จากฤดูกาล2016ที่ผ่านมา Aprilia ทำผลงานได้มากที่สุด จาก อัลวาโร่ เบาติสต้า  82 แต้ม จากสเตฟาน บราเดิ้ล  63 แต้ม แต่เมื่อดูที่ครึ่งฤดูกาล หลังผ่านไปเก้าสนามนั้นพบว่า สเตฟาน บราเดิ้ล ทำได้ 37 แต้ม ในขณะที่ อัลวาโร่ เบาติสต้า ทำได้ 35 แต้ม รั้งอันดับ 15 และ17หลังผ่านครึ่งฤดูกาล ในขณะที่ อเล็กซิส เอสปากาโร่ ที่อยู่กับแฟคทอรี่ซูซูกินั้น ทำผลงานครึ่งฤดูกาล รั้งอันดับ11 มี 51 แต้ม ก่อนที่จะจบฤดูกาลหลังครบ 18 สนามทำได้ 93 แต้ม รั้งอันดับ 11 ของตารางดีกว่า อัลวาโร่ เบาติสต้า ที่รั้งอันดับ12เพียงอันดับเดียว  



เข้าสู่ฤดูกาล 2017 แฟคทอรี่Aprilia เปลี่ยนตัวนักแข่งใหม่ มาเป็น อเล็กซิส เอสปากาโร่  ที่ย้ายข้ามฝากมาจากแฟคทอรี่ซูซูกิ กับ แซม โลว์ นักแข่งที่ผลักดันขึ้นมาจาก Gresini Moto2 ซึ่งก็เป็นทีมในเครือข่ายของ Fausto Gresini ที่ทำทั้งทีมแข่ง Moto3 , Moto2 และ เริ่มต้นทำรถแข่ง CRT ในรุ่น MotoGP โดยใช้เครื่องยนต์ของ Aprilia ก่อนที่ทางโรงงานในโนเอล ซึ่งเป็นฐานของแฟคทอรี่ทีมAprilia ในการพัฒนารถแข่ง ได้ตกลงที่จะก้าวขึ้นมาลงแข่งขันในรุ่น MotoGP ด้วยสถานะของ Factory Team อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยตัวแข่ง RS-GP ที่พัฒนามาใช้กับโปรเจ็ค Aprilia MotoGP







แม้ว่าผลงานเกือบครึ่งจากเก้าสนามในครึ่งฤดูกาลแรกนี้จะไม่จบการแข่งขัน โดย อเล็กซิส เอสปากาโร่ สามารถ เก็บแต้มได้ 5 จาก 9 สนาม ในขณะที่ แซม โลว์ เก็บแต้มได้ 2 จาก9 สนาม แต่ทางทีม”พอใจ” กับพัฒนาการของรถแข่ง โดยเฉพาะกับเกมสนามล่าสุดก่อนพักครึ่งฤดูกาล  จนท.ของทีมจากโรงงานที่โนเอล อย่าง Albesiano บอกว่า  “ Aprilia เราเริ่มขยับเข้าใกล้กับกลุ่มนำมากขึ้นมากขึ้น และเรายังคงเติบโต(หมายถึงมีการพัฒนาที่ดี)อย่างต่อเนื่อง”  







หรือแม้แต่เกมที่เนเธอร์แลนด์ที่แม้ว่าจะจบด้วยการติดในกลุ่มสิบอันดับแรก แต่ที่น่าสนใจก็คือในช่วงต้นเกมนั้น อเล็กซิสสามารถที่จะเปิดต้นเกมได้ด้วยการขับเคี่ยวลุ้นในกลุ่มลุ้นห้าอันดับแรกได้อยู่ช่วงเวลาหนึ่งซึ่ง อเล็กซิส เอสปากาโร่ ได้กล่าวถึงรถแข่ง ว่า
 
“ รถแข่ง RS-GP สามารถที่จะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราสามารถลดช่องห่างจากกลุ่มนำลงได้มากอย่างรวดเร็ว หลายๆครั้งที่ผมรู้สึกว่ารถแข่งมีความสามารถที่จะมีโอกาสสู้ได้ตำแหน่งที่ดีขึ้นในการแข่งขันซึ่งผมสามารถที่จะแซงนักแข่งคนอื่นได้เช่นกันระหว่างการชิงชัยเรามีความก้าวหน้าขึ้นทีละสเต็ปทีละสเต็ป โดยเฉพาะในเกมที่เยอรมันที่เพิ่งจบไปนั้น ผมมีโอกาสที่จะขยับเข้าใกล้กับกลุ่มนำมากขึ้น แน่นอนว่าผมมองเห็นการดวลกันระหว่าง โยนาส โฟร์เกอร์และมาร์ค มาเกรซ อยู่ด้านหน้า ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่สามารถที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมตรงนั้นได้ แต่ผมคิดว่าผมสามารถที่จะขยับเข้าไปใกล้พวกเขาได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา มันเป็นสิ่งที่ดีที่เราสามารถที่จะตามไปพร้อมๆกับนักแข่งที่แข็งแกร่งในการแข่งขันได้ ถือว่าเราสามารถทำงานได้ไปในทิศทางบวก ”







ในช่วงพักครึ่งฤดูกาล RS-GP จะยังคงต้องได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจากโรงงานที่โนเอลต่อไป เพื่อแผนการพัฒนาที่จะกลับมาทำผลงานให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น กับเป้าหมาย “ที่จะลดช่องว่าง” จากนักแข่งในกลุ่มนำให้มากที่สุด และแม้ว่า ผลงานจบพักครึ่งฤดูกาล 2017 นี้ จะทำแต้มรวมได้ต่ำกว่า ช่วงเวลาเดียวกันในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทีม”พอใจ” นั่นก็คือ ประสิทธิภาพในการแข่งขันของรถแข่งที่สามารถ “ขับเคี่ยว” กับคู่แข่งในอันดับที่สูงขึ้น หรือสม่ำเสมอขึ้นกับการชิงชัยกับกลุ่มลุ้นสิบอันดับแรกได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง







ซึ่งผลงานหลังผ่านไปเก้าสนามของโปรแกรมการแข่งขันทั้งสิ้น 18 สนามในฤดูกาลนี้ อเล็กซิส เอสปากาโร่ เก็บแต้มได้ 10+7+6+9=32 แต้ม รั้งอันดับ 14 ของตารางคะแนน ส่วน แซม โลว์ เก็บแต้มได้ 5+2=7 แต้ม รั้งอันดับ24 ของตารางคะแนนสะสม