FINN Mr.POSTMAN งานส่งพัสดุไปรษณีย์ กับรถยามาฮ่า ฟินน์ ที่ผ่านการใช้งานมากกว่า 5 หมื่นกว่ากิโล

ในตลอดสองเดือนที่ผ่านมาเราได้เกาะติดชีวิตผู้ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ ทั้งที่เป็นพนักงานส่งอาหาร Food Delivery หรือ ผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์ รวมถึงผู้ใช้รถที่มีอาชีพที่หลากหลาย และอีกหนึ่งสายอาชีพที่ใช้ชีวิตอยู่บนถนน ทำหน้าที่นำส่งจดหมาย พัสดุ จากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่งที่อยู่ห่างไกล ทำหน้าที่รับใช้ประชาชน นั่นก็คือ “บุรุษไปรษณีย์” ซึ่งในโอกาสนี้เราได้รับอนุญาตจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดในการเข้าไปสัมภาษณ์พูดคุยพร้อมจัดทำสกู๊ปมานำเสนอให้ผู้อ่านได้ทราบกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ สำนักงานไปรษณีย์มีนบุรี มา ณ โอกาสนี้
 
สำหรับ FINN Mr.POSTMAN ที่เราได้นำเสนอในครั้งนี้ เป็นบุรุษไปรษณีย์ที่เลือกใช้ “ยามาฮ่า ฟินน์” รถครอบครัวพรีเมียมโฉมใหม่ 4 จังหวะ 115 ซีซี คือ “นายยุทธพล จิตระจินดา” หรือ “นุ๊ก” ที่ทำงานในตำแหน่ง ลูกจ้างรายวันพนักงานนำจ่ายEMS มาให้สัมภาษณ์ ทั้งได้กล่าวถึงความรู้สึกในการทำงานที่ไปรษณีย์ไทย การใช้ชีวิตขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ขับขี่ส่งจดหมายหรือพัสดุต่างๆให้กับลูกค้าประชาชน ส่งความสุขถึงหน้าประตูบ้านด้วยมือตนเอง โดย “ยุทธพล หรือ นุ๊ก” ได้เล่าให้เราฟังถึงการมาทำงานที่สำนักงานไปรษณีย์มีนบุรีว่า “ช่วงนั้นกำลังหางานอยู่และเจอกับคนรู้จักที่ทำงานไปรษณีย์ ผมก็เลยมาสมัครงานและก็ได้ทำงานที่นี่ ผมทำงานมาแล้วเป็นปีที่สอง มีความประทับใจตรงที่ผมได้รับสวัสดิการที่ดีจากทางไปรษณีย์ ทั้งได้ดูแลครอบครัวและมองถึงบั้นปลายชีวิตที่จะสามารถดูแลเราได้” นี่คือหนึ่งความประทับใจของหนุ่มไปรษณีย์ที่ตัดสินใจเข้ามาทำงาน

















แน่นอนว่าก่อนที่จะมียามาฮ่า ฟินน์ มาเป็นยานพาหนะในการใช้งานนั้น “นุ๊ก Mr.Postman” ได้กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ผมใช้รถออโตเมติกยี่ห้อนึงมาก่อน ส่วนตัวผมไม่เคยขี่ยามาฮ่ามาก่อน แต่พอได้ลองขี่ยามาฮ่าแล้วรู้สึกว่า หนึ่งปีกว่าที่ผมขี่ฟินน์มารวมได้ระยะ 53,426 กม. ถ้าเทียบกันกับอีกค่ายก็คือเครื่องพังไปแล้วครับ” สำหรับการใช้งานในแต่ละวันกับการทำงานในสำนักงานไปรษณีย์มีนบุรีนั้น “นุ๊ก Mr.Postman” ได้บอกถึงการเริ่มต้นในแต่ละวันไว้ว่า “ในแต่ละวันผมเข้างานประมาณ 8.40 น.เมื่อมาถึงก็จะไปรับงานจากคนเตรียมงาน จากนั้นก็นำงานมาเรียงตามจ่าหน้าก่อนที่จะเอางานมาลงกระเป๋า จากนั้นก็นำจ่ายไปตามบ้าน ซึ่งงานผมเป็นงานแบบEMS และ ไม่EMS รวมๆกันครับ และมาสิ้นสุดการทำงานก็ประมาณ 16.30 น. วันๆนึงชีวิตบุรุษไปรษณีย์แบบผมจะมีงานส่งอยู่ประมาณ 150 หลัง ระยะทางประมาณ 120 กม. เส้นทางที่ผมขี่ก็มีทั้งทางปกติไปจนถึงทางลูกรังชนบท เรียกว่าเส้นทางที่ผมไปสภาพถนนค่อนข้างลำบาก แต่เราก็ไปส่งให้ถึงบ้านลูกค้า ซึ่งต้องยอมรับว่า ยามาฮ่า ฟินน์ ของผมคันนี้มันลุยดี”
 
