​ทดสอบ ยามาฮ่า XMAX 300 เต็มสปีดที่ 150 กม./ชม.กรุงเทพฯ-ตาก ช่วงที่ 1

ทดสอบ ยามาฮ่า XMAX 300 เต็มสปีดที่ 150 กม./ชม. สปอร์ตออโตเมติกพลังแรง ช่วงล่างหนึบแน่น เร้าใจที่การขับขี่ ช่วงแรกกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี-ชัยนาท-นครสวรรค์-เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก

หลังจากที่ยามาฮ่าเปิดตัวรถสปอร์ตออโตเมติกระดับพรีเมี่ยมกับยามาฮ่า XMAX300 มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม และเริ่มทะยอยปล่อยให้ผู้ใช้ได้เป็นเจ้าของมาอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้เข้าสู่ปีพ.ศ.ใหม่ ยามาฮ่า XMAX300 ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ที่อยากจะสัมผัสรถจักรยานยนต์ออโตเมติกคันหรู ที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะซึ่งทีมงานนิตยสารจักรยานยนต์เวิร์ลด์ และเว๊ปไซค์โมโตไบค์เวิร์ลด์แม็กได้รอคอยการปล่อยรถเพื่อที่จะได้ทำการทดสอบอย่างจริงๆจังๆ จนวันนี้เราได้ยามาฮ่า XMAX300 สีเหลือง มาอยู่ในมือ พร้อมคิดเส้นทางการเดินทางเพื่อให้คุ้มค่ากับการรอคอย จึงได้วางเส้นทางขี่ทดสอบกึ่งเที่ยวโดยเริ่มจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าไปสุพรรณบุรี-ชัยนาท-นครสวรรค์-ตาก-เชียงใหม่ สู่ม่อนแจ่ม ก่อนบิดตรงกลับกรุงเทพฯ รวมระยะเวลา 3 วันระยะทางไป-กลับประมาณ 1,805 กิโลเมตร(ตามที่วัดจากมาตรวัดติดรถ) หลังจากไปรับรถยามาฮ่า XMAX300 มาเป็นที่เรียบร้อย ก็เริ่มทำความคุ้นเคยกับรถคันนี้มากขึ้น ทั้งท่านั่ง น้ำหนักรถ อัตราเร่ง แรงบิด การควบคุม การทรงตัว รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายๆอย่างเพื่อให้พรั้งพร้อมต่อการเดินทางซึ่งจากบรัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัดมาถึงสำนักงานนิตยสารจักรยานยนต์เวิร์ลด์และ เว๊ปไซค์โมโตไบค์เวิร์ลด์แม็ก นักทดสอบและยามาฮ่า XMAX เริ่มรู้จักกันมากขึ้น






