ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 นำยามาฮ่า YZR-M1 ขยับแซงสี่นักแข่งก่อนขึ้นสู่ผู้นำ พร้อมทะยานหนีห่างออกไปจนคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 5 ของตนเองในฤดูกาลนี้ พร้อมยังนำยามาฮ่ากลับมาคว้าชัยชนะเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่สนามซิลเวอร์สโตน และสามารถมีคะแนนนำสะสมนำเป็นจ่าฝูงโดยทิ้งห่างอันดับ 2 อยู่ถึง 65 คะแนน อันดับ 2 อเล็กซ์ รินส์ #42 และ อันดับ 3 อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41
 
เกมการแข่งขันMotoGP ได้เดินทางมาถึงการแข่งขันสนามที่ 12 บริติช จีพี ที่สนามซิลเวอร์สโตน โดยในรอบการควอลิฟาย ผู้ที่คว้าโพลโพซิชั่นได้แก่ โพล เอสปากาโร่ #44 เวลา 1’58.559 นาที อันดับ 2 ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63 เวลา 1’58.911 นาที อันดับ 3 ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 จากทีมมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี บนรถยามาฮ่าYZR-M1 เวลา 1’58.925 นาที อันดับ 4 ฮอร์เก้ มาร์ติน #89 เวลา 1’59.074 นาที อันดับ 5 มาร์ค มาเกรซ #93 เวลา 1’59.086 นาที อันดับ 6 อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41 เวลา 1’59.273 นาที อันดับ 7 แจ็ค มิลเลอร์ #63 เวลา 1’59.368 นาที อันดับ 8 วาเลนติโน่ รอสซี่ #46 ทีม ปิโตรนาส เอสอาร์ที ยามาฮ่า เวลา 1’59.531 นาที อันดับ 9 โยฮัน ซาโก้ #5 เวลา 1’59.579 นาที อันดับ 10 อเล็กซ์ รินส์ #42 เวลา 1’59.639 นาที อันดับ 11 แชมป์โลก โจน เมียร์ #36 เวลา 1’59.763 นาที อันดับ 12 แบรด บินเดอร์ #33 เวลา 1’59.977 นาที โดยในรุ่นนี้มีนักแข่งลงชิงชัยทั้งหมด 21 คน ซึ่งในสนามนี้ยามาฮ่าไม่บอกเลิกสัญญากับมาเวอริค บีญาเลส โดยนำแคล คลัทช์โลว์ มาร่วมทีมมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี และนำ แจ็ด ดิกสัน #96 นักแข่งMoto2 มาขี่ให้กับทีม ปิโตรนาส เอสอาร์ที ยามาฮ่า



















สนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต มีระยะทางต่อรอบ 5.900 กิโลเมตร นักแข่งในรุ่น MotoGP จะทำการแข่งขันทั้งหมด 20 รอบสนาม รวมระยะทาง 118 กิโลเมตร ทันทีที่การแข่งขันเริ่มขึ้น รถแข่งทั้ง 21 คันต่างพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ท โพล เอสปากาโร่ #44 ขยับขึ้นนำในทันทีโดยมีฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63, อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41, ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ที่ประกบคู่มากับ ฮอร์เก้ มาร์ติน #89, มาร์ค มาเกรซ#93 ผ่านไปไม่กี่โค้ง มาร์ค มาเกรซกับฮอร์เก้ มาร์ตินก็เกิดการปะทะกันและผ่านไปอีกสองโค้ง มาร์ค มาเกรซก็เสียบแซงฮอร์เก้ มาติน แต่ด้วยความเร็วทำให้รถเกิดอาการเสียหลักล้มและเกี่ยวฮอร์เก้ มาติน ล้มลงไปคู่กัน แต่นั้นก็ทำให้รถทั้งคู่เกิดความเสียหายจนไม่สามารถขับขี่ต่อได้ ส่วนกลุ่มผู้นำ โพล เอสปากาโร่ #44 ยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยที่อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41ขยับแซง ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63 ขึ้นมารั้งที่ 2 โดยที่มี ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ยังคงขับขี่รักษาตำแหน่งและเกาะอยู่ในกลุ่มผู้นำ
 
