หลังจากทดสอบความคล่องตัวในเมืองของ All New YAMAHA NMAX กันไปแล้ว มาในวันนี้เรามีแผนการขับขี่การเดินทางไกลผสมกับการขับขี่ในเมืองเพิ่มเข้าไปพร้อมกับถ่ายภาพVDO ตามประกบไปตลอดทาง(ตามคลิปในยูทูปที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ และสามารถติดตามได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=_efa4R9rMrQ )โดยการก่อนขับขี่เราจัดการเติมน้ำมันเต็มถังอีกครั้ง โดยพร้อมเช็คสภาพลมยางโดยAll New YAMAHA NMAX มีล้อหน้า-หลังขนาด 13 นิ้ว ขนาดยางหน้า 110/70 ยางหลังขนาด 130/70 โดยลมยางตามสเปคยางหน้าเติม 22 ปอนด์ และยางหลังเติม 36 ปอนด์ จากนั้นก็ออกเดินทางโดยช่วงแรกขี่เข้าเมืองไปยังถนนรามคำแหงซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า มีการทำรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่วนด้านบนถนนบางส่วนมีการตัดปะและความส่วนก็มีการชำรุด ทำให้เราได้ซึบซับระบบกันสะเทือนทั้งด้านหน้าและด้านหลังอีกหน โดยAll New YAMAHA NMAX นี้ได้มีการปรับเซ็ทโช้คอัพหน้าและหลังใหม่ โช้คอัพหน้าใหม่ แกนโช้คหน้าขนาด 30 มม. ส่วนโช้คอัพหลังคู่ออกแบบใหม่มีการปรับความยาวของสปริงใหม่ ให้มีเสถียรภาพดีขึ้นให้ความนุ่มนวลที่ดีขึ้น เรามุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอีกหน ก่อนเลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธิน วิ่งยาวๆผ่านการจราจราที่หนาแน่นเป็นบางช่วง All New YAMAHA NMAX ให้ความคล่องตัวซิกแซกได้สนุก ทั้งอัตราเร่งในรอบต้นที่ถือว่ายามาฮ่าจัดมาให้ใหม่ เครื่องยนต์ Blue Core เจนใหม่ที่มาพร้อมกับกำลังอัดใหม่ 11.6 : 1 ทำให้อัตราเร่งจัดจ้านขึ้นอีกทั้งได้มีการออกแบบกรองอากาศใหม่ขนาด 4.3 ลิตร เพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ดีขึ้นยังผลต่ออัตราเร่งที่ดีขึ้นด้วย
 


















เราสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการลัดเลาะผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุโมงค์บางเขน สะพานใหม่จนมาถึงปากทางรังสิต เลี้ยวเข้าถนนรังสิต-นครนายก เวลาล่วงเลยไปถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ การขับขี่ยังไม่มีวี่แววว่าจะเหนื่อยและไม่เมื่อย ทั้งนี้เพราะมีการปรับมุมคาสเตอร์ใหม่ เป็น 26.5 องศา ระยะเทรล 100 มม. ระยะห่างระหว่างล้อหน้า-ล้อหลังใหม่ 1,340 มม. ทำให้ท่านั่งในการขับขี่สบายขึ้นทั้งเบาะนั่งมีการปรับความกว้างให้พอดีขึ้น แต่ต้องแวะเพราะร่างกายต้องการน้ำจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุ เลยจำเป็นต้องแวะปั้มน้ำมัน เราจอดรถเอาขาตั้งข้างลงรถก็ดับอัตโนมัติทันที จากนั้นก็ลงเดินไปซื้อน้ำ ทันทีที่เดินออกไปเพียง 2-3 ก้าวก็ได้ยินเสียง ปี๊ป ปี๊ป ปี๊ป ดังขึ้นก็เลยรู้ตัวว่าลืมปิดสวิทช์เครื่องยนต์ ซึ่งก็ดีที่รุ่นนี้มีระบบสัญญาณเสียงไว้เตือนด้วย ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในระบบความปลอดภัยของรถมากขึ้น
 
