​ทดสอบ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155 ปรับโฉมใหม่ ขุมพลังใหม่ 155 ซีซี VVA พลังแรง

ทดสอบ ออล นิวยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155 รถสปอร์ตโมเพ็คพลังแรงที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 155 ซีซี กระบอกสูบไดอะซิล พร้อมวาล์ว VVA ที่ให้ความแรงจัดจ้านยิ่งขึ้น ผสานเกียร์ 6 สปีดให้แรงจัดจ้านยิ่ง ท็อปสปีดได้สูงถึง 140 กม./ชม.กับการทดสอบครั้งแรก รวมถึงให้ความมั่นใจในยามขับขี่ด้วยระบบคลัทช์แบบ Assist & Slipper คลัทช์ ล้อไม่ล็อคในขณะที่เชนเกียร์ลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งรูปโฉมมีการปรับใหม่หมดทั้งคันให้ความสวยงามในสไตล์ อาร์ซีรี่ย์ เฟรมใหม่ที่แข็งแกร่งและควบคุมในการเข้าโค้งได้สนุกมากขึ้น

หลังจากที่ยามาฮ่าได้ทำการเปิดตัวรถจักรยานยนต์พร้อมกันถึง 6 รุ่นไปเมื่อเร็วๆนี้ วันนี้ยามาฮ่าได้ปล่อยรถจักรยานยนต์สปอร์ตโมเพ็คที่ได้รับการปรับปรุงโฉมและเครื่องยนต์ใหม่ กับ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155 มาให้เราได้ทดสอบขับขี่กัน ซึ่งแน่นอนการทดสอบเริ่มขึ้นในวินาทีแรกเมื่อทำการรับรถรุ่นนี้จากยามาฮ่า หลังจากนำ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155 เราได้นำรถคันนี้เข้าทำการเติมน้ำมันเต็มถัง โฉมใหม่รุ่นนี้ได้เปลี่ยนความจุถังน้ำมันใหม่ จากเดิม 4.2 ลิตรมาเป็น 5.4 ลิตรเพื่อรอบรับความแรงของรถและไปได้ไกลยิ่งขึ้น โดยการเปิดเบาะเติมน้ำมันสามารถควบคุมตรงสวิทช์กุญแจในจุดเดียว ไม่ต้องดึงกุญแจออกแต่อย่างใด รวมถึงระบบสตาร์ทเป็นแบบสตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
















 
มาดูในส่วนของรูปโฉมของออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155 กันก่อน รุ่นใหม่นี้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ เสริมความคมเข้มด้วยมิติดีไซน์ที่ถ่ายทอดมาจากรถในตระกูลอาร์ซีรี่ย์ มิติของรถมีขนาดกว้าง 665 มม. ความยาว 1,975 มม. และความสูง 1,085 มม. ไฟหน้าเป็นแบบ LED ที่มีการแยกโคมไฟหน้าเป็นสองส่วน ส่วนบนจะเป็นโคมไฟหน้าที่เป็นไฟต่ำ ส่วนด้านล่างจะมาพร้อมกับไฟDay Time Running Light ที่ดีไซน์ให้มีความดุดันสวยงาม โดยโคมด้านในจะเป็นชุดไฟสูง เมื่อเวลาเราเปิดไฟสูงจะมีหลอดไฟLEDไฟสูงสว่างขึ้น ในส่วนไฟเลี้ยวเป็นแบบแยกส่วน หลอดไฟเป็นหลอดสีเหลืองครอบด้วยโคมไฟสีขาว สว่างชัดเวลาเปิดทั้งด้านซ้ายและขวา หรือจะเปิดพร้อมกันสองดวงเพื่อใช้เป็นไฟขอทางหรือเกิดกรณีเหตุฉุกเฉิน ในส่วนของไฟท้ายมีการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้นถ่ายทอดความเป็นรถอาร์ซีรี่ย์ ไฟท้ายและไฟเบรกใช้หลอดไฟแบบLED สว่างชัดเจน ไฟเลี้ยวแยกส่วนมองเห็นชัดเจนในทุกมิติมุมมอง
 
หลังจากเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว ก็ได้เวลาทำการทดสอบ ออล นิว ยามาฮ่าเอ็กซ์ไซเตอร์ 155 กันต่อ รถรุ่นนี้เมื่อนั่งคล่อมให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนรถครอบครัวที่มีการปรับอารมณ์เสมือนรถสปอร์ต เป็นส่วนผสมที่ลงตัว ท่านั่งแบบรถสปอร์ตกับท่านั่งของรถครอบครัวคือไม่ก้มมากไปหรือนั่งตัวตรงไป หัวเขามีที่พอที่จะหนิบเวลาเข้าโค้งหรือเวลาทำความเร็วสูงๆแล้วหมอบหรือยามเวลาเจอถนนขรุขระมากๆการเอาเขาหนีบไปที่ตัวรถทำให้เราสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น รวมถึงเฟรมซึ่งได้รับการออกแบบมาใหม่ เป็นรูปตัว Y โดยเฟรมตัวใหม่นี้ออกแบบให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้น มีประสิทธิภาพในการทรงตัวที่ดีขึ้น รวมถึงวัสดุที่มาทำเฟรมยังให้ความแข็งแรง สังเกตได้จากการเข้าโค้งที่รถให้การยึดเกาะได้ดี การเข้าโค้งให้ความมั่นใจยิ่งขึ้น ผสานกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิก ที่มีการปรับระยะยุบตัวของโช้คใหม่ ทำให้นุ่มนวลขึ้น ส่วนโช้คอัพหลังเป็นแบบโมโนโช้ค ที่ได้รับการออกแบบเน้นในด้านสมรรถนะรอบรับการขับขี่ในรอบเครื่องยนต์สูงได้ดีเยี่ยม รวมถึงสวิงอาร์มที่ช่วยลดแรงกระแทกให้การทรงตัวที่ดีทั้งยังมีความนุ่มนวลทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการขับขี่ ในส่วนยางหน้าและยางหลัง ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์155 เป็นแบบ Tubeless ขนาดไซน์ของหน้ายางเบอร์ 90/80 ขนาดยางหลังใช้เบอร์ 120/70 โดยวงล้อเป็นล้อแม็กซ์แบบ 5 แยกคู่เป็นเหมือนรูปดาว มีขนาดของขอบแม็กซ์อยู่ที่ 17 นิ้วทั้งหน้าและหลัง เรียกได้ว่า ขนาดวงล้อยังดูเท่ สวยและสง่างามจริงๆ














