ยามาฮ่าจัดการทดสอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Yamaha E01 ให้สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ทั้งยังเป็นสื่อไทยในย่านอาเซียนได้ทำการทดสอบ ในเส้นทางขึ้นเขาใหญ่ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ก่อนที่จะเร่งพัฒนาในเวอร์ชั่นต่อไปเพื่อออกสู่ตลาด
 
หลังจากที่บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้จัดแสดงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Yamaha E01 ครั้งแรกในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ทั้งยังได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์จำนวนมาก และสื่อมวลชนก็ให้ความสนใจต่อรถรุ่นนี้สูงสุด ทั้งนี้ทราบกันดีว่า Yamaha E01 นั้นเป็นรถต้นแบบที่บริษัทยามาฮ่ามอเตอร์ประเทศญี่ปุ่นผลิตขึ้นมาเพื่อ 500 คันเพื่อส่งใปให้ตัวแทนยามาฮ่าทั่วโลกได้ทำการหาข้อมูล รวมถึงในประเทศไทยด้วยกันที่ได้รถ Yamaha  E01 เข้ามาประจำการมากถึง 40 คัน

ทั้งนี้ในข้อมูลเบื้องต้น Yamaha E01 นั้นเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ที่ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดที่ 8.1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงที่ 5,000 รอบ และให้แรงบิดสูงสุดที่ 30.2 นิวตันเมตรที่ 1,950 รอบ โดยสามารถทำระยะทางได้ไกลสุด 130 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยใช้โหมด Eco ที่จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์โดย Vehicle Control Unit, Batterry Management System, Motor Control Unit ช่วยการคุมให้การขับขี่ให้มีความนุ่มนวล การบิดคันเร่งนั้นแรงบิดจะค่อยๆปล่อยออกมาได้อย่างเสถียร จึงให้ความรู้สึกเหมือนกับขี่รถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป นอกจากนี้ Yamaha E01 นั้นยังมีโหมดการขับขี่ 3 ระดับด้วยกันก็คือ
 
โหมด Eco ที่ให้แรงขับเคลื่อน 5.4 kW ที่ 4,500 รอบ มีแรงบิด 21.4 Nm ที่ 1,500 รอบ โดยล็อคความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง (มีระยะเดินทางได้ถึง 130 กิโลเมตร)
โหมด Standard ให้แรงขับเคลื่อน 8.1 kW ที่ 5,000 รอบ มีแรงบิด 24.5 Nm ที่ 1,500 รอบ ใช้ความเร็วได้มากกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (มีระยะเดินทางได้ 100 กิโลเมตร)
โหมด Power  ให้แรงขับเคลื่อนที่ 8.1 kW ที่ 5,000 รอบ มีแรงบิดที่ 30.2 Nm ที่ 1,950 รอบ ใช้ความเร็วได้มากกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (มีระยะเดินทางได้ 100 กิโลเมตร)
 
นอกจากนี้ยังมีระบบเอนจิ้นเบรกเทียม ด้วย Regenerative โดยให้มอเตอร์นั้นมีการสร้างแรงฉุดให้ความรู้สึกเดียวกับเอนจิ้นเบรกของเครื่องยนต์สันดาป เมื่อมีการยกคันเร่งผู้ขับขี่จะรู้สึกมีแรงฉุดเบาๆในขณะยกคันเร่ง รถไม่พุ่งทะยานเหมือนรถที่บีบคลัทช์

อีกทั้งยังมีระบบ Traction Control System ที่เปิด-ปิดได้ เนื่องจากเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์จึงมีแรงบิดสูง โอกาสที่ล้อหลังหมุนฟรีนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูง การใส่ระบบ Traction Control System จะช่วยป้องกันล้อหลังหมุนฟรีจึงเป็นระบบความปลอดภัยที่ยามาฮ่าติดตั้งมาในรถรุ่นนี้



















ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น เป็นแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนขนาดใหญ่ 4.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงนั้นถูกติดตั้งไว้ตรงกลางระหว่างที่วางเท้า ซึ่งเป็นการติดตั้งชนิดถาวร ใช้รูปแบบการชาร์จตามสถานการณ์ 3 รูปแบบคือ
ระบบ Fast Charge ซึ่งเป็นสถานีสำหรับการชาร์จด่วนโดยเฉพาะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจาก 0 ถึง 90%
ระบบ Normal Charge (แรงดันไฟ 200-240 โวลต์) เป็นแท่นชาร์จชนิดติดตั้งประจำที่อย่างเช่นที่บ้าน หรือที่สำนักงานออฟฟิส ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 5 ชั่วโมง จาก 0 ถึง 100%
ระบบ Portable Charge แบบชุดพกพา สามารถเสียบกับปลั้กที่มีแรงดันไฟฟ้า 100-240 โวลต์ โดยใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 14 ชั่วโมง จาก 0 ถึง 100% เหมาะสำหรับพกพาเก็บไว้ใต้เบาะ นำติดรถไปได้ทุกที่กลางคืนนอนที่ไหนก็เสียบปลั้กชาร์จได้ทันที
 
ส่วนทางด้านเรือนไมล์นั้นเป็นหน้าจอแบบดิจิตอลเน็กกาทีฟ ที่ให้ความชัดเจนในการมอง โดยมีตัวเลขมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่พร้อมด้วยสัญลักษณ์รูปแบตเตอร์รี่ ที่มีระดับขีดย่อยจำนวน 10 ขีด ส่วนเมนูแสดงผลอื่นๆ ที่สามารถเลือกให้โชว์ค่าได้นั้นมีทั้ง อุณหภูมิภายนอก วัดทริประยะทาง แสดงแรงดันโวลต์ แสดงระดับแบตเตอร์รี่แบบเปอร์เซ็นต์ ขณะที่การจัดวางตำแหน่งไฟ จนถึงที่เสียบสายชาร์จ ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้ดีไซน์มีความล้ำ โดยไฟทุกตำแหน่ง ทั้งไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟเบรก เป็นไฟ Full LED ทั้งหมด ผสานกับสีดำและสีขาวมุกพิเศษของตัวถัง ยิ่งเสริมให้ Yamaha E01 ดูมีสไตล์ หรูหรา และทันสมัย
 
นอกจากนี้ Yamaha E01 ได้มีการติดตั้งโหมดขับเคลื่อนถอยหลัง (เกียร์ถอย) มาให้เพื่อเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกสะบาย ในกรณีที่จอดรถในทางลาดชัน ซึ่งมีการออกแบบการทำงานที่รัดกุม




















 
หลังจากได้รู้จักข้อมูลสำคัญๆของ Yamaha E01 แล้ว ทีนี้ก็มาถึงการทดสอบขับขี่กันบ้าง หลังจากได้ฟังข้อมูลของรถพลังงานไฟฟ้า Yamaha E01 กันแล้ว ทำให้รู้ได้ว่าเรากำลังเข้าสู่บทเรียนการขับขี่รถไฟฟ้ารูปแบบใหม่อีกครั้งภายใต้แบรนด์คุณภาพระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต้องมาดูกันว่า จะเป็นจริงดังพรีเซ็นต์หรือไม่ แน่นอนในเรื่องของรูปทรงที่ถ่ายทอดDNA มาจากรถออโตเมติกในคลาส125 ซีซี อย่างยามาฮ่า NMAX 125 แต่ได้มีการดีไซน์รูปทรงให้เหมาะกับความเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีความยาวรถ 1,930 มม. ที่เก็บของใต้เบาะมีความจุ 23 ลิตรสามารถเก็บหมวกกันน็อคได้ ความสูงเบาะ 755 มม.ช่วยให้ผู้ขับขี่ขึ้นลงรถได้สะดวก ทั้งตำแหน่งท่านั่งการขับขี่ก็มีส่วนคล้าย NMAX แบตเตอรี่วางอยู่ในตำแหน่งคอนโซลกลางระหว่างที่วางเท้า ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า ถูกวางอยู่ในตำแหน่งใต้เบาะนั่ง ที่วางได้อย่างสมดุลและมีเสถียรภาพ ที่ส่งต่อกำลังเข้าไปที่ชุดเกียร์ก่อนที่ผ่านไปยังชุดสายพานเพื่อทำการฉุดล้อให้หมุน ทีนี้ก็มาถึงการได้ลองนั่งขึ้นคล่อมบนรถ รถYamaha E01ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่รถออโตเมติกแบบNMAX ทั้งท่านั่งการวางมือบนแฮนด์เดิ้ลรวมถึงการวางเท้า จากนั้นก็ลองทำการสตาร์ทรถ เพียงกดปุ่มสตาร์ทและปล่อยมือออกจากปุ่มสตาร์ท เราจะเห็นที่แผงหน้าปัดที่มีแถบสีเขียวปรากฏขึ้นมา ซึ่งบอกให้รู้ว่า รถพร้อมที่จะขับเคลื่อนแล้ว เพียงแค่บิดคันเร่งรถYamaha E01 ก็พุ่งทะยานไปตามแรงบิดซึ่งคันเร่งที่ใช้ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังขับขี่รถออโตเมติกทั่วไป ส่วนโหมดในการขับขี่ช่วงแรกเราได้ลองโหมด Standard เราขับขี่เพื่อทำความคุ้นเคยโดยออกจากที่พักมุ่งหน้าไปยังปากทางขึ้นเขาใหญ่ในรูปแบบขบวนแถวตอนเรียงสอง ซึ่งตรงนี้เราได้เรียนรู้และรู้จักรถ Yamaha E01 มากขึ้น รถให้อัตราเร่งที่ดี เราลองเร่งคันเร่งพร้อมคลอเบรกไปด้วย รถให้ความรู้สึกเหมือนรถออโตเมติกทั่วไปและต่างจากรถไฟฟ้าที่วิ่งอยู่บนท้องถนนในเวลานี้ เราลองพลิกรถซ้ายขวารถให้การยึดเกาะที่มีจุดบาล้านซ์ที่ดี แม้จะมีแบตเตอร์รี่ก้อนใหญ่อยู่ตรงกลางรถแต่ด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมที่ดีทำให้รถไม่มีอาการแกว่งให้เห็น
 
