นอกจากสองวิบากตัวจิ๋วสุดในไลน์การผลิตของYamahaแล้ว ก็ได้ขยับขึ้นมาในไลน์การผลิตที่น่าจะเหมาะสำหรับเด็กโตขึ้นมาอีกนิด ที่เปิดตัวมาในปี 2018นี้ สำหรับนักแข่งระดับเริ่มต้นหรือนักแข่งระดับเยาวชน ที่จะมีโอกาสสัมผัสทักษะการขี่ในสไตล์วิบาก และนี่คือ amateur dirt bike จากYamaha กับรหัสรุ่นที่คุ้นเคยกันมายาวนานอย่าง  “TT-R”
 
จากแนวความคิดที่ว่า “Big Fun”  คือ นิยามของ TT-R110E ที่พร้อมรองรับสำหรับเด็กโตจนถึงผู้ใหญ่ ที่ออกแบบมาให้เด็กโตได้สัมผัสการขับขี่ในแนวรถวิบากด้วยเครื่องยนต์ที่มีการส่งกำลังนุ่มนวล ขับขี่ง่าย การออกแบบคลัทซ์ที่ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ง่าย ด้วยระบบเกียร์แบบกึ่งอัตโนมัติ หรือ semi-automatic แบบสี่สปีด พร้อมด้วยระบบสตาร์ทไฟฟ้า ด้วยกำลังเครื่องยนต์สี่จังหวะขนาด 110 ซีซี SOHC 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ ด้วยเฟรมขนาดกลางแบบ steel backbone-type ที่มีความกะทัดรัด จึงทำให้ TT-R110E นี้เป็นรถที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการขับขี่ สำหรับผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะเด็กโต












ก้าวสู่อีกสเตปที่เหนือกว่า ด้วย TT-R125LE ที่มาพร้อมกับนิยาม A Step Up , A Step Above ที่ให้อิสรภาพในการขับขี่ในแบบออฟโรดที่จริงจังมากขึ้น “นี่คือรถที่เหมาะสม” สำหรับการก้าวข้ามจากรถในพิกัด mini มาสู่ full size นั่นหมายความว่า เป็นรถที่พร้อมรองรับผู้ขับขี่ที่เตรียมจะก้าวสู่การขับขี่ในแบบจริงจังมากขึ้นในแนววิบากหรือออฟโรดนั่นเอง ด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 124 ซีซี SOHC 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่มาพร้อมกับเฟรมที่แข็งแกร่งแบบ diamond-type steel frame  ด้วยกำลังเครื่องยนต์และแรงบิดของ TT-R125LE นี้ มากเพียงพอสำหรับนักขับขี่ในระดับมือใหม่ที่จะเค้นขีดความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ ด้วยสมรรถนะที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้กว้างขึ้น เป็นการ ”เตรียมความพร้อม” ที่จะก้าวสู่รถในแบบออฟโรดแบบเต็มรูปแบบในสเตปต่อไป  ซึ่งทางยามาฮ่ายังคงมีรถวิบากในระดับ full size ไว้ตอบสนองความต้องการทั้งรถสูตรสไตล์โมโตครอสจากตระกูล YZF หรือรถวิบากสายเอ็นดูโร่สุดแกร่งตระกูล WR-F ไว้อีกด้วย