 
หลังจากได้ดูสเป็คของ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์155 แล้วก็ได้เวลาทำการทดสอบขับขี่กันอย่างจริงๆจังๆ ก็ได้เวลาการทดสอบกันเลย หลังจอดรถอยู่ที่หน้าหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เราบิดสวิทช์กุญแจไปทางด้านซ้ายสุดเพื่อทำการเปิดเบาะนั่ง รุ่นนี้ดีตรงที่ไม่ต้องดึงกุญแจออกจากสวิทช์กุญแจไปเสียบตรงเบาะนั่ง จากนั้นก็เปิดฝาถังน้ำมันทำการเติมน้ำมันเต็มถังโดยรุ่นนี้มีความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 5.4 ลิตร จากนั้นก็ปิดเบาะ พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์เพียงกดปุ่มสตาร์ทเบาๆเท่านั้น เครื่องยนต์ขนาด 155 ซีซีก็สตาร์ทติดในทันที เสียงเครื่องยนต์ผสมเสียงท่อที่ดังเพราะหู ทำให้หันไปดูท่อไอเสียซึ่งดีไซน์เป็นทรงสปอร์ตที่สวยงาม จากนั้นก็บีบคลัทช์เข้าเกียร์ โดยเกียร์ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ เป็นแบบเกียร์สปอร์ตคือ เกียร์ 1 ตบลง เกียร์ 2-6 งัดขึ้น เราทำการขับขี่สร้างความคุ้นเคยไปรถ ทำให้รู้ว่ารถรุ่นนี้ให้การทรงตัวที่ดี การพลิกซ้ายพลิกขวาหาจังหวะในการแซงรถที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างรวดเร็ว เราสร้างความคุ้นกับการขับขี่ การใช้เกียร์ที่ควบคู่ไปกับคันเร่ง ได้เรียนรู้ระบบควบคุมสัญญาณไฟทั้งไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา สัญญาณไฟสูง รวมทั้งมีสัญญาณไฟสูงแบบขอทาง รวมถึงสัญญาณไฟฉุกเฉิน สังเกตการทำงานของแผงหน้าปัดเรือนไมล์ ที่มีวัดรอบเครื่องยนต์ มาตรบอกความเร็วเป็นตัวเลข สัญญาณการทำงานของVVA ที่ทำงานแบบดิจิตอล หลังคุ้นเคยกับการขับขี่กันได้สักพัก เราก็ลองหาจังหวะการทำงานของ VVA ซึ่งระบบการทำงานของวาล์วแปรผันจะทำงานที่ราวๆ7,000 รอบต่อนาที จากนั้นก็ลองขี่แบบซัดยาวๆเพื่อหารอบกำลังของเครื่องยนต์จากเกียร์ 1 ถึงเกียร์ 6 ซึ่งบอกได้เลยว่า ถ้าขับขี่ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155 รุ่นนี้แล้ว อยากสนุกไปกับความเร็วที่จัดจ้านเต็มอารมณ์ จะต้องลากเกียร์ให้รอบความเร็วไปแตะอยู่ที่ 11,000 รอบ เราจะได้เห็นพลังอันจัดจ้านของเครื่องยนต์บลูคอร์ขนาด 155 ซีซี ที่มาพร้อมกับกระบอกสูบไดอะซิล ที่แข็งแกร่งทนทาน พร้อมการระบายความร้อนด้วยน้ำแบบเต็มระบบ ที่ช่วยส่งผลให้รถทำความเร็วได้จัดจ้านดุดัน โดยในการทดสอบในครั้งแรกนี้ เราสามารถหาท็อปสปีดได้ถึง 140 กม./ชม. กับระยะทางบนหน้าปัดเรือนไมล์ที่มีระยะทางประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร เรียกได้ว่า เอารถออกจากยามาฮ่าก็อัดคันเร่งกันแบบสุดๆ โดยเสื้อสูบลูกสูบสามารถทำงานเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีอาการสะดุดหรือสูบติดแต่อย่างใด ซึ่งเราได้ทดสอบหาความเร็วท็อปสปีดอยู่หลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็จะได้ความเร็วประมาณเท่านั้นหรือบางที่ก็จะน้อยกว่าทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะในการขับขี่ ความหนาแน่นของรถรวมถึงกระแสลมที่มีส่วนประกอบในการขับขี่ด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับว่า ด้วยความเร็วที่ได้บวกกับสภาพเครื่องยนต์ที่ยังใหม่เอี่ยม การได้ความเร็วประมาณนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ในหลายๆเส้นทางที่เราขับขี่ทดสอบ บางช่วงถนนเป็นลูกคลื่น เจอคอสะพานต้องยอมรับเลยว่า ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155 มีระบบช่วงล่างที่ดีทั้งจากเฟรมที่เป็นแบบใหม่ทั้งระบบกันสะเทือนหลังที่ช่วยซับแรงทั้งให้การยืดหยุ่นที่ดี หรือเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วรถให้การยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม
 
