เผย 20 จุดเด่น ยามาฮ่า แอร็อกซ์155 พร้อมราคาจำหน่าย

หลังจากยามาฮ่ามอเตอร์ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการเปิดตัว ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 ที่สนามเซปังเซอร์กิตประเทศมาเลเซีย พร้อมเชิญยอดนักแข่งทีมมูวี่สตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี วาเลนติโน่ รอสซี่ มาร่วมเปิดผ้าคลุมรถไปแล้วนั้น ล่าสุดบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัดได้ทำการเปิดตัว ยามาฮ่า แอร็อกซ์155  อย่างเป็นทางการที่งานแสดงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ Motor Expo2016 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 ที่ได้รับความสนใจจากผู้ติดตามข่าวสารมาตลอดหนึ่งเดือนนั้น วันนี้ก็พร้อมแล้วสำหรับการเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ โดยยามาฮ่าได้ทำการเปิดจองยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 ในงาน Motor Expo 2016 ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อให้สมกับการรอคอย….


 
วันนี้เราได้มีโอกาสมาทำความรู้จักยามาฮ่า แอร็อกซ์155 มากขึ้น เรายังได้นำจุดเด่นต่างๆของยามาฮ่าแอร็อกซ์ 155 มาฝากท่านผู้อ่านด้วยเช่นกัน ติดตามกันได้เลยครับ

หลังจากสัมผัสและรู้จักยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 อย่างละเอียดแล้ว เราก็ได้ 20 จุดเด่นของรถรุ่นนี้ จุดเด่นแรกของรถยามาฮ่าแอร็อกซ์ 155 นี้เมื่อมองรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ต้องบอกว่านี่แหละของใหม่ รูปทรงออกแบบใหม่ทั้งคัน มีกลิ่นอายความเป็นรถสปอร์ตออโตเมติก  ที่เหล่าทีมวิศวกรของยามาฮ่าได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ พร้อมดีไซน์รูปทรงให้โฉบเฉี่ยวโดนใจทุกสายตา นำความเป็นรถสปอร์ตมาใส่ในรถที่เป็นเครื่องยนต์แบบออโตเมติก ทั้งยังคำนึงถึงรูปแบบการขับขี่ให้สมดุล เมื่อมองจากด้านข้างของตัวรถจะเป็นรูปตัว X โดยวางรูปแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงให้อยู่ตรงจุดกึ่งกลางของรถ เพื่อให้การขับขี่ที่ดีและสนุกสนานมากขึ้น



จุดเด่นที่ 2 ยามาฮ่า แอร็อกซ์ มีการออกแบบองค์ประกอบของตัวรถให้มีความสมดุลและสมบูรณ์แบบในการใช้งานและสอดคล้องกับหลักแอร์โรไดนามิค ด้วยการตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก ให้มีส่วนของตัวรถให้เป็นรูปทรงมากขึ้น



จุดเด่นที่ 3 ทีมวิศวกรของยามาฮ่า ออกแบบชิ้นส่วนของแฟริ่งยามาฮ่า แอร็อกซ์ ให้เป็นลักษณะเส้นสาย ซึ่งให้ความรู้สึกของความเป็นรถสปอร์ต ด้วยรูปทรงและมิติของรถรุ่นนี้ มีความกว้าง 700 มม. ความยาว 1,990 มม. ความสูง 1,125 มม. ระยะความสูงจากพื้นถึงเบาะ 790 มม.



จุดเด่นที่ 4 นอกจากนี้ยังดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ ไฟหน้าคู่ ส่องสว่างชัดเจนด้วยหลอดไฟแบบ Full LED ไฟต่ำ 2 ดวง ไฟสูง 2 ดวง ส่วนไฟท้ายวางหลอดไฟ LED ถึง 12 ดวง พร้อมสว่างวาบครบทุกดวงเมื่อยามใช้เบรก





