​Grazie Vale นับถอยหลังสู่วินาทีแห่งการอำลาสนามของ Valentino Rossi

หมวกกราฟฟิคพิเศษของ Valentino Rossi ในเกมMotoGP สนามล่าสุด ที่ Misano กับการออกแบบที่สื่อถึง โฮมจีพีครั้งสุดท้ายของเขา นี่คืออีกหนึ่ง Special Helmet ของแชมป์โลกเก้าสมัย “Rossi ‘s final home race helmet design” ด้วยโทนพื้นสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ ควบคู่กับกราฟฟิคธงเชียร์ของแฟนๆ ที่นับเป็นสัญลักษณ์ของเหล่าแฟนคลับที่ให้การสนับสนุนต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 26 ปีใน World Championship ซึ่งเจ้าตัวได้เอ่ยว่าลวดลายกราฟฟิคนี้ เป็นการของคุณแฟนๆที่ให้การสนับสนุนและติดตามเชียร์มาอย่างเหนียวแน่นตลอดระยะเวลาในช่วงชีวิตนักแข่งของเขานั่นเอง
 
ซึ่งก็คงจะทราบผลจากการถ่ายทอดสดของ MotoGP สนามที่16 จาก Misano ผ่านสื่อต่างๆกันไปแล้วว่า กับผลการแข่งขันของ Valentino Rossi ที่ผ่านเส้นชัยเป็นอันดับที่ 10 ต่อหน้าแฟนๆชาวอิตาเลี่ยน ที่โชคดีจำนวนหนึ่งที่ได้เข้าชมแบบจำกัดจำนวนผู้ชมแค่ 35,000 คนเท่านั้น แน่นอนว่าความพิเศษสุดในเกมนี้นั้นก็คือ บรรยากาศการอำลาแฟนๆในโฮมจีพีสุดท้ายของชีวิตนักแข่ง ซึ่งหลังจบเกมที่ Misano แห่งนี้ แม้ว่าการไต่อันดับจากตำแหน่งที่ 23 จนผ่านเส้นชัยเป็นอันดับ 10 นี้ แม้จะเทียบไม่ได้กับชัยชนะในอดีตที่ทำไว้ ทว่า”มันเป็นเกมที่แสนพิเศษ” เมื่อแฟนๆรอบสนามต่างตะโกนเชียร์พร้อมป้ายแสดงความขอบคุณ รวมทั้งเซอร์ไพรส์จากลูกพี่ลูกน้องอย่าง Luca Marini และ Marco Bezcecchi รวมทั้ง Celestino Vietti ต่างก็ใช้ชุดแข่งและรถแข่งโทนสีเหลืองกราฟฟิคพิเศษลงแข่งขันอีกด้วย ซึ่งเขาได้กล่าวว่า
 
“ ผมแฮปปี้กับวันนี้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจในการแข่งขัน เป็นผลงานที่ดีที่จะทำให้กับแฟนๆและเป็นโอกาสที่ดีที่จะอำลาโฮมจีพีด้วยการติดในกลุ่มสิบอันดับแรก ผมหวังว่าในสัปดาห์การแข่งขันที่ Misano นี้จะสามารถทำผลงานได้ไม่แย่นักและตั้งใจที่จะไม่รั้งในกลุ่มท้าย แต่ด้วยตำแหน่งสตาร์ทในแถวหลังนั้นมันทำให้หลายอย่างยากที่จะหวังอันดับที่ดี แต่ผมก็รู้สึกมั่นใจว่าน่าจะทำได้ดีหลังจากที่เจออุปสรรคพอสมควรจากการควอลิฟาย ผมรู้ศักยภาพตัวเองดีว่าจะทำได้อย่างไรบนแทร็คที่แห้งในสนามแห่งนี้ และผมก็รู้สึกดีขึ้นกับรถและยางในช่วงของการแข่งขัน และนั่นทำให้ผมสามารถที่จะแซงไต่อันดับขยับขึ้นมาได้อีกทั้งยังดีพอที่จะยืนหยัดสู้ได้จนถึงรอบสุดท้าย และด้วยผลงานที่ออกมานี้ก็น่าจะดีพอที่จะกล่าวขอบคุณแฟนๆรอบสนาม มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากมันน่ามหัศจรรย์ถึงความรู้สึกที่เห็นจากฝูงชนรอบสนามในวันนี้ ผมพยายามที่จะมีส่วนร่วมกับช่วงเวลาดีนี้ที่มีอยู่รอบสนาม ช่วงก่อนการแข่งขันเพื่อนสนิทและคนใกล้ชิดบอกให้ผมลงสนามด้วยความสนุกสนานและสนุกกับโฮมจีพีนี้ให้เต็มที่ มันเป็นบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมมาก ราวกับว่าผมได้รับความรักจากทุกๆคนที่อยู่รอบสนาม ด้วยเหตุนี้ผมจึงตั้งใจอย่างมากที่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทุ่มเทให้กับการแข่งขันในเกมนี้เพื่อผลงานที่ดีที่สุดที่ผมจะมอบให้แฟนๆได้ ”
 
 












