ระหว่างเคลียร์ไฟล์งานเราก็พบกับข่าวที่เคยลงไปในจักรยานยนต์เวิร์ลด์ถึงทีมแข่งในรุ่น Moto3 ที่มีเจ้าของทีม ชื่อว่า Max Biaggi และนั่นทำให้เรานึกย้อนไปถึงรถแข่งรหัส OWM1 ซึ่งก็คือ รถแข่งเครื่องยนต์สี่จังหวะโมเดลล่าสุดที่ Yamaha พัฒนาออกมาเพื่อใช้ในการแข่งขัน MotoGP ซึ่งเป็นก้าวสู่ยุคใหม่ของ WGP เดิมอย่างรุ่น 500 ซีซี
ภายใต้ความท้าทายในการพัฒนาเพื่อให้เป็นรถแข่งเครื่องยนต์สี่จังหวะที่ขี่ง่าย มีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่มากที่สุด ดังนั้น First Generation ของรถแข่งเครื่องยนต์สี่จังหวะนี้ จึงเลือกใช้เครื่องยนต์แบบ สี่สูบแถวเรียง หรือ inline4 เพราะเป็นรูปแบบที่ Yamaha คิดว่ามีความสามารถในด้านการจัดวางสมดุลของตัวรถได้ดีที่สุด เมื่อนำมาติดตั้งบนโครงสร้างแชสซีส์ ซึ่งในเวลานั้นได้อาศัยพื้นฐานโครงสร้างมาจากเฟรมของรถแข่ง YZR500 แต่ได้นำเครื่องยนต์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นมา ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สี่จังหวะขนาด 942 ซีซีติดตั้งเข้าไปแทนที่ ก่อนที่ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลแข่งขันในปีนั้นจึงได้พัฒนาขึ้นมาเป็นเครื่องยนต์ขนาด 990 ซีซี ตามที่กติกากำหนดไว้อย่างเต็มพิกัด แต่ที่น่าสนใจก็คือ เทคโนโลยีที่พัฒนามาใช้กับ YZR-M1 นั้นก็คือ Engine-brake control system (Electronic Clutch) ที่จะช่วยให้จังหวะการเปิดปิดคันเร่งขณะแข่งขันนั้นสามารถควบคุมรถแข่งให้มีเสถียรภาพมากที่สุด มีผลจากแรงฉุดหรือเอ็นจิ้นเบรกน้อยที่สุด ซึ่งจากการพัฒนาอย่างหนักต่อเนื่อง ในที่สุด M1 เจนเนอเรชั่นแรกนี้ก็สามารถพัฒนาจนสามารถคว้าชัยชนะได้สองครั้ง ในฤดูกาล 2002 นี้ อีกทั้งนักแข่งอย่าง Max Biaggi สามารถจบฤดูกาลได้เป็นอันดับสองบนตารางคะแนนสะสม ส่วนชัยชนะนั้น ทำได้จากเกมที่สาธารณรัฐเชกและมาเลเซีย ซึ่งเครื่องยนต์ inline4 ของ M1 เจนเนอเรชั่นแรกนี้ มีขนาดความจุเครื่องยนต์ 942-990 ซีซี สามารถให้กำลังมากถึง 200 แรงม้าในเวลานั้น และ Mad Max หรือ Max Biaggi ก็คือ อีกหนึ่งนักแข่งที่มีส่วนร่วมกับก้าวย่างแห่งความสำเร็จของ M1 อีกหนึ่งคนที่เรานึกถึง รถแข่งหมายเลข 3 ของMax ที่นำทัพนักแข่งในทีมอย่าง Carlos Checa#7 รวมทั้งมือไวดล์การ์ดที่มีโอกาสร่วมพัฒนาอย่าง Noriyuki Haga ไว้มีโอกาสครั้งต่อไป ระหว่างรอฤดูกาลแข่งขันกลับมาอีกครั้ง เรานึกอะไรได้ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟัง ในพื้นที่พิเศษ Are You Remember…ยังจำได้ไหม
Gameleon Menu