เราขับขี่จนมาถึงประตูทางขึ้นเขาใหญ่ เส้นทางเป็นที่ทราบกันดีว่านี่คือการเริ่มต้นของการขึ้นเขาอย่างแท้จริง รถวิ่งไปตามถนนที่เริ่มสูงขึ้น ด้วยแรงขับเคลื่อนในโหมด Standard 8.1 kW ที่ 5,000 รอบ มีแรงบิด 24.5 Nm ที่ 1,500 รอบ ส่งกำลังได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ให้อารมณ์เหมือนขับขี่รถออโตเมติก125ซีซี ยิ่งตอนชู้ตขึ้นเนินรถมีอัตราเร่งส่งกำลังได้ดีมาก และสิ่งที่กังขาคือการไล่ลงเนิน รถYamaha E01 มีเอ็นจิ้งเบรกแบบเบาๆที่ให้ความรู้สึกหน่วงๆเวลายกคันเร่งและขับขี่ลงเนิน ทำให้การขับขี่บนเส้นทางเขาใหญ่สนุกและมั่นใจมากขึ้นในทุกโค้งในทุกเส้นทางไปจนถึงจุดชมวิว กม.ที่ 30 ซึ่งในจุดชมวิวตรงนี้ยามาฮ่าได้ให้นักทดสอบทดลองเกียร์ถอยหลัง โดยเกียร์ถอยหลังโดยการทำงานของเกียร์ถอยหลังเริ่มจากที่ตำแหน่งแฮนด์ด้านซ้ายบริเวณด้านบนของแฮนด์ตรงนิ้วชี้ซ้ายจะมีปุ่มพร้อมตัวอักษร R ให้ทำการกดปุ่มพร้อมกับกดปุ่มที่ตำแหน่งModeด้วยนิ้วโป้งขวาพร้อมกัน รถYamaha E01 ก็จะขยับถอยหลังแบบช้าๆด้วยความเร็ว 1 กม./ชม. โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องออกแรงดันรถแต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องบิดคันเร่งด้วย และเมื่อนิ้วใดนิ่วหนึ่งหลุดออกจากตำแหน่งรถก็หยุดไม่เคลื่อนตัวและสามารถขยับขึ้นเนินได้ในระดับนึง หลังจากทดสอบการใช้เกียร์ถอยหลังแล้วก็ได้เวลาขับขี่มุ่งหน้าไปยังจุดที่เรียกว่า ต้นไม้มรดกชาติ ซึ่งในเส้นทางก็มีการขึ้นเขาลงเขาและทางโค้งกว้างๆให้ทำความเร็วขึ้นมาอีกระดับนึง รวมถึงได้ทดลองใช้โหมดEco ที่ให้แรงขับเคลื่อน 5.4 kW ที่ 4,500 รอบ มีแรงบิด 21.4 Nm ที่ 1,500 รอบ โดยสามารถทำความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงซึ่งเป็นโหมดที่ขับขี่สบายๆเหมือนขับขี่รถอยู่ในชุมชนยิ่งช่วงการวิ่งขับขี่เพื่อถ่ายรูปเราได้ลองใช้โหมดEco
 