หลังพักเติมพลังให้กับคนขี่แล้วก็ได้เวลาลุยต่อ จากแถวๆธัญบุรีเราเร่งจังหวะการขับขี่ให้เร็วขึ้นจนผ่านคลองเก้าสภาพการจราจรเริ่มลื่นไหล เราเร่งจังหวะการขับขี่ All New YAMAHA NMAX ให้เร็วขึ้นและลองสังเกตการทำงานของระบบวาล์ว VVA เมื่อออกจากไฟแดงลองเร่งความเร็วแบบเปิดคันเร่งหมด รถพุ่งทะยานขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนรู้สึกได้ว่าเลยว่าเร็วกว่าNMAXรุ่นแรก รวมถึงการทำงานของระบบVVA หรือวาล์วแปรผันทำงานทันทีที่ความเร็วแตะที่ประมาณ 50 กม./ชม.โดยสังเกตได้ที่บริเวณแผงหน้าปัดที่มีสัญลักษณ์รูปVVA ขึ้นมา รวมถึงลองวิ่งแบบช้าๆค่อยๆเติมความเร็วไปเรื่อยๆจนถึงความเร็วประมาณ 65 กม./ชม. สัญลักษณ์รูปVVA ปรากฏขึ้นมา และลองวิ่งความเร็วประมาณ 40 กม./ชม. แล้วเปิดคันเร่งหมดรถจะพุ่งเร็วขึ้นพร้อมระบบ VVA1 จะทำงานในความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. รวมถึงการลองวิ่งยืนระยะความเร็วอยู่ที่ 80-90 กม./ชม. แล้วบิดคันเร่งหมดปลอกรถจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วระบบ VVA ที่พร้อมทำงานอยู่แล้วก็เติมความเร็วขึ้นมาได้ทันที โดยในการทดสอบในครั้งนี้เราหาความเร็วท็อปสปีดอยู่ที่  120 กม./ชม.(กับน้ำหนักคนขี่ราว 77-78 กิโลกรัม ส่วนน้องทีมงานอีกคนที่น้ำหนัก 60-61 กิโลกรัม สามารถทำความเร็วท็อปสปีดได้ที่ 126 กม./ชม. โดยเราทดลองการขับขี่ในหลายๆรูปแบบมาจนถึงเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งก่อนถึงเขื่อนขุนด่าน มีโค้งให้ได้เล่นอยู่หลายโค้งเลยถือเป็นการทดสอบการยึดเกาะและการทรงตัวในโค้งที่มีความเร็วสูง ALL New YAMAHA NMAX ให้การยึดเกาะโค้งได้ดีมาก โดยเฉพาะด้านหน้ามีการยึดเกาะไปกับถนนและโค้งได้ดีกว่ารุ่นแรก จนทำให้คนขี่รู้สึกสนุกไปกับการเล่นโค้งไปด้วยทั้งนี้เป็นเพราะการออกแบบจุดยึดแท่นเครื่องยนต์ออกแบบใหม่เป็นการยึดจากทางด้านใต้เครื่องที่ผสมผสานกับมุมคาสเตอร์และระยะเทรลใหม่ที่ช่วยให้รถมีเสถียรภาพที่ดีขึ้นในการเข้าโค้ง เรามาถึงเขื่อนขุนด่านราวๆ 11 โมงครึ่งก่อนที่จะยืนชมวิวใน ณ วันที่สถานที่ยังคงปิดอยู่ จึงย้ายจุดถ่ายภาพมาตรงแถวน้ำตกนางรองซึ่งพอมีริมข้างทางที่มีต้นไม้ไว้พักหลบแดด พร้อมรับประทานอาหารกันแบบชิลๆในยุคโควิช-19 ระบาด คือกินข้าวกล่องริมถนน จากนั้นก็จัดการถ่ายภาพเก็บรายละเอียดพร้อมจัดทำคลิปการทดสอบให้เสร็จสิ้น




















 
ขากลับก่อนถึงตัวเมืองนครนายกเราแวะเติมความสดชื่นกับกาแฟเย็นๆที่ยังคงยืนจิบอยู่ภายในปั้มน้ำมันท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ จากนั้นก็ลากยาวๆกับการขับขี่ All New YAMAHA NMAX จนมาถึงประมาณคลองสิบ แผงหน้าปัดรถก็มีการแจ้งถึงสถานะการเติมน้ำมัน ซึ่งในช่วงนั้นเราขับขี่มาจนได้ระยะทาง 230 กม.(ซึ่งหลังการทดสอบได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ของยามาฮ่าได้ทราบว่า ถ้าไฟสัญญาณเตือนน้ำมันหมายความว่า เราใช้น้ำมันไปแล้วประมาณ 5.6 ลิตร เหลือในถังอีกประมาณ 1.5 ลิตรจากความจุ 7.1 ลิตร) จากนั้นก็วิ่งต่อลากยากมาเลี้ยวซ้ายที่แยกคลองแปด มุ่งหน้าถนนนิมิตใหม่ ผ่านแยกมีนบุรีเข้าสู่ถนนเสรีไทย แวะเติมน้ำมันที่ปั้มปตท. รวมระยะทาง 280 กม. เติมน้ำมันเต็มถังไปเกือบ 7 ลิตรโดยรุ่นใหม่นี้มีความจุอยู่ที่ 7.1 ลิตร ให้อัตราเฉลี่ยการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามการวัดที่ขึ้นที่แผงหน้าปัดอยู่ที่ 40.5 กม./ลิตร
 
ภาพโดยรวมของการทดสอบ All New YAMAHA NMAX ทั้งสองทริปนี้ ต้องยอมรับว่า ยามาฮ่าสร้างรถคันนี้ขึ้นมาใหม่ทั้งคัน ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้ง่ายขึ้นสะดวก นอกจากนี้ All New YAMAHA NMAX ยังเพิ่มกล่องเก็บของด้านหน้าที่มีสองข้าง ข้างซ้ายใหญ่ขึ้น พร้อม ACC Socket Charger อุปกรณ์ชาร์จไฟขนาด 12V สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์นำทางในขณะเดินทาง ส่วนข้างขวาก็มีกล่องเก็บของแบบมีฝาปิดด้วย ใส่สมาร์ทโฟนไซค์ 7 นิ้วสบาย ตัวนี้ยังมีระบบไฟสัญญาณฉุกเฉิน Hazard Lamp เพื่อความปลอดภัยให้มากขึ้น รวมถึงกล่องเก็บของใต้เบาะใหม่ มีขนาดใหญ่ สามารถใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ เมื่อเทียบความคุ้มค่าคุ้มราคากับ All New YAMAHA NMAX ที่เปิดราคาไว้ที่ 85,900 บาทนั้นถือว่าคุ้มค่ามากกับความใหม่หมดทั้งคันของรถคันนี้ ที่จะเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้ที่ต้องการเติมเต็มความเป็นสปอร์ตทั้งในย่านความเร็ว มารวมกับความเป็นรถออโมเมติกที่หรูหราของเรือนร่างใหม่ ที่พร้อมให้ผู้ใช้ได้สัมผัสที่ร้านผู้แทนจำหน่ายยามาฮ่าทั่วประเทศ