​Andrea Dovizioso กับการรับงานนักขี่ทดสอบครั้งแรก

หากจำกันได้ปลายปีที่ผ่านมามีสองนักแข่งในระดับTOP10 ของรุ่น MotoGP ได้ออกมารับงานเป็นนักขี่ทดสอบ คนแรกคือ Cal Crutchlow ที่ตัดสินใจอำลาสนาม แต่โชคดีที่ Yamaha รีบยื่นข้อเสนอให้มาร่วมงานกับทีมทดสอบทันที แต่ที่อยู่ในสภาพจำยอม  กล่าวคือ ไม่เต็มใจต้องตกในสถานการณ์ “ว่างงาน” จากการเป็นนักแข่ง ก็คือ Andrea Dovizioso ที่ต้องเคว้งคว้างในสภาพสูญญากาศ ไม่มีทีมสังกัดในปีนี้ อันมาจากการเจรจาที่ล่าช้า และตัดสินใจยืดเยื้อระหว่าง Ducati กับตัวเขา ขณะที่ทีมอื่นๆ “รอไม่ไหว” แม้จะสนใจนักแข่งระดับ TOP5 ชาวอิตาลีผู้นี้ก็ตาม ทว่าหากชักช้าก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตามคาดไหม ที่สุดแล้วบรรดาทีมที่สนใจก็ตัดใจ เดินหน้าจัดทีมโดยไม่รอดูสถานการณ์ที่ชัดเจนของ Andrea Dovizioso สรุปคือ “เขาตกงาน” และทำให้สัมพันธภาพที่งดงามจากการร่วมงานมากกว่าแปดปีนั้น “จบไม่สวย”

ทีมที่รวดเร็วที่สุดก็คือ KTM คาดว่าน่าจะมีการเจรจายื่นข้อเสนออะไรมาเป็นเจ้าแลก เพราะในเว็บของเครื่องดื่มชูกำลังที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของKTM นั้น ทยอยลงภาพนักกีฬาระดับโลกที่พวกเขาสนับสนุน ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อ Dovizioso โดยพวกเขาลงแคปชั่นว่า เป็นนักขี่ทดสอบให้ KTM ทว่าทุกอย่างก็ไม่เป็นไปเช่นนั้น เนื่องด้วยตัว Dovizioso ยืนยันว่า เขายังมีเจตนาที่จะเป็นนักแข่ง ไม่ต้องการเป็นนักทดสอบ กล่าวคือ ขอรับงานทดสอบเป็นจ๊อบๆ ระหว่างรอโอกาสที่จะกลับมาแข่งในปี 2022 อีกครั้ง
 
หลังจากนั้นข่าวคราวของ Andrea Dovizioso ก็ค่อยๆซาลง หลังที่เขาออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายช่วงเดือนแรกหลังปิดฤดูกาล 2020 ที่ทุกทีม สรุปไลน์อัพต่างๆของตนเองจบแล้ว และเขาตกงานอย่างเป็นทางการ แต่ก็ยืนยันว่า จะขอรับงานในวงการเป็นจ๊อบๆในช่วงปีนี้ ใครพร้อมก็ติดต่อมาได้ แน่นอนว่าเป็นไปได้ยาก ใครจะเสี่ยงเอาข้อมูลของพวกเขา มาจ้างนักขี่ไซด์ไลน์แบบเขาล่ะ หลายเดือนผ่านไปอยู่ๆ Aprilia ก็สร้างความฮือฮาออกมาแถลงข่าวว่า “เราจ้างเขา” ให้มาลองขี่รถแข่งของเรา “มันยอดเยี่ยมมากที่ได้ Dovizioso มาทำหน้าที่ Test Rider ให้กับ Aprilia ซึ่งผมเคยแนะนำพวกเขาให้ดึงตัวมาให้ได้อยู่หลายครั้ง เพราะพวกเขาไม่มี test rider ที่คอยทำหน้าที่ให้กับการทดสอบ RS-GP ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยขอให้ผมลองทดสอบขี่ RS-GP แต่ผมปฏิเสธไป และส่วนตัวผมนั้นขอแค่สนุกกับการได้ขี่รถอย่าง RSV-X ก็พอแล้ว ดังนั้น Dovizioso คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของ Aprilia อยู่ที่พวกเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้แค่ไหน” นั่นคือข้อความที่ Max Biangi ในวัย50ปี ปัจจุบัน กล่าวถึง อ๊อพชั่นที่น่าสนใจสำหรับ Aprilia ในการนำนักแข่งประสบการณ์สูงที่มีดีกรีเป็นรองแชมป์โลกถึงสามครั้ง อย่าง Andrea Doviziozo มาทำหน้าที่ ทดสอบรถแข่ง ซึ่งหลังจากว่างงานในฤดูกาลนี้ Dovi ก็ประกาศชัดเจนว่า จะรอกลับมาแข่งให้ได้ในปีหน้า และระหว่างนี้ ยินดีจะรับจ๊อบ ลงขี่บ้าง ตามความเหมาะสม