 


และนับจากนี้ยังเหลืออีกสองเกมการชิงชัย ซึ่ง Rossi มีเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ว่าจะทำให้สำเร็จ ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้หลังจบเกมที่สหรัฐอเมริกา รวมทั้งยังมีความรู้สึกบางอย่างในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตนักแข่ง ที่เขาได้ประกาศมาล่วงหน้าแล้วว่า จะอำลาสนามหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ตามที่ทราบกันไปแล้ว จักรยานยนต์เวิร์ลด์เราก็เลยรวบรวมบทสัมภาษณ์เหล่านั้นมาเล่าสู่กันฟัง
 
“ ที่ออสเตรียหลังจากประกาศว่าผมจะอำลาวงการในฐานะนักแข่งนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักสำหรับผม แต่เมื่อเริ่มคิดถึงเกมที่ Valencia ที่กำลังจะมาถึงนั้นผมกลับเริ่มวิตกอยู่บ้างว่ามันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ง่ายต่อความรู้สึก เพราะเมื่อถึงจุดตรงนั้นหลังจบการแข่งขันนั่นหมายความว่าวิถีชีวิตของผมจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยเป็นมา ผมจะไม่ใช่นักแข่งใน MotoGP อีกต่อไป มันคงจะไม่ใช่ห้วงอารมณ์ที่ง่ายนักของผมในเวลานั้น แต่บางทีก็อาจจะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ดีก็ได้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่จะเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาผมได้อ่านข้อความแนะนำให้เลิกแข่งตั้งแต่แข่งขันมาได้สิบห้าปี ผมก็แค่อ่านแล้วไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันเลย แต่ตอนอีกไม่นานนักช่วงเวลานั้นกำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตามหลังประกาศอำลาสนามออกไป ผมรู้สึกดี มันเป็นช่วงเวลาที่ถูกที่ควรสำหรับผมแล้ว แม้ว่าลึกๆแล้วผมยังรู้สึกหรือคิดเข้าข้างตัวเองว่าน่าจะขี่ต่อไปได้อีกช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อตัดสินใจด้วยผลของการแข่งขันแล้ว ผมต้องยอมรับผมเคยสนุกสนานมีส่วนร่วมกับความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมกับชัยชนะกับผลแข่งที่ดี และเช่นกันทุกคนเองต่างก็ชอบผลงานดีๆตำแหน่งดีๆจากการแข่งขัน และเมื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินความสุขที่มาจากผลแข่งขันไม่มีตามที่คาดหวังหรือตามที่เคยเป็นมา ผมไม่สามารถบอกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ ทำไมทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป จนกระทั่งปีที่ผ่านมานั้นชัดเจนว่าผมมีความแข็งแกร่งไม่มากพอ ผมเร็วไม่มากพอ ผมไม่สามารถที่จะสู้เพื่อตำแหน่งบนโพเดี้ยมหรือแม้แต่ไม่มีโอกาสที่จะสู้เพื่อชัยชนะเช่นที่เคยทำได้ ระดับชั้นของนักแข่งมีศักยภาพสูงมาก สิ่งที่ผมต้องทำเมื่ออายุมากขึ้นก็คือจะต้องพยายามฝึกฝนและฝึกซ้อมให้มากขึ้นเพื่อความแข็งแกร่ง ที่จะยืนหยัดในระดับที่เพียงพอจะบรรลุเป้าหมายหรือรักษามาตรฐานที่เคยเป็น มันไม่ง่าย มันต้องทุ่มเทพยายามอย่างมาก แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งสิ่งที่ทำนั้นมันกลับไม่ได้ไม่รู้สึกเอ็นจอยกับมันเท่าไร บวกกับผลที่ออกมาน่าผิดหวัง ผมสนุกกับมันน้อยลง นั่นก็คงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอำลา ถึงตอนนี้ผมจะพยายามรักษามาตรฐานที่ดีให้พอที่จะยืนหยัดได้จนจบฤดูกาล ”
 
“เคยมีคำบอกให้หยุดในช่วงที่อยู่ในจุดสูงสุด แต่สำหรับผมกลับไม่เคยใส่ใจเลยถึงการอำลาสนามในขณะที่ยังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม ถึงเวลานี้ผมไม่เคยนึกเสียใจอะไรเลย ผมแฮปปี้กับทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาที่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งผมสามารถที่จะยืนระยะมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แม้ว่าเวลานี้ผมจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะกลับไปสู้เพื่อโพเดี้ยมได้แล้ว โดยส่วนตัวผมหวังว่าจะสามารถทำผลงานโดยรวมของตัวเองได้ดีกว่าครึ่งฤดูกาลแรก และจะสามารถเก็บแต้มสะสมได้มากขึ้นจากช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ แม้จะกังวลอยู่เล็กน้อยเมื่อคิดถึงวันที่ใกล้เกมนัดปิดฤดูกาล แต่ก็น่าจะถึงเวลาแล้วที่ผมตัดสินใจเช่นนั้น เพราะผมรู้สึกว่าการมีส่วนร่วมกับการแข่งขันของผมนั้นรู้สึกสนุกน้อยลงแล้ว”
 
