นับเป็นฤดูกาลที่เก้าของ จูส ครูเซล ที่ยืนหยัดชิงชัยใน FIM Supersport World Championship และในปีนี้ยังเป็นฤดูกาลที่สี่ของเขากับ GMT94 Yamaha WorldSSP Supported Team ที่ซึ่งเขาไม่เคยจบอันดับบนตารางคะแนนสะสมต่ำกว่ากลุ่ม TOP4 และในปีที่ผ่านมา จูส ครูเซล ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่ Aragon ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาทำผลงานจบด้วยอันดับสอง 6 ครั้ง โดยรวมทำโพเดี้ยมได้ 7 ครั้งในแปดเรซแรก ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บที่ขา หลังจากนั้นเขาก็กลับมาลงสนามแบบสบายๆโดยคงความเร็วไว้ตามมาตรฐาน บวกกับเน้นการขับขี่ที่สม่ำเสมอมั่นคงในแบบสบายไม่ได้เน้นอะไรหลังจากที่หายกลับจากการบาดเจ็บ แต่ในช่วงท้ายฤดูกาลที่เหลือ จึงดูเหมือนเขาเพียงแค่ประคองตำแหน่งสบายๆ เฝ้ามองดาวรุ่งอย่าง แอนเดรียล โลคาเทลลี่ คว้าแชมป์ในปีที่แล้วไปครอง ด้วยอายุ 32 ปี อีกทั้งเป็นการจบฤดูกาลโดยไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ที่เขาสามารถชนะได้สามครั้ง จึงทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่า นี่อาจจะเป็นปีสุดท้ายของเขาในรุ่นนี้แล้วก็เป็นได้ ซึ่ง จูส ครูเซล ได้กล่าวว่า
“นี่เป็นช่วงที่สองของชีวิตนักแข่งที่ผมสามารถร่วมงานกับทีมได้เป็นเวลายาวนานแบบนี้ น่าจะกล่าวได้ว่าทีมนี้เป็นบ้านที่สองของผมก็ว่าได้ หลังหายจากการบาดเจ็บผมรู้สึกยินดีอย่างมากที่จะได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ให้กับทีม แฮปปี้ที่จะได้กลับมาทุ่มเทแบบสุดกำลังที่มี การได้ร่วมงานกันอย่างยาวนาน ถือเป็นเรื่องที่เราต่างก็ได้ร่วมงานกันด้วยความเข้าใจ และแน่นอนว่าผมกระหายที่จะกลับลงสนามให้กับทีมด้วยสภาพร่างกายที่สมบูรณ์เต็มที่ ในปี2020 ที่ผ่านมาโดยส่วนตัวผมคิดว่า เป็นปีที่ค่อนข้างดีอีกฤดูกาลหนึ่งในแง่ของอันดับที่จบฤดูกาล ผมเคยโชคร้ายพลาดโอกาสในการลุ้นแชมป์ในปี 2018 ขณะที่ในปี 2019-2020 นั้นก็ถือว่าสามารถทำได้ค่อนข้างดี โดยส่วนตัวแล้วผมประเมินตัวเองว่าสามารถทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ในแง่ของความสม่ำเสมอ ที่สามารถยืนระยะทำผลงานได้ค่อนข้างต่อเนื่อง ที่สำคัญความผิดพลาดในสนามแข่งนั้นลดน้อยลง น่าจะมีเพียงเกมที่โปรตุเกสที่ผมไม่สามารถควบคุมจังหวะการแข่งขันได้ดีพอ แม้ว่าจะพยายามบวกอย่างหนักหน่วง แต่กลับไม่สามารถขับเคี่ยวกับ แอนเดรียล โลคาเทลลี่ ได้อย่างที่ควร แต่ในปีนี้ทีมจะได้ เฟอเดอริโค คาริคาซูโล กลับเข้ามาแข่งในรุ่นนี้กับทีม นี่จะเป็นการช่วยให้ทีมและผมมีโอกาสในการพัฒนาในด้านต่างๆได้ดีขึ้น การที่ได้ทีมเมทชั้นยอดร่วมทีม มันมีผลมากมายต่อการขับเคลื่อนและการทำงานในทุกด้าน ผมเชื่อว่าทีมเราจะยกระดับได้สูงกว่าที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ของทุกคน ความยอดเยี่ยมของสมรรถนะในเครื่องยนต์ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เรารุดหน้ากว่าเดิม อีกทั้งการเข้ามาร่วมทีมของ เฟอเดอริโค คาริคาซูโล ก็จะช่วยให้เราได้รับข้อมูลต่างเพิ่มเติมจากที่เคยมี”
นอกจากนี้ การที่เจ้าของตำแหน่งแชมป์คนล่าสุดอย่าง แอนเดรียล โลคาเทลลี่ ได้ย้ายขึ้นไปแข่งในระดับพรีเมียร์คลาสSuperbikeในฐานะนักแข่งแฟคทอรี่ทีม ร่วมกับ PATA Yamaha Official WorldSBK Team นั้น หลายฝ่ายเชื่อว่า นี่จะเปิดโอกาสให้ จูส ครูเซล เป็นมือวางที่จะคว้าแชมป์ในปีนี้ ซึ่งเขากล่าวว่า
“ชัยชนะเป็นสิ่งที่ยากเสมอในการต่อสู้ที่จะไขว่คว้ามัน แน่นอนว่าในฤดูกาล2021 ก็จะยังคงไม่ใช่ปีที่ง่ายนัก ทุกคนต่างก็ต้องการทำผลงานที่ดีที่สุด ถึงเวลานี้ผมพยายามตั้งเป้าการรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด โดยส่วนตัวผมมีเป้าหมายในการลงสนามแต่ละครั้ง และขณะเดียวกัน ผมจะต้องพยายามทำการฟิตซ้อมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งร่างกายให้สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อการแข่งขัน ผมทบทวนถึงความผิดพลาดและปัญหาที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาและนำมาใช้เป็นบทเรียนในการพัฒนาตัวเอง ” ด้วยวัย 32 ปี หลายฝ่ายเชื่อว่า นี่อาจจะเป็นปีสุดท้ายของเขาในรุ่นนี้ เพราะปัจจุบันมีนักแข่งดาวรุ่งเติบโตมากมาย ที่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกของทีมแข่งต่าง ทว่าประสบการณ์ของ จูส ครูเซล จะยังคงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เขายืนหยัดในเกมนี้ได้ต่อไป และด้วยศักยภาพที่มีจึงไม่น่าแปลกใจที่เวลานี้ เขาคือหนึ่งใน “ตัวเต็ง” ที่จะคว้าแชมป์โลก2021ในปีนี้
