หลังจากจบเกมที่ Brno นักแข่งทุกคนต่างก็เดินหน้าลงสนามแข่งทำการทดสอบต่อใน Monday Test ทันที ซึ่งผลในกลุ่มห้าอันดับแรกของการทดสอบก็คือ วาเลนตโน่ รอสซี่ เวลา 1’55.162 นาที , มาร์ค มาเกรซ เวลา +0.018 , มาเวอริค บีญ้าเลส +0.173 , ฮอรืเก้ ลอเรนโซ่ +0.380 และ โยฮาน ซาโก้+0.529 ตามลำดับ
 
ทันทีที่จบการทดสอบทุกทีมต่างก็เดินหน้าเข้าสู่เกมสนามถัดไปที่จะเริ่มในช่วงสุดสัปดาห์ถัดมากับเกม MotoGP ในรายการ AustriaGP บนแทร็ค Red Bull Ring ใน Spielberg ที่ซึ่งจะเป็นการชิงชัยสนามที่ 11 ของฤดูกาล โดยสนามแข่งแห่งนี้ได้ถูกใช้จัดแข่ง F1 ในช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้ารายการ MotoGP ที่นี่ สภาพโดยรวมสนามแข่งมีโค้งไม่มากนักส่วนมากจะเป็นทางตรงค่อนข้างยาว ซึ่งความเร็วเฉลี่ยของสนามจะอยู่ที่ประมาณ 297.6ก.ม./ช.ม.(เวลาเฉลี่ยจากการควอลิฟาย)


 
จากความยาวต่อรอบสนาม 4,318 เมตร ประกอบด้วยจุดที่ต้องใช้เบรกทั้งสิ้น 7 จุด จากทั้งหมด 9 โค้ง ซึ่งจะแข่งขันกันทั้งสิ้น 28 รอบสนาม  โดยข้อมูลจาก Brembo ระบุว่า ความต้องการใช้เบรกในสนามนี้ จัดอยู่ในระดับ Very Hard โดยที่นักแข่งMotoGP จะใช้เบรกในแต่ละรอบ 7 ครั้ง ในเวลารวม 25 วินาที เมื่อคิดจากการแข่งขัน 28 รอบ Brembo ระบุว่าจะมีการใช้เบรกเป็นเวลารวม 700 วินาที หรือ ต่ำกว่า 12 นาที คิดเวลาการใช้เบรกได้ประมาณ 29% ของเวลาที่ใช้ในการแข่งขัน และเมื่อจัดระดับความยากของการใช้เบรก จากตัวเลข 1-5 ของ Brembo ปรากฏว่า จะอยู่ที่เรท 5 เทียบเท่ากับ สนามแข่งอย่าง Barcelona , Motegi และ Sepang โดยตลอดทั้ง 28 รอบของการแข่งขัน นักแข่งจะใช้แรงกดลงบนเบรกเป็นน้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 1.05 ตัน ในทุกๆจังหวะการเบรกจะต้องออกแรงกดลงที่เบรกเทียบเท่ากับน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 4.7 ก.ก. จากทั้ง 7 โซนของการใช้เบรก นั้นในสามโค้งแรกนั้นจะจัดอยู่ในเลเวล very hard และอีก 4 โค้งที่อยู่ในเลเวล Difficulty หรือ ยาก
 


โดยเฉพาะในโค้งแรก Castrol Edge ที่รถแข่งจะทะยานมาด้วยความเร็ว 312 กม./ชม. ก่อนจะต้องลดความเร็วสุดท้ายก่อนเข้าโค้งเหลือ 99 กม./ชม. ในระยะเวลา 4.1 วินาที จากระยะเบรก 216 เมตร ด้วยแรงกดลงบนมือเบรกเทียบเท่าน้ำหนัก 6.4 ก.ก. ซึ่งจะเกิดแรงระดับ 1.5G (การเบรกเพื่อลดความเร็วของรถยนต์สปอร์ตจาก 200-0ก.ม./ช.ม. โดยเฉลี่ยจะเกิดแรงระดับ 1.2G)



โค้งที่สอง Remus จากความเร็ว 299 กม./ชม. จะใช้เวลา 5.0 วินาทีลดความเร็วสุดท้ายเหลือ 64 กม./ชม.บนระยะเบรก 236 ม.โดยจะเกิดแรงระดับ 1.5G จะใช้แรงกดเทียบเท่ากับน้ำหนัก 5.8 กก. และอีกโค้งที่จัดอยู่ในเลเวล VeryHard ก็คือ โค้งที่สาม Rauch ที่จะลดความเร็วจาก 294 กม./ชม. ให้เหลือความเร็วสุดท้ายที่ 79 กม./ชม.บนระยะเบรก 251 ม. ในระยะเวลา 5.2 วินาที ซึ่งจะเกิดแรงระดับ 1.5G โดยที่จะใช้แรงกดมือเบรกเทียบเท่าน้ำหนัก 5.7 กก. นอกจากนั้นอีกสี่โค้งก็คือ 5 , 6 , 8 , 9 ที่ยังมีความต้องการใช้เบรกในระดับยากเช่นกัน



น่าติดตามว่าผลจากการทดสอบ Monday Test ที่สนาม Brno จะมีส่วนช่วยให้นักแข่งอย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่, มาร์ค มาเกรซ และมาเวอริค บีญาเลส สามารถประเดิมคว้าชัยครั้งแรกบนแท็คแห่งนี้ได้หรือไม่ ซึ่งในปีที่แล้วผู้ชนะในสนามนี้ คือ อังเดร เอียนโนเน่ ขณะที่นักแข่งในรุ่น MotoGP คนอื่นในปัจจุบันที่เคยชนะใน Austria นี้ก็มีนักแข่งอย่าง โจฮาน ซาโก้ (ชนะจากรุ่นMoto2) ก็ต้องติดตามกันว่า ใคร จะสามารถทำผลงานได้ดีที่สุดในเกมสนามที่ 11 นี้ และการทดสอบ Monday Test ที่ผ่านมานั้นจะมีส่วนเช่นไรกับความพร้อมในเกมนี้หรือไม่ ซึ่งTop5 จากการแข่งขันในปีที่ผ่านมามีดังนี้ อังเดร เอียนโนเน่ ดูคาติ, อังเดร โดวิซิโอโซ่ ดูคาติ, ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ยามาฮ่า, วาเลนติโน่ รอสซี่ ยามาฮ่า  และ มาร์ค มาเกรซ ฮอนด้า (โดยที่ มาเวอริค บีญาเลส ซูซูกิ ตามมาเป็นอันดับหก )