 
หลังจากนั้นไม่ถึงสองสัปดาห์ ก็มีการแถลงอย่างเป็นทางการที่โรงานในโนเอลอิตาลีของ Aprilia ว่า พวกเขาจะลงทดสอบที่ เจเรซ โดยมี Dovizioso ทำหน้าที่มา “ขี่ทดสอบ” ให้ ในฐานะ test rider ตลอดสามวัน ของกำหนดการทดสอบ โดย Dovi ได้กล่าวว่า
 
“ผมยังคงมีความรู้สึกว่าทัศนคติของผมนั้นยังคงเป็นนักแข่งคนหนึ่งเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งมีความแตกต่างกับ Pedrosaกับ Crutchlow ที่เมื่อได้คุยกับเขาทั้งคู่ จะรู้ได้ถึงทัศนคติที่เปลี่ยนไป พวกเขาทั้งคู่ กลายเป็น Test Rider ส่วนผมอย่างที่บอก ผมยังมีความกระหายที่จะลงแข่ง อย่างที่บอกผมจะหาทางกลับมาลงสนามอีกครั้งในปี2022 นี่คือความแตกต่างระหว่างผมกับพวกเขา ซึ่ง Dani Pedrosa รับหน้าที่ทดสอบรถแข่งและได้สิทธิในฐานะไวลด์การ์ดบางครั้ง ที่เขาทำทุกสิ่งเพื่อช่วยทีมพัฒนารถแข่งให้ได้สมรรถนะพื้นฐานที่ดี ทุกสิ่งต้องการเหตุผลต้องการคำอธิบายเพื่อข้อมูลที่เหมาะสมที่สุด เช่นกันผมมีโอกาสได้คุยกับ Crutchlow ก็พบว่าเส้นทางอาชีพที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ส่งผลต่อทัศนคติของเขาที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เพราะเขากลายเป็นนักทดสอบแบบเต็มตัวไปแล้ว ต่างกับผมที่เป้าหมาย คือการกลับมาแข่งอีกครั้ง ดังนั้นในการทดสอบของผม จึงมีเป้าหมายที่ต่างกัน ผมไม่ได้ต้องการรถที่เร็วและลงตัว แต่ผมต้องการทำรถให้ดีที่สุด ขี่สบายที่สุดสำหรับตัวผมที่จะไปให้เร็วมากที่สุด ”

นั่นคือสิ่งที่ Andrea Dovizioso สื่อออกมาหลังจากการตัดสินใจมารับจ๊อบเป็น test rider ด้วยการนำ RS-GP ลงทดสอบในสนามเจเรซ ซึ่งเขาได้กล่าวเพิ่มเติมว่า
 
“เมื่อต้องเปลี่ยนรถ รถที่ขี่ประจำต่อเนื่องมาหลายปี สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การหาตำแหน่งที่เหมาะสมบนรถแข่งนั้น นี่คือเรื่องหลักที่ผมทำเป็นอันดับแรก อย่างที่บอกผมยังคงเป็นนักแข่ง ในฐานะ rider คนหนึ่ง ผมจำเป็นต้องหาการเซทติ้งที่ดีที่สุดให้เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งต่างกับ การทำหน้าที่ของ test rider ดังนั้นผมจะต้องทำความเข้าใจให้มากที่สุดเกี่ยวกับตำแหน่งของรถที่สัมพันธ์กับท่าทางการขับขี่ของตัวเอง เพื่อให้รู้สึกสบายที่สุดระหว่างขับขี่มัน มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยที่จะหาตำแหน่งที่ดีที่สุดนั้น เพราะรถแข่งแต่ละคันต่างก็มีลักษณะที่เฉพาะตัว ดังนั้นในวันแรกของการลงสนามของผมจึงหมดไปกับการจัดการเรื่องมิติที่เหมาะสมของรถแข่งกับผม ซึ่งก็หวังว่าทางAprilia จะสามารถช่วยกันจัดการตามความต้องการของผมได้เพื่อให้มีความสบายมากที่สุดขณะขับขี่ และนี่ทำให้ผมนึกถึง Lorenzo ที่เขาพยายามอย่างมากที่จะจัดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเพื่อช่วยให้รถแข่ง Ducati สบายที่สุดขณะขับขี่ ซึ่งความรู้สึกที่ขี่ง่ายสบายจากการปรับตำแหน่งที่เหมาะสมของรถแข่งนั่นเอง ที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถทำความเร็วได้ดียิ่งขึ้น สามารถที่จะมั่นใจได้ในขณะที่จะเพิ่มระดับในการขี่ให้ได้ 100% และตามการทดสอบสามวันนี้ ผมก็บอกไม่ได้หรอกว่า เราจะสามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้ไหม เช่นกันถ้าสามารถทำได้ตามเป้าหมายของผม นับจากนั้นเราก็จะมาดูกันว่า รถแข่งสามารถที่จะตอบสนองความต้องการในด้านสมรรถนะการขับขี่ของผมได้แค่ไหน เราจะมาช่วยกันค้นหาขีดจำกัดของรถแข่งกันว่าจะสามารถพัฒนาต่อยอดไปในทิศทางใด”
 
