หลังจากที่ยามาฮ่าได้เปิดตัว ยามาฮ่า ฟินน์ สีใหม่ ที่มาพร้อมระบบเบรกใหม่ UBS (UNIFIED BRAKE SYSTEM*)เมื่อคราวที่ยามาฮ่าแถลงนโยบายปี2020ไปในช่วงต้นปี พร้อมทั้งยังได้วางตลาดยามาฮ่า ฟินน์ สีใหม่ในทันที โดยนอกจากจะเพิ่มระบบเบรกใหม่ UBS แล้ว เพื่อความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น ยามาฮ่ามอบความฟินน์ ด้วยการรับประกันนานถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับผู้ซื้อยามาฮ่า ฟินน์ในระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นี้ โดยล่าสุดทีมงานจักรยานยนต์เวิร์ลด์ได้รถยามาฮ่า ฟินน์ ในเวอร์ชั่นระบบเบรก UBS มาทำการทดสอบ โดยเรานำยามาฮ่า ฟินน์ขับขี่เที่ยวทั่วไทย บิดไหว้พระที่เมืองเก่าอยุธยา
 
จากกิจกรรมการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ เที่ยวทั่วไทย ที่นำสื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์และลูกค้ายามาฮ่าในพื้นที่ของแต่ละจังหวัดขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ บิดเที่ยวในจังหวัดต่างๆซึ่งที่ผ่านมาผ่านการขับขี่ไปแล้วมากกว่าสิบกว่าจังหวัด ซึ่งทำให้เกิดกระแสการตอบรับยามาฮ่าฟินน์ในพื้นที่ต่างๆมากขึ้น รวมทั้งกิจกรรมการทดสอบประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด “ฟินน์ กล้าท้าประหยัด รอบสื่อมวลชน” นำสื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์ถึง 20 สำนักขับขี่ยามาฮ่าฟินน์ จากเซียร์รังสิตสู่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.อยุธยา รวมระยะทางการขับขี่ 58 กม. ใช้น้ำมันเพียง 599 ซีซี หรือ 96.16 กม.ต่อลิตร ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวกับการขับขี่ทดสอบจริงบนถนน อีกทั้งยามาฮ่ายังได้จัดกิจกรรม “ฟินน์กล้า ท้าประหยัด รอบผู้แทนจำหน่าย” โดยนำตัวแทนผู้จำหน่ายมาทดสอบขับขี่แบบประหยัดน้ำมันด้วยตนเองเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้การขับขี่แบบประหยัดน้ำมันให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อรถยามาฮ่าที่ศูนย์จำหน่าย รวมทั้งกิจกรรม ฟินน์เฟส ที่จัดขึ้นตามอำเภอ-ตำบลต่างๆเพื่อเผยแพร่ยามาฮ่า ฟินน์ ลงสู่พื้นที่และกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ยามาฮ่า ฟินน์ เป็นที่รู้จักของผู้ใช้รถจักรยานยนต์มากขึ้นจนมียอดขายในปี2019 สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2018

ล่าสุดในปี2020 ยามาฮ่าฟินน์ มาพร้อมกับความฟินน์ใหม่ของรถครอบครัวระดับพรีเมี่ยม กับสีสันใหม่ สไตล์ ฟินน์ ที่มาพร้อมกับ ระบบเบรก UNIFIED BRAKE SYSTEM (UBS) กระจายแรงเบรกเพื่อเพิ่มความปลอดภัย (*เฉพาะรุ่น UBS) ) ซึ่งเป็นครั้งแรกในรถครอบครัวของเมืองไทย และ ครั้งแรกของโลก!ที่ยามาฮ่ามอบให้เพื่อความฟินน์ ด้วยการรับประกันนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร...นอกจากนี้ยามาฮ่ายังได้จัดแคมเปญ “ฟินน์เต็ม 5 โปรไม่จำกัดกิโล สำหรับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 รับโปรสุดพิเศษ รับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ ซึ่งทางทีมงานจักรยานยนต์เวิร์ลด์ได้นำยามาฮ่า ฟินน์ สีใหม่ มาขับขี่ท่องเที่ยวในรูปแบบ “ฟินน์เที่ยวทั่วไทย” พร้อมทดสอบสมรรถนะของระบบเบรกแบบ UBS อีกด้วย




















 


