​FMSCT Thailand Supercross 2020 สาวน้อย “นะพัด” ลุ้นตุนคะแนนตามติด นัทชา ในเกมซูเปอร์เลดี้

กลับมาระเบิดสังเวียนกันอีกครั้งกับเกมเก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์ประเทศไทย FMSCT Thailand Supercross 2020 หลังมีมาตรการการผ่อนปรนจากภาครัฐ ภายใต้สถานการณ์ควบคุมการระบาดของไวรัส Covid-19 โดยในฤดูกาลนี้ทุกเกมการแข่งขันในวงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกมีการปรับเปลี่ยนแบบแผนต่างๆจากสถานการณ์ปกติ เช่นเดียวกับ รายการนี้ ที่ต้องปฏิบัติตามคู่มือการจัดกิจกรรมและกิจการกีฬาของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาและปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด แต่ก็พอมีข่าวดีให้ได้ยินบ้างว่า ในสเตปต่อไป คือ การผ่อนปรนระยะที่หกนั้น อาจจะอนุญาติให้มีผู้ชมเข้าสู่สนามแข่งก็เป็นไปได้ ซึ่งแฟนๆกีฬาทุกประเภทก็ต้องรอลุ้นข่าวดีกันในโอกาสต่อไป
 
สำหรับเกมสนามที่สองของซูเปอร์ครอสชิงแชมป์ประเทศไทยนั้นในทุกสนามที่เหลือของฤดูกาลนี้ จะปักหลักชิงชัยกันที่ สนามไทยแลนด์เซอร์กิต นครชัยศรี โดยจะไม่มีการเดินทางไปใช้สังเวียนการแข่งขันในต่างจังหวัดตามโปรแกรมเดิมที่กำหนดไว้
















 
เกมสีสันของสนามที่น่าสนใจก็คือ ในรุ่น MX85/150 SuperLady ที่ยังคงสร้างสรรค์โอกาสสำหรับนักแข่งวิบากหญิงของไทย ที่แม้ว่าจะมีน้อยแต่ก็ยังคงมีนักแข่งหน้าใหม่ก้าวเข้าสู่วงการอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าในยุคปัจจุบัน ในเกมระดับสะสมคะแนนของสมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย คงจะยากที่จะมีใครมาต่อกร นัทชา เสนาภิรมย์ ที่พัฒนาขึ้นไปขับเคี่ยวกับนักแข่งชายในระดับมือใหม่ได้แบบมีลุ้นยืนในกลุ่มสิบอันดับแรกมาแล้ว แต่สำหรับการแข่งขันหากเร็วและแกร่งเพียงใด แต่ถ้าพลาดเองนั่นก็คือการเปิดโอกาสให้คู่แข่งได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับเกมนี้ ที่ระหว่างแข่งขันในช่วงท้ายเกม ที่บรรดาผู้ชอบมวยรองเกือบมีเฮ เมื่อรถแข่งของนัทชามีอาการสะดุดอย่างชัดเจน ในส่วนระบบการทำงานของเครื่องยนต์ ขณะที่อันดับรองลงไปนั้น โดยเฉพาะสาวน้อย นะพัด ชมประเสริฐ ที่ฝึกฝนมาอย่างดี รวมทั้ง มีประสบการณ์จากเกมในรุ่น MX85 ซีซีอายุไม่เกิน 15ปี กับบรรดานักแข่งชายในระดับอายุเดียวกันด้วยการติดกลุ่ม top 5 ทำให้การใช้คันเร่งนั้น “เต็มมากขึ้น” แต่เสียดายที่ นัทชา ทิ้งระยะไว้ค่อนข้างห่างในช่วงต้นเกม จึงทำให้ไล่ไม่ทัน ทำให้ นัทชา คว้าแต้มเต็มไปสองสนามติด โดยที่ นะพัด รั้งอันดับสองของตารางคะแนน โดยมี ปัทมวรรณ กวางทุม ที่แข่งขันกับตัวเอง ในการที่จะฉีกขีดจำกัดของตนเอง ในการควบคุมรถแข่งวิบากเพื่อทำความเร็วเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งที่ลงสนาม
