หลายคนอาจจะถามว่า แล้วถ้าขี่ช้าๆและไปแบบเรื่อยๆล่ะ คันนี้ให้อารมณ์แบบชิลๆได้ เปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่องกลางประมาณ 4,000 รอบ รถก็เคลื่อนตัวได้ดีไปได้แบบเรื่อยๆ แต่ถ้าอยากซัดทำความเร็ว แค่เชนเกียร์ลงมาให้รอบเครื่องขยับสูงไปแตะ 7,000 รอบเมื่อไหร่ ก็เตรียมบิดคันเร่งเดินต่อ ระบบวาล์ว VVA ที่พร้อมทำงานที่ความเร็วรอบที่ 7,000 รอบต่อนาทีก็จะส่งให้กำลังเครื่องยนต์จัดจ้านมากขึ้นพร้อมลากรอบยาวๆเปลี่ยนเกียร์ไปตามจังหวะรอบของเครื่องยนต์รถก็จะพุ่งทะยานให้เร็วขึ้นมาทันที












 
ช่วงที่ขี่เข้าเมือง ด้วยน้ำหนักเพียง 119 กิโลกรัม ทำให้รถมีความสมดุลที่ดี ไม่หนักหรือไม่เบาเกินไป การซิกแซกผ่านรถร่วมทางเวลารถติดทำได้อย่างคล่องตัวทั้งนี้เพราะรถมีมุมคาสเตอร์อยู่ที่ 25.8 องศาและระยะเทรล 87 มม. ทำให้มีความคล่องตัวสูง รวมถึงให้การยึดเกาะในโค้งเมื่อเวลาทำความเร็วสูงได้ดี ด้วยความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 795 มิลทำให้การวางเท้าทั้งสองข้างบนพื้นถนนได้ดี การใช้รถมีเกียร์ก็ให้ความสนุกไปอีกแบบ การใช้คลัทช์ช่วยในการออกตัวเราก็สามารถเลือกได้ว่าจะออกตัวแบบช้าๆหรือจะออกตัวแบบเร็วๆ หลายๆช่วงของการขับขี่ในเมืองเราลากรอบเครื่องยนต์สูงรถก็พุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว อีกจุดที่ประทับใจเห็นจะเป็นระบบ Assist & Slipper คลัทช์ ที่เวลาเชนเกียร์ลงอย่างรวดเร็ว ล้อหลังจะไม่ล็อค ไม่ทำให้การควบคุมรถเสียไป ทำให้การทรงตัวได้ดี ผ่านกับระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลังช่วยให้เบรกปลอดภัยยิ่งขึ้น ช่วงการขับขี่ในเมืองเราได้รู้สึกเห็นถึงการทำงานของระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ หลายๆช่วงที่เจอการติดสัญญาณไฟแดงนานๆจะเกิดความร้อนสะสม แต่พอรถวิ่งลมเจ้าปะทะในหม้อ ผสานกับคีบที่ผ่านการออกแบบดีไซน์ผ่านแฟริ่งช่วยระบายความร้อนของหม้อน้ำและเครื่องยนต์ออกอย่างรวดเร็ว ทำให้รถมีเสถียรภาพในการขับขี่ได้ตลอดเวลา ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน ทั้งการขี่ขี่ในเมืองรวมถึงการขับขี่ทางไกล
 
ตลอด 3 วันของการทดสอบ ต้องยอมรับในสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ในสไตล์สปอร์ตโมเพ็คคันนี้ ที่เพียบพร้อมทั้งความแรงที่ดุดัน ความคล่องตัวในยามขับขี่ ให้ความเร้าใจและสะใจให้กับผู้ขับขี่ให้สนุกไปกันคันเร่ง สนุกไปกับเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามา กับค่าตัวอยู่ที่ 68,000 บาท ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา ผู้ที่ชอบรถมีเกียร์ที่มีง่าย ให้ความสนุก มีความแรง ต้องคันนี้เลย ออล นิว ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 155

















UIP : 942 | Page View : 1,989