 
เราเริ่มต้นทางทดสอบกึ่งท่องเที่ยวไปกับยามาฮ่า XMAX 300 กันในวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ ออกสตาร์ทกันในช่วงเวลา เจ็ดนาฬิกา การสตาร์ทรถคันนี้มีระบบกุญแจแบบสมาร์ทคีย์อัจฉริยะ กุญแจรีโมทที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ก็สามารถทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากปุ่มOff เลื่อนมาที่ On ก็สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ทันที ซึ่งช่วงนี้สภาพการจราจรบนถนนในกรุงเทพฯหลายๆจุดเริ่มที่จะมีรถคับคั้งมากขึ้น เราเข้าสู่ถนนรามอินทราจากนั้นก็แวะเติมน้ำมันเต็มถังที่แยกซอยนวลจันทร์โดยการเติมน้ำมันก็ง่ายแสนง่ายเพียงบิดกุญแจทางซ้ายคือจากตำแหน่งOn มาที่ตำแหน่งOff บิดต่อไปจนที่มีรูปถังน้ำมัน ฝาถังน้ำมันที่อยู่บริเวณคอนโซลด้านหน้าเบาะนั่งก็จะเปิดออกจากนั้นเราก็บิดฝาถังน้ำมันเพื่อทำการเติมน้ำมัน ซึ่งในช่วงแรกนี้เราใช้น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล95 จากนั้นก็เดินทางต่อมุ่งหน้าสู่แยกบางเขน ข้ามสะพานข้ามถนนวิภาวดีรังสิตสู่ถนนแจ้งวัฒนะ ต้องยอมรับว่ายามาฮ่า XMAX300 สามารถลัดเลาะไปในช่องว่างระหว่างรถยนต์ได้เสมือนเราขับขี่รถสปอร์ตอย่างYZF-R15 แม้จะดูเหมือนว่าเรือนร่างของยามาฮ่า XMAX300 จะใหญ่ แต่ก็มีความเพรียวและคล่องตัวในพื้นที่แคบๆสูง อัตราเร่งของยามาฮ่า XMAX300 ติดมือช่วงนี้คุมความเร็วเกาะติดมอเตอร์ไซค์ด้วยกันไปแบบยาวๆ บางช่วงที่ติดไฟแดงพอไฟเขียวก็มีจังหวะแซงเพราะอัตราเร่งติดมือรถพุ่งทะยานฉีกออกจากกลุ่มรถขึ้นขี่คนเดียว ก่อนจะแทรกอยู่ในระหว่างช่องของรถยนต์อีกครั้ง เรามาถึงสะพานพระรามข้ามแยกปากเกร็ดหรือสะพานพระราม 4 มุ่งหน้าสู่ถนนชัยพฤกษ์ ซึ่งช่วงนี้สภาพการจราจรเริ่มคล่องตัวมากขึ้นรถร่วมทางไม่มากเหมือนบนถนนรามอินทราและแจ้งวัฒนะ เราเติมความเร็วจาก60-80 กม./ชม.ขึ้นมาอยู่ที่ 100 จนถึง 120  กม./ชม.ซึ่งเป็นช่วงของการขับขี่ที่สบายๆ ท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบายและอาจจะเย็นไปด้วยซ้ำเพราะเมื่อลองเปลี่ยนโหมดที่แผงหน้าปัดเรือนไมล์ โดยเลื่อนดูอุณหภูมิก็ปรากฏว่าอยู่ที่ 21 องศา ก็ถือว่าเย็นกำลังขี่ จากนั้นก็เปลี่ยนเส้นทางมาใช้ถนนกาญจนภิเษกมุ่งหน้าจังหวัดสุพรรณบุรี โดยความเร็วในช่วงนี้ยังคงยืนระยะอยู่ที่ประมาณ 120 กม./ ชม. จะมาบางช่วงที่จะขยับแซงรถยนต์ก็ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 140 กม./ชม. จากนั้นก็ไปยืนระยะความเร็วไว้ที่ 120 กม./ชม.เหมือนเดิม  สภาพถนนในช่วงเส้นทางไปสุพรรณบุรีถือว่าราบเรียบน่าขับขี่ แม้จะดูเหมือนจะขี่ทวนลมแต่รถก็ให้การทรงตัวที่ดีด้วยเรือนร่างการออกแบบที่มีขนาดกว้าง 775 มม. ความยาว 2,185 มม.และความสูง 1,415 มม. รวมถึงเบาะนั่งมีความสูงจากพื้นถึงเบาะ 795 มม.ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่าย ตำแหน่งการวางเท้าช่วงการขับขี่ในเมืองหรือระยะทางสั้นๆที่จะวางเท้าแบบราบไปกับพื้นของรถ และช่วงการขับขี่ยาวๆเราอาจจะต้องเลื่อนร่างกายขยับถอยหลังออกมาชิดกับสันเบาะหน้าพร้อมเหยียดเท้าไปข้างหน้าได้เล็กน้อยพร้อมว่างตำแหน่งเท้าใหม่ เพื่อให้ง่ายต่อการขับขี่ได้เปลี่ยนอาริยาบทในการขับขี่ได้ด้วย เราขี่ยามาฮ่า XMAX300 แบบสบายๆผ่านตัวเมืองสุพรรณบุรี มุ่งหน้าตลาดสามชุกร้อยปี เพื่อนำรถไปถ่ายรูปและรับประทานอาหารเช้า ก็อยู่ราวๆเก้าโมงครึ่ง เราจอดแวะถ่ายรูปย่านชุมชนโบราณซึ่งวันนี้เป็นวันธรรมดาซึ่งคนไม่เยอะมากแต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวบ้าง หลังจากนำรถยามาฮ่า XMAX300 ไปถ่ายรูปในหลายๆจุดแล้วก็เติมพลังให้กับตนเอง เรานั่งพักซึมซับบรรยากาศของแหล่งชุมชมโบราณอยู่ร่วมชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่เดินทางต่อ โดยจุดหมายต่อไปคือบึงฉวาก ซึ่งเราใช้เวลาประมาณ15นาทีด้วยความเร็วประมาณ 120 กม./ชม.ก็มาถึง บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติซึ่งเป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่รวมถึงมีสวนสัตว์ให้ประชาชนเข้าไปเที่ยวชม โดยทีนี่เราไมได้เข้าไปชมแต่อย่างใดแต่นำรถยามาฮ่า XMAX300 ไปถ่ายรูปในเส้นทางเท่านั้น เราใช้เวลาประมาณ10-15 นาที ก็เดินทางต่อสู่จุดหมายต่อไปคือเขื่อนเจ้าพระยาที่อยู่ในจังหวัดชัยนาท
 














