่อกันสองสนามซ้อน
 
ส่วนแชมป์ประจำปีในรุ่นSB1 ตกเป็นของ ฐิติพงศ์ วโรกร จากคาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ส่วนแชมป์ในรุ่น SB2 ตกเป็นของออ ปิตะบุตร จากทีม Core Motor Sport Thailand