เช่นเดียวกับข่าวของฝั่งรถวิบากของยามาฮ่ายุโรปที่เสนอไปในจักรยานยนต์เวิร์ลด์ ในกลุ่มรถซูเปอร์สปอร์ตตระกูล R-Series ของยามาฮ่าเองก็มีกิจกรรมแบบเดียวกัน โดยในปีที่แล้ว Andy Verdoia ที่ผ่านการคัดเลือกและชนะ Yamaha R3 bLU cRU Challenge จนได้รับโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันใน 2019 World Supersport300 และเข้าร่วมการอบรมทักษะเพิ่มเติมใน Yamaha VR46 Master Camp ซึ่งในปีที่แล้วเขาสามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สี่ ในฐานะนักแข่งรุกกี้ที่มีอันดับดีที่สุด อีกทั้งแสดงศักยภาพที่มีให้เห็นต่อเนื่องตลอดเวลาที่เข้ารับการเทรนนิ่งและตลอดฤดูกาลแข่งขันที่สามารถยืนหยัดจบในกลุ่มสิบอันดับแรกได้แปดจากเก้าสนาม แถมยังสามารถขึ้นไปสู้ในกลุ่มลุ้นคว้าชัยได้ถึงสองสนาม และนี่เองทำให้เขาได้รับโอกาสครั้งสำคัญ เข้าเป็นสมาชิก Yamaha bLU cRU WorldSSP by MS Racing team ที่ซึ่งเขาจะได้ขยับจาก R3 มาขี่ R6 หมายเลข 25 ในคลาส WorldSSP 600 เป็นครั้งแรกในสังเวียนแข่งระดับโลก ซึ่งนักแข่งฝรั่งเศสวัย 17 ปี ได้กล่าวถึงโอกาสที่ได้รับอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมาว่า
 
“ ผมเชื่อว่าในปีที่ผ่านมานั้นมาจากผลงานที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ รวมทั้งความตั้งใจของผมในการฝึกซ้อมทั้งในยิม ทั้งการปั่นจักรยาน และทำตามแผนการต่างๆตามโปรแกรมที่ได้รับอย่างเคร่งครัด ซึ่งตลอดทั้งฤดูกาลผมได้รับการแนะนำจากทีมโค้ช bLU cRU coaching team และที่สำคัญคือการได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งใน YamahaVR46 Master Camp รวมทั้งการได้ร่วมใน Yamaha bLU cRU Masterclass ที่ช่วยให้ผมเรียนรู้สิ่งต่างมากมาย จนสามารถที่จะช่วยยกระดับทักษะต่างๆได้อย่างดี ที่ช่วยให้ผมได้เข้าใจและเรียนรู้ถึงการเป็นนักแข่งในระดับโปรเฟสชั่นแนล ซึ่งพัฒนาการนี้ไม่ได้อยู่เพียงแค่การมุ่งเน้นเฉพาะในสนามแข่งขันเท่านั้น แต่จะต้องมีองค์ประกอบอีกมากมาย เช่นที่ผมได้รับจากทุกประสบการณ์จากโปรแกรมต่างๆของยามาฮ่า ”

“ถึงเวลานี้ผมต้องฝึกฝนมากขึ้น มีการเตรียมตัวที่เพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่รู้ว่าจะได้โอกาสขึ้นมาขี่ R6 ตามโปรแกรมของยามาฮ่า ที่จัดทำ bLU cRU project นี้ขึ้นมา โดยส่วนตัวผมทุกสิ่งจะต้องเพิ่มระดับการฝึกซ้อมฝึกฝนมากจากเดิมเพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเหมือนตอนที่ขี่ R3 สมรรถนะของ R6 มันแตกต่างมาก พร้อมกันนี้ผมตั้งใจที่จะเรียนรู้ทุกอย่างให้เร็วที่สุด ใช้ความพยายามทุกอย่างทุ่มเททำให้ดีที่สุดจากโอกาสที่ได้รับนี้”














 
และในนัดเปิดฤดูกาลของ WorldSSP ที่ผ่านมา เขาสามารถประเดิมเกมแรกในชีวิตนักแข่งอาชีพด้วยการคว้าแต้มแรกมาครองได้สำเร็จหลังจากที่จบด้วยอันดับสิบห้า บนแทร็คฟิลิปส์ไอส์แลนด์ “ สนามไม่ยากที่จะขี่ แต่ไม่ง่ายที่จะทำเวลาให้ดีกว่าคนอื่น นี่เป็นสนามในระดับกรังด์ปรีซ์ 12 โค้ง บนความยาว 4.445 กม. ทุกจุดมีผลต่อเนื่องกันถ้าพลาดมันก็จะมีผลต่อการขี่ในเซคชั่นต่อไปและมันมีผลต่อเวลาที่เสียไป ผมพยายามศึกษาถึงสนามนี้ สนามที่ผมไม่เคยขี่มาก่อน และมันเป็นสนามระดับกรังด์ปรีซ์ที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับผม ระดับการแข่งขันในสนามนี้ถือว่าค่อนข้างยากสำหรับผม ส่วนตัวผมตั้งใจไว้ว่าในปีนี้จะพยายามทำแต้มสะสมให้ได้เท่าที่จะมีโอกาส แล้วเพียงเกมแรกในสนามนี้ผมก็สามารถคว้าแต้มสะสมแต้มแรกมาครองได้สำเร็จ นับจากนี้ไปผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดและก็จะพยายามศึกษาความเข้าใจเกี่ยวกับรถแข่งให้มากขึ้นพร้อมกับเรียนรู้ทุกสิ่งเพื่อที่จะทำผลงานให้ดีขึ้น ถึงตรงนี้ผมต้องขอบคุณโอกาสที่ได้รับนับตั้งแต่เข้าร่วมกับ bLU cRU Programe จนทำให้ผมมีโอกาสก้าวขึ้นมาสู่การเป็นนักแข่งในรายการระดับโปรเฟชชั่นแนลในเวลานี้ ”
 
ก็เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งหลายคนที่ในปีนี้ ยามาฮ่า ยุโรป ผลักดันนักแข่งอายุน้อยหน้าใหม่ที่ได้จากการริเริ่มโครงการด้วยรถแข่งในกลุ่ม R-Series อย่าง R3 จากระดับคลับเรซ จบสู่ระดับชิงแชมป์ยุโรปและ WorldSSP นี้ ก็ต้องติดตามกันว่าเมื่อฤดูกาลชิงชัยกลับมาเข้าสู่สภาวะปกติ ผลงานของนักแข่งวัยรุ่นคนนี้จะเป็นไปได้ดีเพียงใดกับปีแรกใน WorldSSP กับรถแข่ง R6 จาก ไลน์ผลิต R-Series