​วาเลนติโน่ รอสซี่ คอนเฟิร์ม “กระหายอยากแข่งต่อ” แต่ว่า...........

ความเคลื่อนไหวของนักแข่งเจ้าของแชมป์โลก 9 สมัย นักแข่งที่มีแฟนคลับมากที่สุดคนหนึ่งของโลก "วาเลนติโน่ รอสซี่" ที่ล่าสุดได้ออกมาพูดทำนองว่า เขาจะตัดสินใจอนาคตบนเส้นทางการแข่งขันก่อนที่จะเริ่มแข่งขันในฤดูกาล 2020 นี้ แม้ว่าเวลานี้ทิศทางการเริ่มการแข่งขันนี้จะเป็นไปอย่างไร และจะยังไม่คิดอำลาสนามหากแผนการแข่งขันในปีนี้ถูกยกเลิก

“ ปัญหาคือยังไม่มีการแข่งขัน ดังนั้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะว่าเรายังไม่ได้แข่งขันกันเลย” ซึ่งแผนการให้คำตอบถึงอนาคตเดิมนั้นเขาจะขอลงแข่งจริงก่อนแล้วจะบอกว่าจะตัดสินใจอย่างไร ทว่ายังไม่มีแข่งก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่าเขาจะเอายังไงนั่นเอง “ผมคิดว่าอาจจะตัดสินใจก่อนที่จะกลับมาลงสนาม หากมองในแง่ดีจากสถานการณ์นี้ก็คือเราอาจจะได้กลับมาแข่งขันกันในครึ่งหลังของฤดูกาล ประมาณเดือนสิงหาคม กันยายน เราคงจะได้ลงสนามถ้าทุกอย่างดีขึ้น แต่ผมจะตัดสินใจอนาคตของผมก่อนหน้านั้น ผมต้องการที่จะอยู่ต่อไป แม้จะไม่มีการแข่งขันให้ผมได้ลงสนามเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจเลือกอนาคต มันคงไม่ใช่หนทางที่ดีนักที่ผมจะอำลาสนามในสถานการณ์เช่นนี้ โดยที่ไม่มีการแข่งขันเลยในฤดูกาลนี้ มันน่าจะดูดีกว่าที่ผมจะลงแข่งในปีต่อไปแล้วค่อยหยุดในปีถัดจากนั้น ผมเองก็หวังว่าคงจะต้องลงแข่งในปี2021 ”



แน่นอนว่าตามความคิดของรอสซี่นั้น ก็ยังคงอยู่ที่ “ความตั้งใจเดิม” ที่จะเรียนรู้ว่า รถแข่งมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการแข่งขัน เพียงพอที่จะขับเคี่ยวได้มากขึ้นเพียงใด เพื่อที่เขาจะตัดสินใจว่า “จะต่อสัญญา” ออกไปอีกหนึ่งปีหรือไม่ ทว่าสถานการณ์ในเวลานี้ “ไม่มีการแข่งขัน” และมีแนวโน้มว่า ทุกอย่างที่เลื่อนออกไปนั้น “ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด” ซึ่งเขาคาดว่าน่าจะยืดเยื้อถึงกันยายนด้วยซ้ำไป นั่นก็หมายความว่า แผนทุกอย่างต้อง “เลื่อนจากที่เขาวางไว้” นั่นเอง



“ สำหรับผมถือว่าเป็นสถานะที่ยากลำบาก เพราะอย่างที่ผมเคยบอกว่า อ๊อพชั่นแรกของผมนั่นก็คือ ความพยายามที่จะยืนหยัดต่อ เพราะว่าผมยังมีความกระตือรือร้นมีความต้องการที่จะแข่งขันต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญคือผมต้องรู้ว่าตัวเองอยู่ในระดับใดเพียงพอที่จะแข่งขันได้ในระดับไหน หลังจากที่ครึ่งหลังของฤดูกาลที่ผ่านมามีอยู่หลายครั้งที่ผมต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ของตนเองที่ขี่ได้ช้าลงมาก และไม่สามารถที่จะสู้ในกลุ่มหน้าได้ดีพอ ดังนั้นจากที่ผมเคยบอกไว้ว่า ผมต้องการที่จะหาคำตอบเพื่อเข้าใจในสถานะต่างๆของตนเองหากจะต้องต่อสัญญาออกไปอีกหนึ่งปี ดังนั้นการที่จะต้องลงแข่งอีกห้าหกสนามเพื่อศึกษาระดับของการแข่งขันของตนเอง อีกทั้งยังต้องทำความเข้าใจเรียนรู้กับหัวหน้าแมคคานิคส์คนใหม่ว่าเราจะสามารถปรับเซ็ทอะไรได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะช่วยให้ผมมีความแข็งแกร่งเพียงพอในการแข่งขัน ”