สภาพเส้นทางในช่วงนี้เริ่มมีฝุ่นและเศษหินมากขึ้นจากถนนที่เสียหายและมีการปรับปรุง การมีชิลหน้าช่วยให้ไม่ให้หินหรือเศษฝุ่นมาปะทะเข้ากับตัว รวมถึงสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นที่ช่วยให้ร่างกายไม่ปะทะกับลมเย็นๆมากนัก และการทำความเร็วในบางช่วงที่แซงรถใหญ่การมีชิลหน้าช่วยทำให้ลมไม่ปะทะเข้ากับคนขี่มากจนเกินไป เราเดินทางสู่จังหวัดชัยนาทโดยมุ่งหน้าไปยังเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งก่อนถึงจะมีป้ายเข้าทางเขื่อนไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจากบึงฉวากมาถึงเขื่อนเจ้าพระยาใช้เวลาประมาณ30-35 นาทีจากนั้นก็ถ่ายรูปยามาฮ่า XMAX300กับวิวเขื่อน ซึ่งหลังจากยืนชมธรรมชาติริมเขื่อนเจ้าพระยาได้สักพักแล้วก็หาจุดนั่งดื่มน้ำพักผ่อน จากนั้นก็เดินทางต่อเพื่อไปยังจังหวัดนครสวรรค์ มาถึงจุดนี้เราสังเกตเข็มน้ำมันที่ยังเหลืออีกประมาณ 2 ขีด ซึ่งก็น่าจะเพียงพอต่อการขับขี่เพื่อถึงจังหวัดนครสวรรค์ เราวิ่งตามเส้นทางมาบรรจบถนนสายเอเซียเพื่อมุ่งหน้าสู่นครสวรรค์ โดยก่อนถึงนครสวรรค์ประมาณ 8-9 กิโล เข็มน้ำมันก็กระพริบเตือนและเมื่อนำรถยามาฮ่า XMAX300 มาเติมน้ำมันก็ปรากฏว่าจากกรุงเทพฯมาถึงนครสวรรค์ ผ่านทางสุพรรณบุรี ใช้ระยะทาง 293 กิโลเมตร เราจัดการเติมน้ำมันลงไป 11.44 ลิตร อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 25.61 กม./ลิตร โดยยามาฮ่า XMAX300 มีความจุถังน้ำมันทั้งหมด 13 ลิตร และเมื่อเข็มน้ำมันกระพริบเราจะมีน้ำมันเหลือในถังราวๆ1.5 ลิตร ซึ่งน้ำมันถังที่สองนี้เราเลือกใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลE20
 