 




สำหรับในรุ่น MX85/150 ของเหล่าเยาวชนนักบิดไทย ที่มีทั้งรุ่นอายุ 13ปี และ 15 ปี ซึ่งในคลาสนี้ นักแข่งอย่าง เตโชดม มีแสง คือ เยาวชนนักบิดที่น่าจับตามองที่สุดในคลาส ด้วยความเร็วและสกิล ที่ค่อนข้างเหนืออายุ โดยในรุ่น 13 ปี หรือ ล้อเล็กนั้น  ไอเดียสามารถเก็บแต้มเต็มไปได้สองสนามซ้อน แต่ยังไม่สมหวังในรุ่นล้อโตหรือรุ่นอายุ 15ปี ที่ข้ามขึ้นไปไล่ฟัดกับรุ่นพี่ด้วย แม้จะเร็วแต่ยังไม่สามารถประคองยืนระยะได้ครบรอบการแข่งขัน พลาดเองไปอย่างน่าเสียดาย เช่นในสนามนี้ ขณะที่ทะยานขึ้นนำและเร่งทำความเร็วทิ้งระยะห่างคันหลังนั้น ก็พลาดในจังหวะลอยกลางอากาศ ที่น่าจะเปิดคันเร่งแรงเกินจนหล่นลงมาผิดจังหวะ แต่ก็สามารถยกรถขึ้นมาขี่ต่อก่อนจะแวะให้แมคคานิคส์แก้ไขความเสียหายบางอย่างที่เกิดกับตัวรถ ก่อนจะไล่ขึ้นไปจบด้วยอันดับห้า ทำให้คะแนนสะสมรั้งจ่าฝูงในรุ่น 13ปี และรั้งอันดับสี่ในรุ่น 15 ปี
 
ขยับลงมาที่รุ่น 65 ซีซีเป็นเกมสำหรับนักแข่งยุวชนอายุไม่เกิน 12 ปีในรุ่นนี้น่าสนใจ สำหรับรถแข่ง YZ65 ที่ฝ่าฝูง KTM65 รั้งจ่าฝูงของรุ่นไว้ได้ โดย ณัฐพนธ์ ค้ำชู ที่ประเดิมคว้าชัยแรกในฤดูกาลนี้หลังจากที่เกมนัดที่เปิดฤดูกาลเมื่อห้าเดือนที่แล้วคว้าอันดับสองไปครอง ก่อนจะกลับมาแก้มือเฉือนชนะ  ณภัทร จาตูม ทำให้ทั้งคู่มี 37 คะแนนเท่ากัน และปิดท้ายด้วยเกมในรุ่นเล็กสุดของรายการ อย่าง  Automatic 50 ซีซี สำหรับเยาวชนอายุ 6-9 ปี ที่ผ่านไปสองสนาม จ่าฝูงเป็น ผู้ชนะจากสนามแรกอย่าง ศุภวิชญ์ ตันซา ที่เกมที่สองนี้คว้าอันดับสองมาครอง ทำให้มี 37 คะแนน นำผู้ชนะในเกมนี้อย่าง อรัญชัย ประยงค์รัตน์ ที่เมื่อรวมกับอันดับสามในเกมแรกมี 35 คะแนน และในรุ่นอายุ 4-7 ปี ก็เป็นการขับเคี่ยวระหว่างพรชรคนัย พวงบุญชู กับ ธีราทร อ้อยตระกูล ที่มีคะแนนสูสีกันหลังผ่านสองสนาม แต่เชื่อว่าเกมในคลาส Automatic 50 ซีซี นี้น่าจะทวีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อในสนามนี้มีนักแข่งเข้ามาหาประสบการณ์ในเกมระดับชิงแชมป์ประเทศไทยนี้มากขึ้น เชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นงานที่ง่ายเท่าไรนักสำหรับยุวชนนักบิดเดิมที่เป็นขาประจำในรายการนี้













UIP : 396 | Page View : 419