 
















 
นอกจากนี้ยังมีการอ้างถึงแฟนๆชาวอิตาลีและแฟนคลับว่า อาจจะสนใจ MotoGP น้อยลงหลังไม่มี TheDoctor ที่สร้างสีสันสร้างวัฒนธรรมใหม่ให้กับเหล่ากองเชียร์จนสีเหลืองโดดเด่นขึ้นมาเสมอรอบๆสนามที่มีเหล่า VR46เข้ามาในสนามแข่ง เช่นเดียวกับที่บางส่วนยกย่องว่าเขาคือผู้นำ MotoGP เข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งเขาได้กล่าวว่า  “MotoGP มีมาก่อนผมและจะยังคงมีต่อไปหลังผมเลิกแข่งแล้ว นี่คือการแข่งขันที่มีมายาวนาน และปัจจุบันนักแข่งรุ่นใหม่ๆก็มีพัฒนาการที่แตกต่างออกไป ระดับทักษะนักแข่งสูงมากขึ้น จากในอดีตที่นักแข่งจะต้องอาศัยหัวใจและความมุ่งมั่นที่จะท้าทายในการแข่งขัน แต่สมัยใหม่ต้องมีอะไรเข้ามาช่วยมากกว่านั้น อย่างผมเองก็ต้องมีโค้ชส่วนต่างๆคอยเข้ามาช่วยดูแลเช่นกัน ทุกวันนี้นักแข่งรุ่นใหม่จำเป็นที่จะต้องมีการจัดการที่ดีทั้งในการฝึกฝนและฝึกซ้อมที่เป็นแบบแผน ก็คล้ายๆกับอะคาเดมี่ที่เราทำ จากเดิมที่เป็นเพียงแค่ความสนุกสนาน ในที่สุดมันกลายเป็นงานที่ต้องจริงจัง จากเดิมที่ผมเริ่มต้นเพื่อที่จะช่วยน้องผมช่วย Morbidelli และMigno เพื่อช่วยให้พวกเขาได้พัฒนาในด้านต่างๆ จากนั้นก็ตามมาด้วยการทำทีม Moto3 และ Moto2 จนถึงล่าสุดเรากำลังจะทำทีมMotoGP ทุกสเตปที่เราก้าวไปนั้นเริ่มใหญ่ขึ้นยากขึ้น แต่ผมคิดว่าเราพร้อมที่จะเต็มที่กับมันและเราน่าจะเป็นทีมที่ดี จากการเริ่มต้นแบบสนุกๆจนกลายเป็นอะคาเดมี่อย่างจริงจัง รวมทั้งหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้องนั้น โดยสรุปแล้วล้วนเป็นสิ่งที่เราทำเพื่อสนับสนุนนักแข่งของอะคาเดมี่ให้ก้าวเข้าสู่ MotoGP ด้วยพัฒนาของนักแข่งรุ่นใหม่ที่มีการจัดการที่ดีเป็นส่วนช่วยให้พวกเขายกระดับสูงขึ้น ดังนั้นนักแข่งในปัจจุบันจึงมีความสามารถมากขึ้น แม้จะไม่มีผมเสน่ห์ของการแข่งขันและนักแข่งเก่งๆมากมายก็จะมีเข้ามาตลอดเวลา เช่นเดียวกันแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตในอิตาลีและแฟนคลับผมต่างก็จะยังติดตาม MotoGP ต่อไปแม้จะไม่มีผมในสนามก็ตาม อย่างที่บอกMotoGP มีมาก่อนผมและจะยังมีต่อไปแม้ผมจะอำลาสนามก็ตาม ”
 
คำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นมาเมื่อสองสามเดือนที่แล้ว หลังเปิดครึ่งฤดูกาลหลังมาแล้ว สื่อในยุโรปได้ถาม Valentino Rossi ทำนองว่า ในปีสุดท้ายของชีวิตนักแข่งนี้เขามีเป้าหมายอย่างไรบ้าง  “ ถ้าผมอธิฐานได้ ก่อนที่จะจบเกมในValencia ผมหวังว่าจะสามารถยืนบนโพเดี้ยมได้สำเร็จ นอกจากนี้เวลานี้ผมจะต้องพยายามสร้างความแข็งแกร่งเพื่อให้สามารถยืนระยะได้ในอันดับที่ดีและเก็บคะแนนสะสมได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ”
 
นับจากนี้ ยังคงเหลืออีกสองเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่ ปอร์ติเมา โปรตุเกส และ บาเล็นเซีย  สเปน ที่จะเป็นสองสนามสุดท้ายในชีวิตนักแข่งของ The Doctor ก่อนจะอำลาสนามหลังสิ้นสุดฤดูกาล หากอ่านมาถึงบรรทัดนี้เชื่อว่า หลายๆคนต่างหวังที่จะเชียร์ Valentino Rossi ให้บรรลุเป้าหมาย ที่จะกลับขึ้นยืนโพเดี้ยมอีกสักครั้ง















UIP : 1,419 | Page View : 3,322