 
จากนครสวรรค์กับน้ำมันถังใหม่ที่รถยามาฮ่า XMAX300 สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลE20 ได้ เราเดินทางกันต่อสู่จังหวัดกำแพงเพชร ช่วงนี้ถนนค่อนข้างราบเรียบและมีการทำถนนใหม่ ทำให้การเดินทางทำได้เร็วขึ้น ความเร็วที่ใช้ในช่วงแรกราวๆ 120 กม./ชม.นั้น เราเติบความเร็วเข้าไปอีก ยามาฮ่า XMAX 300 คันนี้มีพละกำลังที่จัดจ้านจากเครื่องยนต์ขนาด 292 ซีซีสูบเดียว 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมอัตราส่วนกำลังอัด 10.9:1 ที่ให้พลังความแรงเมื่อยามบิดคันเร่งรถยามาฮ่า XMAX 300 ก็พุ่งทะยานออกตัวอย่างรวดเร็ว แน่นอนความเร็ว120 กม./ชม.นั้นยามาฮ่า XMAX300 สมารถเรียกความเร็วนี้มาได้อย่างสบายๆ อีกทั้งในช่วงความเร็วที่มากกว่านี้อย่างความเร็วที่ 140 กม./ชม. ยามาฮ่า XMAX300 ก็ให้กำลังความเร็วที่ให้ผู้ขับขี่พุ่งทะยานไปแตะอยู่ที่ 140 กม./ชม.ได้อย่างสบายๆ ในช่วงนี้เราลองทำความเร็วด้วยสปีดสูงสุด ยามาฮ่า XMAX300 ขยับความเร็วจาก 140 ขึ้นไปอยู่ที่ 150 กม./ชม.ได้อย่างสบายๆด้วยรอบเครื่องยนต์ประมาณ 8,100 รอบต่อนาทีบนเส้นทางราบ จากนครสวรรค์สู่กำแพงเพชรด้วยเวลาไม่นานก่อนที่จะพุ่งตรงเข้าสู่จังหวัดตาก ช่วงออกจากกำแพงเพชรถนนเริ่มที่จะมีขึ้นเนินบ้างรถยามาฮ่า XMAX300 สามารถพุ่งทะยานขึ้นเนินยาวๆไปได้แบบต่อเนื่องไม่มีตก แถมช่วงลงเนินเราได้เห็นท็อปสปีดใหม่ที่ 156 กม./ชม. จากนครสวรรค์ถึงตากใช้ระยะทาง 182.9 กม. เรานำรถยามาฮ่า XMAX300 เข้าเติมน้ำมันเพราะช่วงนี้เราใช้ความเร็วท็อปสปีดเกือบตลอดเวลา ซึ่งหลังจากเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลE20 ลงไปเต็มถัง จำนวน 7.58 ลิตร เมื่อคำนวณการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้วอยู่ที่ 24.12 กม./ลิตร จากนั้นเราก็นำรถยามาฮ่า XMAX300 ไปหาจุดถ่ายรูปที่สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์200 ปี สะพานตากสินมหาราชานุสรณ์ และริมแม่น้ำปิง จากนั้นก็ขี่รถยามาฮ่า XMAX300 ไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล ซึ่งเส้นทางการไปเขื่อนก็ง่ายเพราะมีป้ายบอกตลอดทาง ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตแนวโค้งแห่งเดียวในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2500 และก็ได้รับพระราชทานนามว่าเขื่อนภูมิพล โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2504 การก่อสร้างแล้วเสร็จและทำพิธีเปิดเขื่อนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507โดยเขื่อนภูมิพลนี้สามารถรองรับน้ำได้สูงสุด 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร เราจอดแวะเที่ยวชมเขื่อนจนเกือบถึงเวลาปิดทำการ จากนั้นก็เดินทางกลับสู่จังหวัดตากเพื่อหาที่พักในคืนแรกนี้
 
เราปิดทริปในช่วงแรกของการทดสอบยามาฮ่า XMAX ในวันนี้ที่จังหวัดตาก เรายังมีทริปเดินทางสู่ม่อนแจ่มจังหวัดเชียงใหม่กันต่อไป ซึ่งสัปดาห์หน้าจะกลับมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกัน 





















UIP : 10,131 | Page View : 10,755