เราเริ่มการขับขี่ “ฟินน์เที่ยวทั่วไทย”กันที่สำนักงานจักรยานยนต์เวิร์ลด์ ขับขี่ไปในเส้นทางถนนประเสริฐมนูกิจสู่ถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงนี้สภาพการจราจรค่อนข้างติดขัด เราใช้ความเร็วในรูปแบบสบายๆด้วยความหลากหลายของสภาพการจราจรที่มีทุกย่านความเร็ว การตอบรับระหว่างคันเร่งกับเกียร์วน 4 ระดับ สามารถตอบรับในทุกจังหวะได้ดี โดยสิ่งพิเศษก็คือ เมื่อจอดติดไฟแดงหรือในกรณีรถหยุดนิ่งแล้วอยู่ในตำแหน่งเกียร์ 4 เราสามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่างเพียงกดคันเร่งไปข้างหน้าเพียงครั้งเดียวก็เป็นเกียร์ว่างในทันที อีกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 115 ซีซี 4 จังหวะ ที่ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการใช้ระบบเบรกUBS ระบบการกระจายแรงเบรก เพียงเรากดเบรกหลังที่อยู่ในตำแหน่งเท้าขวา ระบบจะทำการการกระจายแรงเบรกโดยจะมีสายเคเบิ้ลไปดึงระบบเบรกหน้าที่ตำแหน่งแฮนด์ด้านขวาด้วยการตั้งค่าที่คำนึงถึงความปลอดภัยเพื่อไม่ให้เบรกหน้าล็อค ซึ่งการใช้เบรกUBS ในสภาพการจราจรแบบนี้ถือว่าระบบเบรกทำงานได้ดีมาก เราลัดเลาะผ่านสภาพการจราจรที่ตัดขัดสู่ถนนวิภาวดีรังสิต ผ่านดอนเมือง ผ่านฟิวเจอร์พาร์ค มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ ซึ่งช่วงนี้เราสามารถเร่งจังหวะความเร็วขยับขึ้นมาอยู่ที่ 80 กม./ชม. แต่บางช่วงเมื่อเจอสภาพการจราจรที่ติดขัดก็ต้องใช้ความเร็วลดลงตามสภาพการจราจร หลังผ่านมหาวิทยาลัยกรุงเทพไปเราสามารถเร่งจังหวะความเร็วของยามาฮ่าฟินน์ได้เร็วขึ้นจนผ่านแยกบางปะอิน เราสามารถเร่งความเร็วด้วยความเร็ว 100 กม./ชม.ไปจนถึงท็อปสปีดที่ 110 กม./ชม.ยามาฮ่าฟินน์ยังคงทรงตัวผ่านลมแรงๆด้วยความเร็วสูงในขนาดรถ 115 ซีซีได้อย่างนุ่มนวลและยอดเยี่ยม การยึดเกาะถนนที่ดี จนมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรามุ่งตรงสู่วัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งวัดใหญ่ชัยมงคลถือว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีเจดีย์ที่สูงที่สุดในจังหวัด มีวิหารพระนอน ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมกันมาเป็นจำนวนมาก  ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ามากราบไหว้ และมีสวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนซึ่งในวันที่เราไปถ่ายนั้นนักท่องเที่ยวมีจำนวนน้อย มีชาวยุโรปเข้ามาเที่ยวรวมถึงคนไทยจำนวนนึง

เราเดินทางกันต่อ ด้วยระบบกุญแจของยามาฮ่า ฟินน์ ที่เป็นแบบ Multi-function ที่สามารถควบคุมการใช้งานในจุดเดียว ทั้งล็อครถ ทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์ ทั้งเปิดเบาะ ในจุดเดียวซึ่งถือเป็นรถครอบครัวรุ่นเดียวที่มีระบบสวิตช์กุญแจแบบนี้ รวมถึงกล่องเป็นของด้านหน้า ที่เราสามารถใส่ขวดน้ำดื่มที่มีปริมาตร 600 ซีซีได้ไว้ติดรถและไว้ดื่มเวลาจอดพัก จุดต่อมาเป็นวัดพนัญเชิงวรวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นที่สักการะของคนไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างสูง รวมทั้งมีพระพุทธรูปทองและพระพุทธรูปนาคที่สวยงาม รวมทั้งด้านข้างจะมีตำหนักพระแม่สร้อยดอกหมากซึ่งเป็นเก๋งจีน สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนทั้งหลังที่สวยงามและเป็นที่สักการะ

ขับขี่เที่ยวกันต่อ ยามาฮ่า ฟินน์ มีเครื่องยนต์ขนาด 115 ซีซี 4 จังหวะ เกียร์วน 4 จังหวะไปด้วยความเร็วแบบสบายที่ประมาณ 40-50 กม./ชม. วิ่งข้ามสะพานปรีดี-ธำรงสู่ตัวเมืองอยุธยา โดยเรามุ่งหน้าผ่านเพนียดคล้องช้างตรงไปข้ามคูเมือง มุ่งสู่วัดโลกยสุธาราม วัดที่ถูกยกให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง จุดเด่นที่สำคัญของวัดนี้คือพระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอยุธยา ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ก่ออิฐถือปูน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร พระเศียรหันไปทางทิศเหนือ พระพักตร์หันไปทางทิศตะวันตก พระบาทหันไปทางทิศใต้ ด้านหลังเป็นทิศตะวันออก ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน มีดอกบัวเกยซ้อนรองรับพระเศียรแทนพระเขนย ซึ่งเราได้สักการะ ก่อนที่จะเดินทางต่อซึ่งก็ใกล้เวลาเที่ยงเลยแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านบุษาคาเฟ่ ร้านคาเฟ่สไตล์โมเดิร์นติดแอร์พร้อมอาหารสไตล์ฟิวชั่น พร้อมเค้กและกาแฟที่หลากหลาย
 
























