ทีมงานเว๊ปไซต์motobikeworldmag.com ได้รับการติดต่อผ่านทางร้านAor Service Area เมืองแปดริ้ว ว่ามีคนหนุ่มไฟแรงที่ชื่นชอบรถสไตล์วินเทจอยู่ในหัวใจและหลงไหลการขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อการพักผ่อนท่องเที่ยว จึงอยากแนะนำให้ทีมงานของเราไปพุดคุยพร้อมถ่ายภาพรถคู่กายของคนหนุ่มคนนั้น ซึ่งหลังจากได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กันแล้วก็นัดหมายเพื่อได้เจอะเจอและพูดคุยกัน
ทีมงานของเรานัดหมายกับ ชวลิต แสงภาย “ฝ้าย” คนหนุ่มที่ชื่นชอบแนวรถสไตล์วินเทจได้ขับขี่รถคู่กายมาเจอกันที่ร้านกาแฟในเขตเมืองพนมสารคาม “ฝ้าย” ก็เล่าให้ฟังว่า “ตอนแรกขี่BMW K1200 แล้วเจอกับรุ่นพี่ที่ใช้คันนี้ แล้วเกิดความชอบเลยสลับกันเอาคันนี้มาใช้และให้ K1200 ไปให้รุ่นพี่ใช้ พอได้ขี่แล้วรู้สึกชอบสไตล์ของรถฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน XB9 ตอนเอามาก็มีการปรับเซ็ทนิดหน่อย โดยเริ่มจากเอาชุดไฟของXB1200 มาใส่ แคมใหม่ เอาชุดไฟของ1200มาใส่ ส่วนโทนสีผมเอามาทำใหม่เลย โดยเอารถไปทำกับรุ่นพี่ที่ระยองทำสีแอร์บรัช ซึ่งทางร้านนี้ทำชุดสีแอร์บรัชให้กับประเทศทางกลุ่มอาหรับ ซึ่งผมก็สนิทกันเลยเอารถไปทำชุดนี้ที่นี้ ซึ่งก็เป็นลายแอร์บรัชสไตล์อาหรับที่ไม่เหมือนใครเพื่อมีเส้นสายที่เป็นสไตล์อาหรับ และได้ฝังชื่อตนเองเอาไว้ที่ถังน้ำมันด้วย”
“ฝ้าย”ได้เล่าต่อถึงที่มาที่ไปของการทำรถในแนวFat ว่า “ผมเองมีความตั้งใจที่จะทำเป็นแนวFat จริงๆอยากจะยืดสวิงอาร์มล้อโตตามแนวแดร๊กแนวยูเอสเอ แต่เริ่มทำก็คิดว่าที่ออกมาในแนวคาเฟ่แบบนี้ก็ถือว่าโอเค จะมีกลิ่นอายของSRผสมอยู่ด้วยครับ”
แน่อนว่าเมื่อเป็นคนชอบสไตล์รถแบบนี้แล้วก็ย่อมมีกลุ่มเพื่อนไปออกทริป ซึ่งชวลิต แสงภาย ก็ได้เล่าให้ฟังต่อว่า “มีโอกาสในการใช้รถคันนี้บ่อย ขี่ไปมิตติ้งกับเพื่อนๆ ไปขี่ตลาด ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาแล้วกลับมาเจอกันและมีรถขี่เที่ยวเหมือนกัน ในกลุ่มก็มี10คนได้ ส่วนใหญ่เวลาออกทริปก็จะมีรถอีกคันคือแกรนด์ฟีลาโน่ที่ตอนนี้เอาไปใส่ลูกโตยืดชักอยู่และอีกคันคือ สตาร์เลียนที่แต่งเป็นสไตล์คาเฟ่สไตล์SR ซึ่งคันนี้ก็จัดเต็มเหมือนกันคือทำวาล์วยืดชักจะเป็นแนวในการใช้งานเหมือนกันครับ ส่วนออกทริปนี่ก็บ่อยทั้งขึ้นเขา เข้าป่า ไปทะเล ไปนครนายก ปราจีน