ส่วนผสมที่ลงตัวด้วยการปรับไลน์นักแข่งในรายการ WorldSBK แทบทั้งหมด ที่ YAMAHA กล้าปรับไลน์อัพนักแข่งรุ่นใหม่เข้ามาเป็นผู้เล่นหลัก ทั้งในส่วนของขุนพล R1และ R6 โดยเฉพาะ ในทีมแฟคทอรี่ ที่ดึงดาวรุ่งตุรกีอย่าง โทปรัค ราซกัสลิโอกลู ขึ้นมาเป็นทีมเมทคนใหม่ของ ไมเคิล ฟานเดอมาร์ค ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ตุรกีสามารถสร้างนักแข่งที่โดดเด่นในระดับ WorldSupersport โดยเฉพาะในช่วงเวลาของอดีตแชมป์โลกห้าสมัยอย่าง คีนัน โซฟูโอกรู ที่กำลังพีคสุดนั้นเขาก็พยายามสนับสนุน โทปรัค ราซกัสลิโอกลูในบางเรื่อง ว่ากันว่านี่เป็นนักแข่งตุรกีเพียงไม่กี่คนที่คีนัน ออกตัวสนับสนุน ให้ก้าวเข้าสู่เส้นทางการแข่งขันระดับโลก
จนกระทั่งล่าสุดหลังจากที่ โทปรัค ราซกัสลิโอกลู ย้ายมาสู่ทีมแฟคทอรี่ยามาฮ่า เขาก็สามารถประเดิมชัยชนะครั้งแรกบนม้าศึกยามาฮ่า YZF-R1 ได้สำเร็จในเกมแรกที่ลงชิงชัยในนัดเปิดฤดูกาลที่ออสเตรเลีย ถึงขนาดที่เมื่อเร็วๆนี้แชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง โจนาธาน เรีย ออกมาพูดทำนองหยิกแกมหยอกว่า
“ เมื่อก่อนสมัยที่โทปรัคเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเดียวกับเรา ผมพยายามที่จะแนะนำอะไรเขารวมทั้งสนับสนุนเขาในบางอย่าง ซึ่งเขาก็สามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดเขาก็ได้รับข้อเสนอที่น่าจะยากปฏิเสธจากยามาฮ่า พร้อมๆกับที่เขาสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างดีในนัดเปิดสนาม ทำให้ผมอดเสียดายไม่ได้ว่าที่ผ่านมาผมให้การช่วยสนับสนุนแนะนำอะไรเขาไปบ้าง มันน่าเสียดายจริงๆ เพราะเขาจะเป็นอุปสรรคต่อโอกาสในการลุ้นแชมป์สมัยที่หกของผม ส่วนตัวผมคิดว่า โทปรัค นี่แหละจะเป็นแชมป์โลกคนต่อไป” ซึ่งก็คล้ายกับที่ คีนัน โซฟูโอกรู ตำนานนักแข่งของตุรกีในทศวรรษล่าสุดที่ได้กล่าวถึงนักแข่งรุ่นน้องว่า “ โจนาธานคือหนึ่งในนักแข่งที่ดีที่สุดในแพ็ดด็อก ผมเคยเป็นทีมเมทของเขาในทีม TenKate เรามีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน แล้วผมก็เห็นว่าเขามักจะให้การช่วยเหลือ โทปรัคอยู่เสมอ ซึ่งเขาค่อนข้างจะเอ็นดูโทปรัคเป็นพิเศษ ซึ่งใครๆก็ชอบนักแข่งที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทุ่มเทอย่างเต็มร้อยตลอดเวลา ซึ่งผมเองก็คิดอย่างที่โจนาธานบอกว่า โทปรัคน่าจะเป็นแชมป์โลกคนต่อไป และผมก็เชื่อว่าเขาจะเป็นแชมป์โลกชาวตุรกีคนถัดไปเช่นกัน ”