หลังอิ่มกับอาหารอร่อยและพักคลายร้อนแล้ว ก็เดินทางกันต่อแบบFINN FINN ยามาฮ่า ฟินน์เป็นรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวสไตล์โมเดิร์ทที่มีดีไซน์ไฟหน้าสุดโมเดิร์นด้วยหลอดไฟหน้าแบบฮาโลเจน สว่างชัด ดีไซน์โฉบเฉี่ยวกลมกลืนกับแฟริ่ง และไฟท้ายสวยหรูสะดุดตาสว่างจัด ชัดเจนทั้งกลางวัน และกลางคืน เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้งด้วยการสตาร์ทแบบไฟฟ้าด้วยสวิตช์ด้านขวาที่อยู่ตรงแฮนด์ขวา เสียงเครื่องยนต์ดังแบบเบาๆ ก่อนที่จะเข้าเกียร์1 ก่อนที่จะกดลงเกียร์2-3-4 ด้วยความเร็ว 30-40 กม./ชม. แผงหน้าปัดที่ออกแบบได้ดีดูหรูหราแบบพรีเมี่ยม ตอบโจทย์การใช้งานทั้งเข็มวัดความเร็ว ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ไฟเลี้ยวซ้ายขวา ไฟสูง มาตรบอกระยะทาง มาตรวัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมไฟเตือนแบตเตอรี่และเครื่องยนต์ยามเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยแผงหน้าปัดมีดีไซน์และกราฟฟิคที่สวยงามดูทันสมัย มองเห็นง่ายและชัดเจน เราลัดเลาะมาถึงวัดแม่นางปลื้ม วัดที่มีซุ้มประตูศิลปะอยุธยาแบบโบราณและในโบสถ์มีพระพุทธรูปขาว หรือหลวงพ่อขาว เป็นพระประทานของวัดนี้ จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังวัดพระงาม วัดเก่าแก่ในสมัยต้นอยุธยา ซึ่งที่วัดแห่งนี้สิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ ซุ้มประตู ที่ถูกรากของต้นโพธิ์ปกคลุมมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี ได้รับการขนานว่า ‘ประตูแห่งกาลเวลา’ ถือเป็น Unseen Thailand ที่ดูลึกลับน่าค้นหา สวยงามและแฝงด้วยมนต์เสน่ห์เป็นอย่างมาก หลังชมความสวยงามของวัดและสถาปัตยกรรมพร้อมสิ่งมหัศจรรย์ของจังหวัดอยุธยากันมาพอสมควร ก็ได้เวลากลับก่อนกลับเราแวะไปที่ถนนอู่ทองหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นแหล่งของกินขึ้นชื่อในจังหวัดอยุธยาซึ่งก็คือ “โรตีสายไหม” ขนมหวานขึ้นชื่อประจำจังหวัด โดยตลอดการขับขี่ในจังหวัดอยุธยา เราได้ทดสอบการใช้เบรกแบบUBS ตลอดเวลา ซึ่งต้องยอมรับว่ายามาฮ่าได้มีการออกแบบการกระจายแรงเบรกได้สมดุลดีทั้งการกระจายการเบรกระหว่างเบรกหน้าและเบรกหลัง รถให้การเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพในการขับขี่ท่องเที่ยวในเมือง ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วไปที่ใช้ความเร็วในเมืองแบบไม่มากจนเกินไปซึ่งอยู่ที่ไม่เกิน 60 กม./ชม. ส่วนการขับขี่ที่ความเร็วสูงที่มากกว่า 80 กม./ชม.และมากกว่า ผู้ขับขี่จะต้องใช้เบรกหน้าที่แฮนด์ด้านขวาช่วยในการเบรกด้วยเพื่อความปลอดภัย จากนั้นก็เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯเดินทางเข้าสู่สำนักงานของนิตยสารเป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจ ฟินน์เที่ยวทั่วไทยในทริปนี้ และอย่าลืมนะครับในช่วงนี้ ยามาฮ่าจัดแคมเปญ “ฟินน์เต็ม 5 โปรไม่จำกัดกิโล สำหรับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 รับโปรสุดพิเศษ รับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
 
ยามาฮ่า ฟินน์ สีสันใหม่ สไตล์ ฟินน์ มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นคือ รุ่น UBS ราคา 47,000 บาท รุ่นล้อแม็ก / สตาร์ทมือไฟฟ้า ราคา 45,000 บาท รุ่น ล้อซี่ลวด / สตาร์ทมือ ราคา 43,500 บาท และรุ่น ล้อซี่ลวด / สตาร์ทเท้า ราคา 40,900 บาท พบกับยามาฮ่า ฟินน์ สีสันใหม่ สไตล์ ฟินน์ ได้แล้วที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