ช่วงนี้แม้เกมการแข่งขัน MotoGP จะมีข่าวคราวการเลื่อนการแข่งขันออกไป อันมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19ทำให้นักแข่งและทีมงานทุกฝ่ายต่างได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ซึ่งในส่วนของนักแข่งก็ต้องเตรียมพร้อมร่างกายให้พร้อมกับการเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันตลอดเวลา และล่าสุดมีข่าวคราวจากทีม MONSTER ENERGY YAMAHA MOTOGP ที่ในปีนี้และปีหน้าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงนักแข่ง ซึ่งจากที่เราทราบกันดีแล้วว่า ทางยามาฮ่าได้เซ็นสัญญากับ ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ ให้มาเป็นนักแข่งของทีมคนใหม่ในปี2021 ส่วนเจ้าของแชมป์โลก 9 สมัย “เดอะด๊อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ ที่กำลังรอการตัดสินใจในชีวิตนักแข่งของตนเองยังไง แต่ที่แน่ๆ เมื่อการเข้ามาของฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ ทำให้ตำแหน่งนักแข่งในทีม MONSTER ENERGY YAMAHA MOTOGP ที่มีเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า วาเลนติโน่ รอสซี่ จะต้องอยู่กับทีมใหม่ภายใต้การดูแลของยามาฮ่า ซึ่งในกรณีนี้ทำให้นักแข่งของทีมMONSTER ENERGY YAMAHA MOTOGP มาเวอริค บีญาเลส ได้ออกมากล่าวถึงความเคลื่อนไหวของตนเองของทีมและสองนักแข่งรุ่นพี่และนักแข่งรุ่นน้องไว้ว่า
“ ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Davide Tardozzi(Ducati Team Manager) จึงค่อนข้างยากที่จะเลือกระหว่าง ดูคาติ กับ ยามาฮ่า” มาเวอริคได้กล่าวกับ SkySport “แต่สุดท้ายแล้วผมก็เลือกยามาฮ่า เพราะผมต้องการที่จะคว้าแชมป์ ถ้าผมต้องไปจากยามาฮ่า ผมก็ไม่รู้หรอกว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง”
“ผมคิดว่าบางทีสไตล์การขี่ของผมอาจจะดีกับดูคาติ ที่ซึ่งรถแข่งมีกำลังมาก มันเป็นรถที่สวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของแอโร่ไดนามิก แต่อย่างไรก็ตามรถแข่งยามาฮ่าของเรานั้นสวยกว่ามาก ในอนาคตใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางทีผมอาจจะกลับไปซูซูกิก็ได้ แต่สำหรับเวลานี้ ผมกำลังคิดอยู่เพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือการที่จะชนะร่วมกับยามาฮ่า”
สามฤดูกาลนับตั้งแต่ย้ายมายามาฮ่า เขาชนะรวม 6 ครั้งโดยทำอันดับได้ดีที่สุดบนตารางคะแนนสะสม ในปี 2017และ2019 ด้วยการรั้งอันดับสามบนตารางคะแนนสะสม ขณะที่ยามาฮ่าเองอยู่ในช่วงเวลาของการปรับเปลี่ยนอะไรภายในอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดการโครงสร้างภายในทีม ซึ่งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปีที่ผ่านมานั้น หลายๆอย่างเริ่มอยู่ในทิศทางที่รุดหน้ามากขึ้น “ ยามาฮ่า เข้าสู่ช่วงวิกฤตินับตั้งแต่มีการเปลี่ยนผู้สนับสนุนยางตั้งแต่ปี 2016 ที่ผ่านมา แต่เวลานี้เราทำงานกันอย่างหนักจนสามารถที่จะพัฒนาให้มีความมั่นคงสม่ำเสมอมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา รถแข่งเราเสถียรมากขึ้น ทั้งเจ้าหน้าที่เทคนิคจากญี่ปุ่น ที่เข้ามาต่างก็ช่วยให้รถแข่งพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น จนเวลานี้รถแข่งของเราสามารถกลับมาอยู่ในสถานะที่สามารถจะต่อสู้ได้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ”