“ผมเชื่อว่าจากความสำเร็จในอาชีพของผมจะมีส่วนช่วยให้นักแข่งจากตุรกีมีโอกาสก้าวสู่วงการแข่งขันระดับโลกมากขึ้น ดูอย่างในช่วงสิบปีที่ผ่านมาสิกับสิ่งที่ผมพยายามผลักดันโทปรัค นับตั้งแต่นำเขามาฝึกที่สนามซ้อมส่วนตัวที่ผมสร้างขึ้น ที่ผมเห็นเขาขี่ได้ช้ามาก แล้วดูพัฒนาการของเขาในวันนี้สิ เขากำลังจะกลายเป็นหนึ่งในนักแข่งที่เร็วที่สุดในWorldSBK ทั้ง โทปรัคและออนซู ผมเจอพวกเขาที่สนามโมโตครอสในช่วงปี2013 ทั้งคู่ต่างมีอะไรที่น่าสนใจ ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเขาว่าถ้าขี่โมโตครอสผมคงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่ถ้ามาทางโรดเรซซิ่งผมพอจะมีหนทางต่างๆที่พอจะสนับสนุนพวกเขาได้มากกว่า แน่นอนในวงการการแข่งขันผมรู้จักคุ้นเคยกับทีมต่างๆมากมาย ผมสามารถที่จะมองหาสัมพันธภาพที่ดีจากทีมต่างๆจากบริษัทต่างๆได้ง่ายกว่า ดูพวกเขาตอนนี้สิ ผมเชื่อว่านี่คือโอกาสที่เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับนักแข่งตุรกี ถึงเวลานี้ผมบอกกับโทปรัคว่า จะมีความสนใจจากทีมใน MotoGP ยื่นเข้ามาหรือติดตามดูผลงานเขามากขึ้น แต่ผมบอกกับเขาว่า เวลานี้เป้าหมายสำคัญคือ WorldSBK ที่ที่เราจะสามารถทำได้อย่างเต็มที่ด้วยตัวของเราเอง แล้วหลังจากที่เขาสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่า ประสบความสำเร็จมากพอในWorldSBK สามารถที่จะก้าวสู่คำว่า Champion ได้สำเร็จ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกแล้วในสังเวียนรถแข่งโปรดักชั่น เมื่อนั้นเขาก็จะได้รับข้อเสนอที่ดีขึ้นในMotoGP ดังนั้นเวลานี้เริ่มมีคนพูดถึงโอกาสของเขาในMotoGPแต่สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้วอยากจะบอกเขาว่า จงโฟกัสเป้าหมายสำคัญในWorldSBK นี้และทำให้ดีที่สุด เมื่อประสบความสำเร็จกลายเป็น World Champions แล้วโอกาสต่างๆก็จะตามมาเอง ”
ก็แค่เกมเปิดฤดูกาล กระแสการจับตาบวกกับคำพูดของนักแข่งระดับแชมป์โลก ทว่าเมื่อรวมกับผลงานและพัฒนาการที่ผ่านมาของโทปรัค ราซกัสลิโอกลู รวมถึงวิวัฒนาการที่ดีขึ้นของรถแข่งยามาฮ่า YZF-R1 คงเป็นส่วนผสมที่ลงตัว จนทำให้ หลายๆฝ่าย เริ่มคล้อยตามกระแสดังกล่าว ก็ต้องติดตามกันว่า เมื่อกลับมาลงสังเวียนกันอีกครั้ง โทปรัค ราซกัสลิโอกลู จะยังสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสมราคาที่นักแข่งระดับแชมป์ต่างเอ่ยปากชมหรือไม่
และล่าสุดที่แอสเซ่นในเนเธอร์แลนด์ บรรดานักแข่งก็เริ่มทยอยกลับมาจับรถแข่งกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะ ไมเคิล ฟานเดอมาร์ค อีกหนึ่งนักแข่งของทีมแฟคทอรี่ยามาฮ่า ก็ได้ลงสนามซ้อมกับรถแข่ง YZF-R1เช่นกัน โดยเขาได้ประเดิมการลงสนามยกแรกไปทั้งสิ้น 65 รอบ หลังจากที่หยุดไปกว่าสองเดือนจากการ lockdown ในหลายประเทศบนแผ่นดินยุโรป ก็ลุ้นกันครับว่า สังเวียนแข่งขันจะกลับมาระเบิดศึกสงครามความเร็วกันอีกครั้งเมื่อใด