ไปกับเพื่อนๆแก๊งค์ของผมที่ใช้เวสป้ากัน ส่วนผมก็จะเอาแกรนด์ฟีลาโน่ไป และอีกคันก็เอาไปกับเพื่อน ซึ่งส่วนใหญ่เราขี่กันไม่เร็ว อย่างในกลุ่มก็เน้นแฟชั่นแต่งรถมาโชว์กัน ไม่ได้เน้นเร็ว เราจะขี่กันแบบชิลๆสบายๆเน้นความปลอดภัย ผมก็มีอยู่กลุ่มสองกลุ่มก็จะคุยกันว่าสัปดาห์นี้จะไปไหนก็คุยกันผ่านทางLine พอคุยกันก็เตรียมตัวเดินทางกันไป ถือว่าเราไปเที่ยวกันแบบชิลๆ”
กลับมาที่รถฮาร์เล่ย์ เดวิดสันอีกที “ฝ้าย” บอกกับทีมงานถึงแรงบันดาลใจในการทำรถสไตล์นี้ว่า “ฮาร์เล่ย์ เดวิดสันคันนี้ผมมีแรงบันดาลใจจากรถสปอตเตอร์ในแนวซีโร่ จริงผมชอบรถสไตล์ซีโร่สปอตเตอร์มาก รวมถึงก็ดูจากในเว็ปจากอเมริกาเพิ่มเข้ามา เราได้เห็นเขาเพ้นท์ลายทำรถแบบเวอร์ๆสวยๆ ผมก็เกิดไอเดียให้เป็นสไตล์ของผมเอง ซึ่งหลังจากที่ผมทำคันนี้เสร็จ เวลาไปขี่ก็มักจะมีคนมากถามว่ารุ่นนี้รุ่นอะไร หมดไปกี่แสน และจังหวะที่บ้านผมเป็นโรงกลึงด้วยส่วนใหญ่ผมก็จะของรถเล็กหาของกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้ใช้จะเอามาใส่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าของส่วนใหญ่จะเป็นของญี่ปุ่นทั้งนั้น คือเป็นน็อตมิลหมดแล้ว ทำให้ค่าตกแต่งของคันนี้จึงไม่สูงมาก อย่างแผ่นชาร์ตผมใช้ของแบล็คเบิร์ดแต่ก็มีแปลงนิดหน่อย เรียกว่าเราเอามามิคกันใหม่ด้วย ถ้าใช้ของแท้ๆก็คงจะแพงเหมือนกัน ซึ่งก็ใช้งานได้ปกติ หรืออย่างแบตเตอรี่ก็ไม่ได้ใช้ของฮาร์เล่ย์ ผมใช้ของบ้านเราอาจจะสตาร์ทติดยากหน่อยแต่ก็สตาร์ทติดได้ ซึ่งผมว่าถ้าเราเข้าใจในการทำงานของมันเราก็เล่นได้”
หลังจากพูดคุยจนคุ้นเคยกัน “ฝ้าย” ก็เล่าถึงชีวิตส่วนตัวว่า “ส่วนตัวผมเป็นคนที่นี่ครับคือ พนมสารคาม ก็บริหารงานโรงกลึงของครอบครัว พี่ชายก็เปิดศูนย์เปลี่ยนยาง-ล้อแม็ก ก็ช่วยๆกันทำ ด้วยความที่เราอยู่ในบรรยากาศลักษณะแบบนี้ทำให้ชื่นชอบรถมาได้ 9 ปีแล้ว แรกๆก็ชอบรถใหม่ พอโตขึ้นเราก็เปลี่ยนมุมมองด้วยความที่ที่บ้านเป็นโรงกลึงก็หารถมาซ่อม หาของแต่งมาทำกันเอง พอทำแบบนี้มันเป็นสไตล์ที่ผมชอบด้วย ทำให้รถเก่ากลายเป็นรถเทพขึ้นมามันน่าภูมิใจและทำให้รถเก่ากลับมามีชีวิต พอเราทำแบบนี้เราก็ภูมิในเวลาขี่ไปเที่ยวไปจอดก็จะมีคนมาถาม เราก็ภูมิใจกับรถของเราครับ”
สำหรับรถฮาร์เล่ย์ เดวิดสันคันนี้ เราเจาะทุกสัดส่วนของรถมาฝากแฟนๆได้ชมกัน ส่วนใครเจอะเจอฝ้ายก็สามารถทักทายพูดคุยกันได้เลยครับ
