
หลังจากที่หยุดไปถึงแปดเดือน ของ FIM Endurance World Championship ก็ได้เวลาหวนคืนสังเวียนเป็นเกมที่สามของฤดูกาล ที่จะกลับมาชิงชัยกันสนามสามกับเกม LeMans24hours. ในฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 43 ของรายการเก่าแก่รายการนี้
จากการหยุดยาว ก็มีการปรับโครงสร้างทีมและความพร้อมในส่วนต่างเพื่อกลับมาโฟกัสที่เกมการชิงชัยอีกครั้ง ด้วยสามนักแข่ง คือ Karel Hanika , Marvin Fritz และ Niccolo Canepa ซึ่งพวกเขาสามารถช่วยกันทำให้รถแข่ง YZF-R1 ของทีม คว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่น จากการจับเวลาหาตำแหน่งสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะทำผลงานที่ดีที่สุด
สภาพสนามแห้งในช่วงเริ่มต้นเกม YART Yamaha สามารถยืนหยัดในกลุ่ม TOP 3 ได้อย่างสบายๆ ตามแผนการแข่งขันที่จะต้องขับเคี่ยวกันตลอด 24ชั่วโมง ขณะเดียวกัน จังหวะการ Pit-Stop เข้ามาเปลี่ยนตัวนักแข่งและเซอร์วิสรถแข่งก็เป็นไปตามแผน โดยหลัก Niccolo Canepa จะเน้นที่การขี่ทำเวลาสม่ำเสมอ โดยมี Marvin Friz เป็นตัวทำเวลาในช่วงสำคัญที่ต้องการเน้นความเร็ว ในขณะที่ Haneka เป็นนักแข่งที่มีความสดมากที่สุดในทีมด้วยอายุเพียง 24 ปี แน่นอนว่าเกมบู๊ต้องเป็นหน้าที่ของนักแข่งหนุ่มผู้นี้
ทว่าเพียงสองชั่วโมงกว่าของการชิงชัยก็มีฝนเทลงมา ทำให้สภาพการแข่งขันกลายเป็น Wet Race และนั่นก็เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด เมื่อรถแข่งล้มเสียหาย ในระหว่างชั่วโมงที่เจ็ดของการชิงชัย ทว่า Haneka ที่ถูกส่งลงไปเพื่อเน้นทำเวลาฝ่าสภาพการแข่งขันที่แออัดมีรถแข่งกระจายเกะกะแทบทุกพื้นที่สนามก็ค่อยๆประคองนำรถแข่งกลับมารับการซ่อมบำรุง เพื่อที่จะกลับไปลงชิงชัยต่ออีกครั้ง โดยเป็นหน้าที่ของ Canepa ที่ทีมส่งลงไปเพื่อเน้น ทำเวลาแบบสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นไม้แรกหลังจากที่รถแข่งซ่อมจนพร้อมลงสนามได้ ซึ่งพวกเขาก็หล่นไปอยู่เป็นอันดับที่ยี่สิบแปด แต่ก็ไม่เกินความสามารถของนักแข่งทั้งสามคน เมื่อค่อยๆขยับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มTOP10 ได้อย่างยอดเยี่ยม
ทว่าห้าชั่วโมงครึ่งถัดมา YART Yamaha ก็พบกับความยากลำบากอีกครั้ง เมื่อพบว่า รถแข่งมีปัญหาบางอย่าง ต้องรับกลับมา Pit-Stop เพื่อซ่อมระบบไฟส่องสว่างของรถแข่ง และนั่นทำให้พวกเขาหล่นลงไปอยู่อันดับที่สิบสี่ นี่ไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย สำหรับการแข่งขัน LeMan24Hours ที่ทั้งทีมและรถแข่ง จะต้องมีความพร้อมสมบูรณ์เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของนักแข่งทั้งสามคนที่มีสไตล์แตกต่างกันนี้
สิบหกชั่วโมงผ่านไป พวกเขาสามารถค่อยๆทำผลงานอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถขยับขึ้นไปรั้งในอันดับที่แปดได้สำเร็จ พร้อมทั้งยืนหยัดในกลุ่ม TOP10 ได้อย่างมั่นคง และในช่วงนี้เองสภาพการแข่งขันนั้น กลับสู่ Dry Race อย่างเต็มรูปแบบ จนทุกทีมเปลี่ยนกลับมาใช้ยางสลิค เพื่อเปิดเกมสู่อย่างเต็มสมรรถนะ รวมทั้ง YART Yamaha เอง ก็พร้อมเปิดไพ่แลก ด้วยสามนักแข่ง ที่จะนำ R1 ทะยานไปสู่อันดับที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีโอกาส
จนเหลือสองชั่วโมงสุดท้าย นักแข่งของทีม YART Yamaha สามารถลุ้นเพื่อตำแหน่งบนโพเดี้ยม ด้วยการขับเคี่ยวลุ้นในอันดับที่สี่ของเกมนี้ ซึ่งเมื่อครบยี่สิบสี่ชั่วโมง พวกเขาก็สามารถคว้าอันดับสี่มาครองได้สำเร็จ หลังจากที่เผชิญอุปสรรคสำคัญ จากการที่ซ่อมจนรถแข่งเสียหาย รวมทั้งระบบไฟส่องสว่างมีปัญหา แต่ก็สามารถร่วมเป็นหนึ่งเดียวจนสามารถกลับขึ้นสู่อันดับที่สี่แบบมีลุ้นโพเดี้ยมมในเกมสุดทรหดนี้ได้สำเร็จ