 
 
คาดว่าทางAprilia เองก็รู้ดีว่า มันไม่ใช่งานง่ายที่จะบรรลุจุดประสงค์ต่างๆในการทดสอบเพื่อพัฒนารถแข่ง ดังนั้น พวกเขาและ Dovizioso จึงตกลงที่จะเดินหน้าทดสอบร่วมกันในครั้งต่อไปหลังจากนี้ที่อิตาลี ซึ่งจะเป็นครั้งที่สองที่จะทำสอบรถร่วมกัน “อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าไม่ง่ายกับเวลาสามวันที่จะเรียนรู้รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับรถแข่งที่ต้องเปลี่ยนจากรถที่เคยขี่ ดังนั้นมันเร็วเกินไปที่จะมาคุยถึงรายละเอียดต่างๆมากขึ้นเกี่ยวกับรถแข่ง อย่างที่ผมบอก เป้าหมายแรกของผมคือการทำให้รถแข่งรู้สึกสบายมากที่สุด มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดระหว่างท่าทางการขี่และตำแหน่งการขับขี่ของรถที่ลงตัวที่สุด ดังนั้นเมื่อจะมีการแพลนการทดสอบครั้งต่อไปหลังจากนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เราจะมีโอกาสได้หาจุดอ่อนและจุดแข็งของรถแข่งเพิ่มขึ้น อย่างที่บอกผมยังคงมีทัศนคติในฐานะนักแข่ง ไม่ใช่แค่นักทดสอบเช่นคนอื่นๆที่หันเหเส้นทางอาชีพจากเดิม แต่ผมยังหวังที่จะกลับมาลงแข่งอีกครั้ง และผมบอกได้ว่าRS-GPเป็นรถแข่งที่มีพื้นฐานที่ดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเชื่อว่า aleix ทำงานอย่างหนักหน่วง จนสามารถที่จะช่วยให้รถแข่งมีพื้นฐานที่ดี และด้วยประสบการณ์ที่ผมมี เชื่อว่าจะช่วยมาต่อยอดให้ RS-GPสามารถที่จะไปได้เร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
 
ขณะที่นักแข่งหลักของ Aprilia อย่าง Aleix Espargaro ที่ทำงานร่วมกับการพัฒนาและลงแข่งขันด้วย RS-GP มานาน ได้กล่าวถึงการเข้ามาของ Dovi ว่า “ ผมไม่มีโอกาสได้คุยอะไรกับเขาเลยเกี่ยวกับการทดสอบที่ผ่านมา ผมไม่รู้รายละเอียดอะไร  แต่ก็พอได้รับรู้เรื่องราวจากการทดสอบผ่านจากการบอกเล่าของ Albesiano เมื่อเช้าที่ผ่านมา(ขณะที่กำลังเข้าสู่สัปดาห์แข่งสนามสามที่โปรตุเกส)เขาบอกว่าความเห็นของAndreaที่มีต่อรถแข่งนั้นเป็นเหมือนขุมความรู้ชั้นดี โดยในระหว่างการทดสอบที่เจเรซนั้นพวกเขาเน้นไปที่การหามิติการปรับเซทโครงสร้างของรถแข่งเพื่อหาตำแหน่งการขี่ที่ลงตัวของ RS-GP และผมรู้สึกดีกับการที่ได้ยินคำบอกว่าเขาชอบรถแข่งของเรา ซึ่งโดยส่วนตัวผมก่อนหน้านี้คิดว่าเขาจะปรับตัวเข้ากับ RS-GP ได้แค่ไหนเนื่องจากรถแข่งเราเป็นรถที่เน้นการใช้ความเร็วในโค้ง ขณะที่ประสบการณ์ที่ผ่านมากับ Ducati นั้นทำให้เขาเป็นสไตล์การขี่แบบ stop and go น่ายินดีครับที่อาจจะกล่าวได้ว่าเขาน่าจะสามารถเรียนรู้เข้ากับแคแรกเตอร์ของรถแข่งทีมเราได้ อย่างไรก็ตามทุกสิ่งที่เขาทำนั้น จะมีผลต่ออนาคตของเรา ต่ออนาคตของรถแข่งในวันข้างหน้า ไม่ใช่ในเวลานี้ ดังนั้นหลายคนที่คาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างนั้น ผมบอกเลยว่าไม่ใช่ในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน ซึ่งในการแข่งขันเกมต่อไปเราก็ยังคงทำตามพื้นฐานที่เรามี อาศัยข้อมูลที่เราทำมา อย่างที่บอกการมาช่วยทำหน้าที่ของ Andrea นั้น จะมีผลต่อเราในอนาคตมากกว่า”
 