เกมในกลุ่มหน้ายังคงเกิดคันเร่งและพยายามช่วงชิงจังหวะกันอย่างสนุก เข้ารอบ 3 ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ขยับแซง ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63 ขึ้นมาที่ 3 จากนั้น ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ก็เริ่มขยับทำเวลาพร้อมเดินหน้าเร่งจังหวะขยับแซง , อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41 ในรอบต่อมา พร้อมเริ่มกดดันจ่าฝูง โพล เอสปากาโร่ #44 ที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาความเป็นจ่าฝูง และเมื่อเข้ารอบสู่รอบที่ 5 ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ก็นำยามาฮ่า YZR-M1 ขยับแซง โพล เอสปากาโร่ #44 พร้อมเร่งจังหวะยืดระยะห่างจากคู่แข่งขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ในขณะที่กลุ่มหลังยังเป็นการดวลคันเร่งกันระหว่าง อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41, อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41, อเล็กซ์ รินส์ #42 ที่ขยับจากอันดับที่ 8 ในรอบแรกขึ้นมาดวลกับคู่แข่งเพื่อแย่งชิงตำแหน่งบนโพเดี้ยมได้ในรอบที่ 8 และเมื่อมาถึงรอบที่ 12 อเล็กซ์ รินส์ #42 ก็ขยับแซง อเล็กซิส เอสปากาโร่ ขึ้นมาอยู่ที่ 2 ได้สำเร็จ ในขณะที่ช่วงท้ายเกม สองพี่น้อง เอสปากาโร่ ทั้งโพลและอเล็กซิส ต่างช่วงชิงตำแหน่งกันอย่างสนุก สุดท้ายเมื่อธวตราหมากรุกโบสะบัด ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 นำยามาฮ่า YZR-M1 ทะยานผ่านธงตราหมากรุกได้เป็นคนแรก พร้อมคว้าชัยชนะครั้งที่ 5 ของฤดูกาลได้สำเร็จ ทั้งยังนำยามาฮ่าคว้าชัยชนะในรอบ 6 ปี โดยครั้งล่าสุดเมื่อปี 2015 ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ นำยามาฮ่าคว้าชัยชนะที่สนามนี้มาได้ อันดับที่ 2 อเล็กซ์ รินส์#42 อันดับ 3 อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41 อันดับ 4 แจ็ค มิลเลอร์ #43 และอันดับ 5 โพล เอสปากาโร่ #44




















 
ทางด้านคะแนนสะสมแชมป์โลกโมโตจีพีที่ผ่านเข้าสู่สนามที่ 12 แล้ว ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ มีคะแนนสะสมอยู่ที่ 206 คะแนน ทิ้งห่างอันดับสองถึง65 คะแนน โดย โจน เมียร์ อยู่ในอันดับ 2 มี 141 คะแนน อันดับ 3 โยฮัน ซาโก้ มี 137 คะแนน อันดับ 4 ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า มี 136 คะแนน อันดับ 5 แจ็ค มิลเลอร์ มี 118 คะแนน
 
หลังจบการแข่งขัน ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ ได้กล่าวว่า “เป็นชัยชนะที่รู้สึกที่ดีมาก...ที่ออสเตรียผมมีความกังวลกับการจะต้องเปลี่ยนรถ แต่ที่นี่ผมไม่คิดว่าจะเป็นเช่นกัน ผมมีความรู้สึกที่ดีมากที่ได้ขี่รถและผมก็สนุกกับการชิงชัยเพื่อชัยชนะ มันสมบูรณืแบบ ผมสนุกกับการแข่ง ผมรู้สึกดีมากในช่วงเริ่มต้นและรักษาสมาธิในการขี่ ผมมีความผิดพลาดเล็กน้อยและรู้สึกว่าเบรกได้ดีมาก มันดีกว่าที่คาดไว้ และด้วยเหตุนี้ผมจึงมีการเปลี่ยนกลยุทธ์ในระหว่างแข่งขัน เมื่อผมขึ้นนำ 3 วินาที ผมก็คิดว่า เอาล่ะ ตอนนี้ได้เวลาขี่ช้าๆและอย่าทำผิดพลาด และในรอบสุดท้าย ผมแค่สนุกไปกับการขับขี่ในทางวิ่ง และยังคงขี่ช้าๆ ผมมีความสุขมากกับผลการแข่งขัน มันเป็นชัยชนะที่พิเศษจริงๆ ตอนที่ผมชนะที่แอสเซ่น ก็อยู่ท่ามกลางแฟนคลับที่นั่น และผมไม่รู้ว่าวันนี้จะมีแฟนคลับกี่คนแต่มันก็เยะมากและมันเยี่ยมมากที่ได้แบ่งปันช่วงเวลานี้ให้กับพวกเขา ผมอยากขอบคุณพวกเขา สำหรับนักแข่ง ทีมมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี กับการชนะ ใน มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ กรังด์ปรีซ์ เป็นเรื่องที่ดี ดังนั้นในพื้นฐานแล้วผมทำได้หมด มันน่าทึ่งมาก สำหรับวันนี้เป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา ครอบครัวและทีม ผมมีช่างเครื่องที่ไม่สามารถมาที่นี่ได้ ดานิเอเล่ เกรลลี่ ผมแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้อยู่กับทีมงานเพื่อเฉลิมฉลอง”