Niccolo Canepa ได้กล่าวหลังแข่งว่า “นี่ไม่ใช่ผลงานที่เราหวังไว้เลย เพราะตลอดสัปดาห์ตามโปรแกรมของการแข่งขันนั้น เราสามารถทำความเร็วกันได้ดีเป็นทีมที่เรียกว่า เร็วที่สุดในสนามนี้ก็ว่าได้ในแทบทุกสภาพของการขับขี่ แต่สุดท้ายแล้วเรากลับพลาดไม่ได้รับสิ่งที่ควรจะเป็นของเรา ไม่เป็นไรอะไรก็เกิดขึ้นได้ในการแข่งขัน เมื่อมามองในภาพรวมต้องยอมรับว่า รถแข่งเราสามารถพัฒนาจนมีความพร้อม เช่นเดียวกับทีมงานที่ต่างทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยม หรือแม้แต่ยางที่ค่อนข้างลงตัวในสนามนี้ นี่คือความมั่นใจที่จะช่วยทำให้เรามีความพร้อมมากยิ่งขึ้นกับเกมที่โปรตุเกสในนัดสุดท้ายของปีนี้ ผมเสียดายพอสมควรที่เราพลาดการขึ้นโพเดี้ยมในเกมอันเก่าแก่รายการนี้ อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าสิ่งที่ได้รับจากเกมนี้ น่าจะมีส่วนช่วยให้เราคว้าชัยในนัดถัดไปได้ ”
Marvin Fritz ได้กล่าวว่า “ เราทำงานกันอย่างหนักในการหาค่าเซ็ทติ้งระบบอิเล็คทรอนิคส์ที่เหมาะสม รวมทั้งการปรับจูนรถแข่งเพื่อให้ลงตัวสำหรับนักแข่งทั้งสามคน และนั่นทำให้เราสามารถทำได้ดีเกือบตลอดสัปดาห์ที่นี่ ในการแข่งขัน Niccolo เริ่มต้นได้ดี ก่อนที่จะส่งต่อมาให้ผมซึ่งก็สามารถที่จะแซงผู้นำแล้วทิ้งห่างออกไปได้มากกว่าสิบวินาที จนเมื่อผมส่งต่อให้กับ Karel ก็น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดจากอุบัติเหตุจนรถแข่งล้ม เสียหาย ก็โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรแล้วสามารถนำรถแข่งกลับพิทได้ ซึ่งจนท.ของทีมเราก็สามารถซ่อมแซมรถแข่งได้อย่างรวดเร็วจนเรากลับเข้าสู่สนามได้อีกครั้ง แม้ว่าในช่วงกลางคืนที่ผ่านมาจะมีปัญหาอีกครั้งกับระบบไฟส่องสว่างแต่เราก็แก้ไขได้สำเร็จ จนกลับมามีโอกาสสู้ในอันดับ TOP4 ต้องยอมรับว่าพวกเราต่างทำหน้าที่กันได้เป็นอย่างดี หลังจากที่พักไปแปดเดือน เราก็กลับมาลงสนามด้วยรถแข่งคันใหม่นี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปด้วยดี แม้ว่าเวลานี้เราจะรั้งอันดับสามของตารางคะแนนสะสม โดยเหลืออีกสนามเดียวก็ตาม เราก็หวังที่จะคว้าชัยชนะในนัดสุดท้ายให้ได้ ”
ขณะที่อีกหนึ่งนักแข่ง อย่าง Karel Hanika ได้กล่าวว่า “ มันเหมือนกับว่ากำลังกลืนยาเม็ดที่ขมมากลางคอ จากเป้าหมายที่เราหวังว่าจะขยับอันดับบนตารางคะแนนให้สูงขึ้น แต่ผมพลาด ผมเสียใจอย่างยิ่งกับการล้มที่เกิดขึ้นจากการจับรถลงสนามในครั้งแรก รถแข่งยอดเยี่ยมมากผมรู้สึกดีกับการขับขี่ แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาผมพยายามที่จะใช้ความระมัดระวังในทุกจังหวะของการขับขี่ เพียงแต่ว่าในโค้งนั้นมันมีน้ำขังมากกว่าที่ผมคาดไว้ ซึ่งนั่นส่งผลให้เราเสียเวลาไปอย่างมากจากการที่ต้องกลับเข้ามาแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น ผมเสียใจอย่างมากกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทว่าจากจุดนั้นเองทำให้เราทุกคนต้องพยายามกันมากขึ้นกว่าเดิม หลายๆอย่างเป็นไปด้วยดี นักแข่งแต่ละคนแสดงความแข็งแกร่งออกมา ขณะที่ทีมก็ทำหน้าที่กันอย่างยอดเยี่ยม เราทำกันได้ดี แต่ก็น่าเสียดายที่พลาดการมีตำแหน่งบนโพเดี้ยมในเกมนี้ ผมต้องขอบคุณทุกๆคนที่ยืดหยัดข้างผม ให้การสนับสนุนผมด้วยดี ถึงเวลานี้เรามีรถแข่งที่ยอดเยี่ยม และผมเชื่อว่าในเกมที่โปรตุเกสนั้น เราจะสามารถทำผลงานที่ดีกว่านี้ได้อย่างแน่นอน”