พร้อมกันนี้ มาเวอริค บีญาเลส ได้กล่าวเสริมอีกว่า “ ผมชอบยามาฮ่า ผมชอบทีม ในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะ Estaban Garcia(Crew Chief) จากปีที่ผ่านมาเรามีปัญหาหลายอย่าง รวมทั้งเรื่องของความเร็วสูงสุดของรถแข่ง ทำให้ผมต้องพยายามอย่างมากที่จะพัฒนาตำแหน่งสตาร์ทให้ดีเพื่อที่จะขยับเข้าไปใกล้กลุ่มแถวหน้าให้มากที่สุด เราพยายามกันอย่างมาก ทำงานกันอย่างหนัก จนสามารถที่จะได้รถแข่งที่สามารถทำได้ดีมากขึ้นจากเดิม ซึ่งก็เห็นได้จากการทดสอบในช่วงพรีซีซั่นที่ผ่านมาของผม ”
แต่ในการสานฝันที่จะคว้าแชมป์มาครองให้ได้นั้น หมายความว่า เขาและยามาฮ่าจะต้องขับเคี่ยวกับมาร์ค มาเกรซและฮอนด้า ที่สามารถคว้าแชมป์หกจากเจ็ดฤดูกาลไปครองได้ “ ทุกทีมต่างก็ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะชิงชัยกับมาเกรซ เช่นเดียวกับที่ผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการที่จะชิงชัยกับมาร์ค และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายของผม แต่จะทำมันได้นั้นเราจะต้องเริ่มต้นด้วยการทำทุกอย่างในพิทให้ยอดเยี่ยมที่สุดเป็นอันดับแรกก่อน ”
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทางมาร์คและฮอนด้าดูจะได้เปรียบคนอื่น จากกติกาที่กำหนดให้ Frozen เครื่องยนต์ในช่วงสองปีนี้ “ในปีที่แล้วพวกเขามีรถแข่งที่พร้อมจะชนะได้เกือบทุกสนาม นั่นคือข้อได้เปรียบทีมอื่นอยู่บ้าง เพราะจากสถานการณ์ในเวลานี้หากรถแข่ง 2020 ของพวกเขาไม่ดีพอ พวกเขาก็ยังสามารถที่จะเลือกกลับไปใช้รถแข่งปี 2019 ได้ ขณะที่เรายังต้องพยายามทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิมเพื่อเป้าหมายของผม”
และในฤดูกาลนี้จะเป็นปีสุดท้ายของมาเวอริค บีญาเลส ที่จะยังมีทีมเมทชื่อ วาเลนติโน่ รอสซี่ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็น ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ ในปี 2021 เขาได้กล่าวว่า
“ ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับกวาร์ตาราโร่ เป็นไปด้วยดีนับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาร่วมงานกับยามาฮ่าครั้งแรก เราค่อนข้างที่จะเข้ากันได้ดีมาก สำหรับเขานั้นเป็นนักแข่งที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควอลิฟาย เขารู้ว่าจะต้องระเบิดพลังอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการสร้างโอกาสเพื่อได้ตำแหน่งสตาร์ทที่ดีที่สุดกับรถยามาฮ่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับผมด้วยเช่นกันที่ได้เขามาร่วมการาจในทีมเดียวกัน แม้ว่าผมจะแฮปปี้กับการมาของฟาบีโอ แต่ผมกลับรู้สึกผิดหวังที่จะไม่มี วาเลนติโน่ รอสซี่ ร่วมในทีมเดียวกัน การมีเขาเป็นทีมเมทมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ทุกข้อมูลจากเขาล้วนมีประโยชน์อย่างมากกับทีม ดังนั้นผมเสียใจอยู่บ้างที่จะไม่มีเขาอยู่ร่วมทีมในฐานะทีมเมท เขาเป็นไอดอลตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมเห็นเขาแข่งตั้งแต่ผมสามขวบ สำหรับผมมันเป็นอะไรพิเศษที่ได้ลงสนามร่วมกับเขา ส่วนตัวผมเองไม่ได้พูดคุยกับยามาฮ่าเกี่ยวกับสถานะในทีมว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน แน่นอนส่วนตัวผมหวังอย่างยิ่งว่ารอสซี่จะยังคงอยู่กับยามาฮ่า เพราะเขาคือนักแข่งที่มีบทบาทสำคัญสำหรับยามาฮ่า ทุกข้อมูลจากเขาล้วนมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนารถแข่งและในเรื่องต่างมากมาย ”