“นุ๊ก Mr.Postman” ได้เล่าให้ฟังว่าทำไมถึงเลือกรถครอบครัวสไตล์พรีเมียม 115 ซีซี 4 จังหวะ ยามาฮ่า ฟินน์ เป็นรถคู่กายในการทำงาน “เวลาผมทำงานด้านท้ายก็จะมีพัสดุไปด้วย ต้องยอมรับว่า ยามาฮ่า ฟินน์ คันนี้มีกำลังมีทอร์คมหาศาลคือบิดมาบิดมาตลอด การทรงตัวก็โอเคนะ เวลาขี่เร็วๆเวลาเข้าโค้งโช้คก็จะนิ่ม...ตลอดหนึ่งปีกว่าๆที่ขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ผมว่ารถรุ่นนี้มีทอร์ค มีกำลังในรอบต้นในการออกตัวที่ดี อีกทั้งผมว่ารถยามาฮ่า ฟินน์คันนี้เครื่องยนต์มันทนดีนะ ส่วนชุดสีก็โอเคนะเพราะผมขี่แบบลุยๆนะ ผมว่ารถตัวนี้ก็ประหยัดนะ ไม่จุกจิก ปกติผมจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 15 วันเพราะรถผมใช้งานหนัก ปกติถ้าใช้งานหนักขนาดนี้ ถ้าบำรุงรักษาไม่ดี รถก็จะพังแล้ว แต่สำหรับฟินน์แล้วก็ยังขี่อยู่ ปัจจุบันผมใช้แก๊สโซฮอล์ 95  แต่ผมก็เคยใช้ทั้ง แก๊สโซฮอล์ E20 และ เคยใช้ แก๊สโซฮอล์ E85 ด้วยนะ และดีด้วย ไม่มีสะดุดแต่ด้วยคุณสมบัติE85 มันทำให้ต้องเข้าปั้มเร็วกว่าที่ควร ผมเลยใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ซึ่งปกติน้ำมันหนึ่งถังผมวิ่งอยู่ประมาณ 170 กิโลเมตรซึ่งผมจะขี่แบบบิดคันเร่งเพื่อทำเวลา ก็คือว่าคุ้มนะครับ วิ่งงานทั้งวันรวมทำโอทีด้วยก็คุ้ม ผมเติมประมาณ 80-90 บาท เรียกว่าขี่ตั้งแต่เช้ายันมืด พอตกขีดแดงผมก็จะวิ่งได้อีกประมาณ 30 กิโลเมตร


















 
หลังจากที่ใช้ยามาฮ่า ฟินน์ มาสักพักใหญ่ ก็มีเพื่อนร่วมงานสนใจรถรุ่นนี้ แน่นอนว่า “นุ๊ก Mr.Postman” ก็ได้ให้เพื่อนได้ลอง โดยกล่าวว่า “ผมมีโอกาสได้แนะนำให้เพื่อนร่วมงานได้ใช้ยามาฮ่า ฟินน์ ผมให้เพื่อนลองขี่ดูก่อนลองสัมผัสรถดูก่อน ซึ่งเขาก็โอเคได้ลอง ซึ่งเขาก็โอเคนะ”
 
ยามาฮ่า ฟินน์ มีฟีเจอร์เด่นๆที่ไม่เหมือนใครในรถครอบครัวในขนาดซีซีพอๆกัน นั้นก็คือ กล่องเก็บของด้านหน้า ซึ่งในจุดนี้ “นุ๊ก Mr.Postman” ได้กล่าวว่า “ยามาฮ่า ฟินน์ รุ่นนี้ผมชอบตรงที่มันมีที่เก็บของด้านหน้า มันใส่น้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตรได้นะครับผมลองมาแล้ว อีกทั้งผมยังใส่ของต่างๆเกี่ยวกับงานทั้งใบแจ้งใบตอบรับของการทำงานด้วยก็โอเคเลยครับสะดวกและใกล้มือดี และอีกจุดก็คือในส่วนของสวิทช์กุญแจ ผมชอบที่เวลาเปิดเบาะเราไม่ต้องดึงกุญแจออก เราแค่บิดสวิทช์ไปอีกล็อคนึงเราก็เปิดเบาะได้แล้ว”
 
จากนั้น “นุ๊ก Mr.Postman - ยุทธพล จิตระจินดา ก็ถึงเวลาออกไปทำงานส่งความสุขที่ผ่านมาจดหมายหรือพัสดุ ออกเดินทางจากสำนักงานไปรษณีย์มีนบุรีเดินไปในพื้นที่เพื่อแจกจ่ายงานต่างๆไปตามบ้านเรือนโดยมียามาฮ่า ฟินน์ เป็นเพื่อนร่วมงาน ได้ทำงานที่ตนเองรักอย่างมีความสุข ยามาฮ่า ฟินน์ รถครอบครัวที่คุ้มที่สุดในยุคนี้

















UIP : 1,390 | Page View : 1,884