​ปรีวิวก่อนเกม MotoGP ที่ฝรั่งเศส “ลุ้นโยฮัน ซาโก้ ทำผลงานขึ้นโพเดี้ยม”ที่บ้านเกิด

“โยฮัน ซาโก้ ช่วยให้ผมได้นึกถึงช่วงเวลาที่ผมก้าวขึ้นมาสู่รุ่น MotoGP ในปีแรก ” มาร์ค มาเกรส กล่าวถึงนักแข่งชาวฝรั่งเศสดีกรีแชมป์ Moto2 ที่ก้าวขึ้นสู่เกมระดับพรีเมียร์คลาสในฐานะรุกกี้ พร้อมทั้งเสริมว่า “ เขาขี่ได้ดุดันจริงๆ เขาพยายามจนถึงขีดสุดซึ่งในหลายๆจังหวะนั้นเหมือนกับว่าเกือบจะล้ม ซึ่งนี่คือวิถีของการเรียนรู้ ที่คุณจะต้องพยายามขี่อย่างเต็มที่ บวกเข้าไปให้มากที่สุดจนเกือบที่จะเกินขีดจำกัดที่มี และที่ผมเห็นก็คือเขากำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเรียนรู้ ที่จะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัด ”
 
ผลงานในช่วงเปิดฤดูกาลเป็นต้นมาโดยเฉพาะจากเกมที่เจเรซ จะมีผลยิ่งต่อการดึงดูดคนฝรั่งเศสให้ติดตามเกมการแข่งขันมากขึ้น โดยเฉพาะเกมที่กำลังจะมาถึงใน เลอมังส์นั้น เพราะจำนวนผู้ชมชาวฝรั่งเศสที่จะเข้ามาชมเกมการแข่งขันเพิ่มขึ้นนั้นเพราะว่า “เขารู้ว่าจะต้องมาเชียร์ใคร” ในรุ่นการแข่งขันที่เรียกว่า class of the king แต่ทว่าในช่วงเวลา 69 ปีของการชิงชัยใน World Grand Prix ถ้าดูเฉพาะในระดับรุ่นพรีเมียร์คลาสจะพบว่า ฝรั่งเศสชนะได้เพียงสามครั้งเท่านั้น เฉลี่ยในช่วงเวลา 23 ปี จะชนะหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวน 230 ครั้งของอิตาลี , 154 ครั้งของสหรัฐอเมริกา , 137ครั้งของอังกฤษ และ 135ครั้งของสเปน ดังนั้นด้วยผลงานของโยฮัน ซาโก้ จึงทำให้เกิดความหวังว่าธงชาติฝรั่งเศสอาจจะโบกสะบัดได้อีกครั้งในเกมที่เลอมังส์ ในสุดสัปดาห์นี้



จากความนิ่ง ความสม่ำเสมอของจังหวะการขี่ และ ความเร็ว ของโยฮัน ซาโก้ ที่แสดงให้เห็นตั้งแต่เปิดฤดูกาล ตั้งแต่มาร่วมงานกับทีม Tech3 ที่ซึ่งรถแข่งนั้นใช้เฟรมตกปีถึงสองปีเมื่อเทียบกับทีมแฟคทอรี่นั้นสามารถสร้างความลำบากในการชิงชัยให้กับนักแข่งในระดับแฟคทอรี่ทีมได้ ทางที่ปรึกษาส่วนตัว(หรือโค้ช)ของโยฮัน ซาโก้ คือ Laurent Fellon ที่เคยเป็นนักแข่งในช่วงยุค70s ได้กล่าวถึงทักษะการขี่ของโยฮัน ซาโก้ ว่า
 
“ จากประสบการณ์ในการแข่งรุ่นMoto2 ที่จะต้องพยายามควบคุมรถแข่งให้อยู่ ควบคุมจังหวะการขี่ให้มีความนุ่มนวลมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้นั้นจึงกลายเป็นข้อดีต่อการพัฒนาทักษะการขี่ที่มีความนุ่มนวล ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า คุมจังหวะการขี่ได้นุ่มกว่า มาร์ค มาเกรส ด้วยซ้ำไป และจากการที่ทั้งคู่ผ่านประสบการณ์จากรุ่น Moto2 ที่จะต้องปล้ำรถแข่งให้อยู่ในขณะที่ต้องเค้นคันเร่งด้วยความดุดันนั้นจึงส่งผลให้ได้รับทักษะที่ดีกว่าคู่แข่งคนอื่นๆในรุ่นที่โดยมากผ่านประสบการณ์กับรุ่น 250 ซีซีมาก่อน ดังนั้นด้วยความคุ้นเคยกับการขับขี่ที่นุ่มนวลในการควบคุมรถแข่งที่ได้จากMoto2 นั้นจึงมีส่วนให้ เขาและMarc ได้เรียนรู้ถึงทักษะการขับขี่ที่ดีในการระมัดระวังเรื่องของการใช้ยาง ที่สามารถคงความเร็วได้สม่ำเสมอยืนระยะได้ยาวนานกว่านักแข่งคนอื่นในรุ่น “



ในขณะที่ คริสเตียน ซารอง นักแข่งชาวฝรั่งเสศดีกรีแชมป์โลกรุ่น 250ซีซีเมื่อปี 1984 และเคยชนะการแข่งขันในรุ่น 500 ซีซีได้กล่าวถึง โยฮัน ซาโก้ ว่า
 
