รถตระกูล GS ของ BMW กล่าวได้ว่าเป็นรถตัวลุยจากค่ายรถเยอรมันที่ยืนหยัดมากกว่า 35 ปี ที่พร้อมตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ ทุกเส้นทางการขับขี่ ที่เหมาะกับการเดินทางไกลในแบบทัวริ่งรวมทั้งการลุยในแบบออฟโรด และในโมเดลล่าสุดของ R1200GS ได้รับการเพิ่มเติมคุณสมบัติการขับขี่เพิ่มเติมที่พร้อมตอบโจทย์ในการลุยที่เพิ่มขึ้นด้วยแคแรกเตอร์ในการขับขี่แบบเอ็นดูโร่ หรือกล่าวว่าเพิ่มสมรรถนะในแบบ the style packages rallye ที่ช่วยตอกย้ำถึงความเป็นรถในแบบครอบจักรวาลที่พร้อมตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายนั่นเอง



















ด้วยเครื่องยนต์แบบ Boxer ระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศ ที่ปรับให้มีค่าไอเสียต่ำกว่ามาตรฐาน EU4 ยังคงกำลังเครื่องยนต์ในระดับ 125 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที โดยที่กำลังเครื่องยนต์มีรงบิดสุงสุดที่ 125 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิคส์ที่ใช้ในการควบคุมระบบการทำงานต่างๆที่มีผลค่าประสิทธิภาพการขับขี่ตามมาตรฐานเทคโนโลยีที่ต้องมีในรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบัน ด้วยRiding Mode มาตรฐานสองโหมด คือ Rain กับ Road ยังได้มีอ๊อพชั่นเสริมเพื่อเสริมประสิทธิภาพการขับขี่เพิ่มเติมด้วย Riding Mode Pro ที่จะมีโหมดการขี่เพิ่มเติมคือ dynamic , dynamic pro , endure , และ endure pro รวมทั้ง Dynamic Traction control หรือ DTC เป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ขี่ที่ต้องการอ๊อพชั่นที่เหนือกว่าอุปกรณ์มาตรฐานติดรถ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของระบบความปลอดภัยในการขับขี่ที่ทาง BMW ได้มีอ๊อพชั่นเสริมด้วยระบบฺ DynamicESA “Next Generation” หรือ Electronic Suspension Adjust เวอร์ชั่นล่าสุด ที่จะเป็นระบบปรับเซ็ทค่าของระบบกันสะเทือนแบบอัตโนมัติ ที่เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีล่าสุดที่ BMW เสริมสมรรถนะให้กับ GS โมเดลล่าสุดได้โลดแล่นต่อไปบนทุกเส้นทางการขับขี่