 
 
และในฐานะผู้กุมบังเหียนการพัฒนา RS-GP ภายใต้ตำแหน่ง technical director of aprilia ของ Romano Albessiano ได้กล่าวถึง dovizioso ว่า “เราต้องการนักแข่งมาลองขี่รถของเรา มากกว่าการหาตัวนักทดสอบ เราพยายามหาว่าในใครสนใจจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับรถแข่งใหม่บ้างไหม ซึ่งที่สุดเราก็ได้ Andrea Dovizioso มาร่วมทดสอบกับเราที่เจเรซ เขามีประสบการณ์มากมาย เขามีความเข้าใจอะไรหลายอย่าง ในแบบที่เราไม่คาดคิดมาก่อนด้วยซ้ำไป สามวันแรกของแผนการทดสอบ เราทำตามความต้องการของเขา เป้าหมายในการจัดการเรื่องการเซทติ้งตำแหน่งท่าทางการขี่ที่ดี แน่นอนเราเข้าใจในประเด็นนี้ดีว่า ถ้านักแข่งรู้สึกสบายก็จะมีความมั่นใจกับการขับขี่ แล้วนั่นจะนำมาซึ่งการเค้นศักยภาพต่างๆได้มากมาย เราทำการบ้านจากการศึกษาภาพถ่ายและวีดีโอการขับขี่ที่ผ่านมาของ Andrea จนนำมาซึ่งชิ้นส่วนจำนวนหนึ่ง ที่เราสร้างกันตามแบบฉบับของอิตาเลี่ยนขนาดแท้ เพื่อปรับตำแหน่งท่าทางการขี่ของเขาให้ใกล้เคียงกับที่ศึกษามา แต่มันไม่เพียงพอ ดังนั้นเราจึงต้องทำอะไรอีกมากมาย ตามแผนการทำงานที่เขาต้องการ แน่นอนว่าในการทดสอบครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม เราจะทำให้ RS-GP เป็นรถที่ให้ความรู้สึกในการขี่ที่สบายตามที่เขาต้องการมากที่สุด ต้องยอมรับว่าเขามีความพิเศษ เขามีความเข้าใจถึงพื้นฐานการทำงานของรถมอเตอร์ไซค์ เขารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับรถแข่ง มันยอดเยี่ยมมากที่เขามาทดสอบรถแข่งของเรา ”
 
เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยอาจจะตีความไปว่า นี่คือโอกาสที่ Dovizioso แต่จะเป็นไปได้จริงแค่ไหน เชื่อว่า ตัวแปรสำคัญก็คือ ผลของการทดสอบแต่ละครั้ง “มีความรุดหน้าแค่ไหน” กล่าวคือ ตัว Dovizioso จะรับรู้ได้ว่าศักยภาพของ Aprilia นั้นมีกึ๋นแค่ไหน ที่สำคัญเขาเองก็รู้ซึ่งมาแล้วว่า การที่จะทำรถแข่งคันหนึ่งให้ตัวเองขี่ได้เร็วขี่ได้ดีตามที่หวังนั้นไม่ง่าย ตามที่เขาพูดในเนื้อข่าวด้านบนว่า ตัวเขาเข้าใจแล้วว่าทำไม Jorge Lorenzo จึงจู้จี้กับทีมในการปรับเซทรถ เรียกว่ากว่าจะทำได้ ก็เล่นเอาแทบจะหมดศรัทธากันไปเลย ก็มาติดตามกันว่า Aprilia จะสามารถก้าวผ่านเงื่อนไขบางอย่างในตัวตน แบบที่ Valentino Rossi และ Jorge Lorenzo ต่างก็ต้องอึดอัดใจกับ Ducati มากันไม่น้อย บทเรียนเหล่านั้น จะช่วยให้ Aprilia นำมาปรับใช้ รวมทั้งสามารถร่วมงานกับ Dovizioso ที่มารับจ๊อบได้ดีเพียงใด กับบทบาทของ test rider ในเวลานี้



UIP : 341 | Page View : 537