“จากรุ่นMoto2 ที่เขามีโอกาสได้เรียนรู้ถึงขีดจำกัดในการขับขี่ และด้วยความที่เขามีความทะเยอทะยานและเป็นนักสู้ จึงช่วยให้เขาสามารถพัฒนาทักษะขึ้นได้ทีละสเตป แต่ที่สำคัญคือทัศนคติในการแข่งขันของเขา ที่มักจะตั้งคำถามตัวเองเสมอ ในยามที่ทำผลงานได้ไม่ดี โดยที่ไม่เคยบ่นเกี่ยวกับรถแข่งหรือการเซ็ทติ้ง ซึ่งเขามักจะพูดเสมอคือ ตัวเองขี่ไม่ดีเอง ดังนั้นเราแทบจะไม่ได้ยินจากเขาบ่นเกี่ยวกับการเซ็ทรถหรือความมั่นใจที่มีต่อรถเท่าไรนัก ซึ่งทำให้ผมนึกถึงนักแข่งอเมริกันหรือออสเตรเลีย ที่ผมเคยแข่งด้วยอย่าง เวย์น เรนนี่ย์ อดีตแชมป์โลก 3 สมัย เควิน ชว้านซ์ แชมป์โลกปี1993 และ มิค ดูฮาน ที่ไม่กังวลเกี่ยวกับรถแข่งมากนัก สิ่งที่พวกเขาจะทำก็คือ ขี่ให้เต็มที่เท่าที่จะสามารถทำได้ หรือทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ในการแข่งขัน และผมคิดว่าด้วยทัศนคตินี่เองที่มีส่วนให้ โยฮัน ซาโก้สามารถพัฒนาทักษะและทำผลงานได้ดี แม้ฤดูกาลนี้เขาจะอยู่ในฐานะของรุกกี้ในเกมระดับพรีเมียร์คลาสนี้  แน่นอนว่าผมมั่นใจว่าในปีนี้เขาอาจจะสามารถคว้าชัยหรืออาจจะก้าวขึ้นมีตำแหน่งบนโพเดี้ยมในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ ”คาดว่าในเกม MotoGP ที่ เลอมังส์ ในสุดสัปดาห์นี้แฟนๆชาวฝรั่งเศสน่าจะเข้าลุ้นเกมการชิงชัยเพิ่มขึ้น กับความหวังสูงสุดในการลุ้น เชียร์ โยฮัน ซาโก้



ในปีที่แล้วเกมจีพีที่ฝรั่งเศสนั้น  ชัยชนะตกเป็นของฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่ทะยานทิ้งห่างอดีตทีมเมทร่วมทีมแฟคทอรี่ยามาฮ่าอย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่ ถึง 10.654 วินาทีนั้น ดังนั้นในสุดสัปดาห์นี้ น่าสนใจว่า ฮอรเก้ ลอเรนโซ่ ที่เพิ่งจะสามารถนำ Ducati ขึ้นสู่โพเดี้ยมได้สำเร็จในเกมที่ผ่านมาที่สนามเจเรซ จะยังคงสามารถทำผลงานได้ในระดับใดกับเกมที่ฝรั่งเศสปีนี้ และที่น่าสนใจคือ รถแข่งดูคาติ เคยทำผลงานดีที่สุดที่สนามเลอมังส์นี้ด้วยอันดับที่สอง จากลอรีส คาปิรอสซี่ ในปี 2006 และ วาเลนติโน่ รอสซี่ ในปี 2012 เช่นเดียวกับที่ Suzuki เคยคว้าชัยได้ที่สนามแห่งนี้ในปี 2007 โดย คริส เวอร์มิวแล่น  และหากย้อนดูสถิตินับตั้งแต่เปลี่ยนการแข่งขันมาเป็นเครื่องยนต์แบบสี่จังหวะตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ทั้งแฟคทอรี่ฮอนด้าและแฟคทอรี่ยามาฮ่าต่างก็สามารถคว้าชัยได้คนละเจ็ดครั้ง โดยล่าสุดสามปีที่แล้วนั้น ฮอนด้าคว้าชัยได้โดย มาร์ค มาเกรส ขณะที่ยามาฮ่านั้นคว้าชัยได้ในสองปีหลังสุดโดย ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่  ซึ่งสถิติสามปีหลังสุดบนโพเดี้ยมของเกมที่เลอมังส์ มีดังนี้
ปี 2014>> Marc Marquez,Valentino Rossi และ Alvaro Bautista
ปี 2015 >>Jorge Lorenzo , Valentino Rossi และ Andrea Dovizioso
ปี 2016 >>Jorge Lorenzo , Valentino Rossi และ Maverick Vinales





โดยสถิติ Best lap ของสนามเป็นของฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ทำในปี2016 จนสามารถคว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่นด้วยเวลา  1’31.975 นาที ในขณะที่ Circuit Record Lap เวลา 1’32.879 นาที ทำไว้โดย วาเลนติโน่ รอสซี่ ในปี 2015 ขณะที่ Fastes Lap ในปี 2016 นั้นทำโดย วาเลนิโน่ รอสซี่ จากการการแข่งขันในรอบที่สี่ด้วยเวลา 1’33.293 นาที

มาลุ้นกันครับว่า สุดสัปดาห์นี้ เกมการแข่งขัน 2017 MotoGP ใครจะคว้าโพลโพสิชั่น และ ก้าวสู่ตำแหน่งบนโพเดี้ยม...



UIP : 607 | Page View : 627