หลังจากถ่ายรูปสวยๆในบริเวณเขาใหญ่เสร็จสิ้น ทางยามาฮ่าใจดีเปิดโอกาสให้นักทดสอบแต่ละคนได้รู้จัดกับสมรรถนะของ Yamaha E01 มากขึ้นด้วยการปล่อยให้ขับขี่กันแบบเต็มที่ โดยเราได้ใช้โหมด Power ที่ให้แรงขับเคลื่อนที่ 8.1 kW ที่ 5,000 รอบ มีแรงบิดที่ 30.2 Nm ที่ 1,950 รอบ แน่นอนว่าเราได้จัดเต็มกับการขับขี่ Yamaha E01 ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยความเป็นรถต้นแบบที่มีเพียง 40 คันในประเทศไทยจึงเน้นในเรื่องความปลอดภัยมากเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆ โดยพยายามขับขี่หาข้อมูลของรถไฟฟ้าให้มากที่สุด แม้จะเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ยังเน้นถึงความปลอดภัยและเน้นหาสมรถนะของรถ ซึ่งสิ่งที่ได้เห็นอีกจุดนึงก็คือ ระบบ Traction Control System เมื่อเวลาวิ่งผ่านลูกระนาด เราจะเห็นไฟ Traction Control System ปรากฏขึ้นมาในบางครั้ง นั่นเพื่อให้เรารู้ว่าการหมุนของล้อหน้าและล้อหลังไม่สัมพันธ์กันรถได้ทำการปรับการหมุนของล้อให้สัมพันธ์ทั้งหน้าและหลังเพื่อให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น รถมีแรงส่งมากขึ้นกว่าโหมด Standard นิดหน่อยแต่ให้ความรู้สึกว่ามีอัตราเร่งที่ดีขึ้น ในด้านสมรรถนะการยึดเกาะถนนต้องบอกเลยด้วยการออกแบบเฟรมรวมถึงระบบกันสะเทือนหน้า กันสะเทือนหลังแบบโช้คอัพคู่รวมถึงสวิงอาร์มที่ให้การยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม ทั้งให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมในโค้งด้วยความเร็วในโค้งที่หลากหลาย รถไม่มีอาการแกว่งหรือเสียจังหวะในระหว่างอยู่ในโค้ง ทั้งอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม รวมถึงระบบเอ็นจิ้งเบรกและระบบเบรกที่เป็นแบบดิสก์เบรกแบบABSที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม เราสนุกไปกับการขับขี่พร้อมเค้นหาสมรรถนะสูงสุดของรถและทำท็อปสปีดได้สูงถึง 106 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะกลับมาถึงที่พักถือเป็นการสิ้นสุดการทดสอบYamah E01
 
โดยรวมกับการทดสอบ Yamaha E01 ในครั้งนี้ถือว่ายามาฮ่าสร้างมาตรฐานของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างน่ามหัศจรรย์ รถYamaha E01 คันนี้เป็นเพียงรถพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ ที่ยามาฮ่ามอเตอร์ประเทศญี่ปุ่นผลิตขึ้นมาส่งให้ยามาฮ่าแต่ละประเทศได้ทำการหาข้อมูล ซึ่งแน่นอนรถYamaha E01 จะยังไม่ออกวางจำหน่ายเพราะเป็นเพียงรถต้นแบบ และสิ่งที่แน่นอนคือเมื่อยามาฮ่าพร้อมที่จะพัฒนารถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆต่อไปและพร้อมที่จะวางจำหน่ายในเวอร์ชั่นยามาฮ่า EV ในรุ่นต่อๆไป