จากสถานการณ์ล่าสุดการแข่งขันมีการเลื่อนการแข่งขันออกไปอย่างเกมที่เยอรมัน,เนเธอร์แลนด์ และ ฟินแลนด์ โดยไม่มีกำหนดการว่าจะเลื่อนไปลงช่วงไหน ดังนั้น ในเวลานี้ อาจจะเหลือสิบสนาม ตามโปรแกรมการแข่งขันโดยที่ไม่มีการแทรกโปรแกรมใดๆเข้ามาจากเกมที่ประกาศเลื่อนไปก่อนหน้านี้ นั่นก็น่าจะเป็นการบังคับโดยปริยายาว่า ยังไงในฤดูกาล 2021 เขาก็จะยังต้องลงแข่งขันต่อ เพราะการเลิกในขณะที่การแข่งขันในปีนี้ถูกเลื่อนถูกยกเลิกไปนั้น “มันไม่สวยงามนัก” นั่นเอง ซึ่งมันก็พ้องกับการออกมาวีดีโอคอลก่อนหน้านี้ กับสื่อในอิตาลี ทำนองว่า “ นี่ทำให้แผนการของผมยุ่งยาก จากที่เราจะได้เรียนรู้ว่าจะเป็นไปอย่างไรเมื่อลงสนามแข่งจริง เพื่อที่ผมจะได้ตัดสินใจถึงอนาคตตัวเอง ก็กลายเป็นว่าทุกอย่างต้องยืดระยะเวลายาวออกไปจากเดิม อย่างที่ผมได้บอกไปว่า ผมจะตัดสินใจแข่งต่อหรือไม่นั้นก็หลังจากจบช่วงแรกของฤดูกาล เพื่อที่ผมจะได้เข้าใจในสถานะภาพของตนเองว่าพอจะยืนหยัดแข่งขันได้ในระดับใด แต่แล้วทุกอย่างก็เลื่อนออกไป ทำให้ผมยังไม่สามารถจะหาคำตอบให้ตนเองได้เข้าใจว่า ศักยภาพในเวลานี้นั้นผมพอที่จะแข่งขันได้ในระดับใด ซึ่งมันสำคัญมากสำหรับการที่ผมจะนำมาตัดสินใจถึงอนาคตของตนเอง ”



“ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นนี้ น่าจะส่งผลให้ให้บางจีพีอาจจะต้องยกเลิกไป เชื่อว่าในปีนี้น่าจะมีเป้าหมายในการจัดให้ได้มากสนามที่สุดเท่าที่เป็นไปได้น่าจะมีการปรับเปลี่ยนการจัดการหลายอย่าง เท่าที่ผมนึกได้ ไม่แน่ว่าอาจจะต้องแข่งแบบWorldSBK ที่ในหนึ่งสนามอาจจะต้องแข่งมากกว่าหนึ่งเรซนี่คือความคิดส่วนตัวของผมนะ เพราะเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีครบยี่สิบสนามตามแพลนปกติ บางทีอาจจะมีเหลือ 12-13 สนามในฤดูกาลนี้ก็เป็นไปได้ นั่นหมายความว่าอาจจะมีการตัด7สนามออกไปเพื่อให้สามารถคงฟอร์แมทการแข่งขันแบบเดิมไว้อีก12 สนามที่เหลือ แต่ก็ขึ้นกับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะยาวนาไปอีกแค่ไหน อย่างที่ Tavullia นี้หลายอย่างก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เริ่มมีคนป่วยจากการติดเชื้อ รวมถึงออกไปที่ pisaro เองก็มีการแพร่ระบาด เช่นเดียวกับผู้คนใน bergamo และ Brescia ต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก คงไม่เกินไปนักจากภาพที่ผมเห็นแล้วบอกว่า ราวกับเรากำลังตกอยู่ในสงคราม ที่ทุกคนกำลังเผชิญกับความลำบาก ซึ่งผมก็พยายามที่จะเอาใจช่วยให้ทุกคนผ่านช่วงเวลาเช่นนี้ไปได้ด้วยกัน ”



ก็ชัดเจนว่า วาเลนติโน่ รอสซี่นั้น ยังกระหายและมีไฟที่จะแข่งอยู่ เพียงแต่ว่า องค์ประกอบอื่นๆเมื่อต้องลงสนามจริง จะมีส่วนให้เขายืนหยัดได้ในระดับไหนต่างหาก คือ สิ่งที่เดอะด๊อกเตอร “กังวล” แต่อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างเบาใจได้อย่างหนึ่งก็ คือ เขาจะไม่เลิกโดยที่ไม่ได้ลงแข่งเลยอย่างแน่นอน ดังนั้น หากปีนี้เหลือการแข่งขันแค่สิบสนามตามคาดเดา ก็เป็นไปได้สูงที่ เขาจะแข่งต่อในปี 2021 เช่นที่เขาบอกว่า ตัวเขานั้นยังกระหายที่จะแข่งต่อนั่นแหละ

UIP : 587 | Page View : 793