5. หน้าปัดเรือนไมล์ Full DIGITAL METER 5.8 นิ้ว เป็นแบบดิจิตอล Full Negative LCD ที่โชว์ความเป็นรถสไตล์สปอร์ตแบบเต็มภาคภูมิ ให้ผู้ขับขี่มองเห็นเด่นชัดแบบเต็มตาด้วยแผงหน้าปัดขนาดใหญ่ถึง5.8 นิ้ว มองเห็นได้ชัดเจนในทุกมิติการขับขี่ พร้อมมาตรวัดต่างๆแบบครบครัน ทั้งมาตรวัดรอบเครื่องยนต์, มาตรวัดความเร็วหน่วยเป็นกม./ชม. เป็นแบบดิจิตอลตัวเลขขนาดใหญ่ ด้านซ้ายของเรือนไมล์เป็นแถบวัดปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง ด้านขวาติดตั้งนาฬิกาแบบดิจิตอล ด้านล่างจะเป็นมาตรวัดแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมไว้เปลี่ยนโหมดการแสดงค่า ทั้งมาตรวัดระยะทางรวม มาตรวัดระยะทาง มาตรวัดอัตราการสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิง หน่วยเป็นกม./ลิตรและหน่วยเป็นลิตรต่อ100 กม. มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย  มาตรวัดโวลต์แบตตอรี่ พร้อมติดตั้งสัญญาณไฟเตือนต่างๆไว้ครบครันไม่ว่าจะเป็นไฟแสดงการทำงานของระบบ VVA ไฟแสดงการทำงานของระบบสมาร์ทคีย์(เฉพาะรุ่น) ไฟเตือน ABS  ไฟเตือนเครื่องยนต์ ไฟเตือนความร้อนของเครื่องยนต์(ไฟสีแดง) ไฟแสดงรูปตัว A จะเป็นไฟแสดงการทำงานของระบบ Stop&Start System (ไฟสีฟ้า)



6. ออกแบบยางให้มีขนาดใหญ่ เพื่อสื่อถึงความแข็งแกร่งและเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วยล้อแม็กขนาด 2.5 นิ้ว ยางหน้าขนาด 110/80-14 ล้อแม็กหลังขนาด 3.5นิ้ว ยางหลังขนาด 140/70-14 ให้ผู้ขับขี่มั่นใจไปกับสมรรถนะของการขับขี่ทุกความเร็วและทุกเส้นทาง



7. ระบบกุญแจอัจฉริยะ สมาร์ทคีย์ (ซึ่งมีเฉพาะในรุ่นABSเวอร์ชั่น) เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงแค่นำกุญแจเข้าไปใกล้รถก็สามารถทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้แล้ว นอกจากนี้กุญแจอัจฉริยะสมาร์ทคีย์ ยังสามารถเรียกหาตำแหน่งของรถ


 
8.สวิตช์กุญแจ หลักการทำงานหลักๆก็จะคล้ายๆกันทั้งในระบบกุญแจปกติและกุญแจแบบที่ใช้คู่กับสมาร์ทคีย์ซึ่งถูกออกแบบให้มีความสวยงามสไตล์รถสปอร์ต สวิตช์กุญแจออกแบบให้ง่ายต่อการใช้ง่าย พร้อมปุ่มเปิดที่เติมน้ำมันและปุ่มเปิดเบาะ ตำแหน่งล็อคคอรถ ตำแหน่ง Open เพื่อไว้ใช้เปิดฝาถังน้ำมันและเปิดเบาะ ตำแหน่ง On ไว้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์





9. ระบบ stop & Star System เป็นระบบใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การใช้งาน ระบบการหยุดการทำงานชั่วคราวในขณะรถหยุด โดยในยามาฮ่า แอร็อกซ์155 รุ่นABSเวอร์ชั่น เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิ 50 องศา หรือเมื่อมีการอุ่นเครื่องยนต์ไปในระยะนึง และรถวิ่งที่ความเร็วสูงกว่า 10 กม./ ชม. ใช้ไประยะนึงด้วยเมื่อทำการจอดรถเมื่อเราใช้ความเร็วมากกว่า 30 กม./ชม. แล้วจอดในทันที ที่เรือนไมล์จะปรากฏไฟสัญญาณตัวA ขึ้นมานั้นหมายความว่าระบบ Stop & Start System พร้อมทำงาน เมื่อจอดรถรถจะดับอัตโนมัติใน 0.1 วินาทีหรือในทันทีที่เราจอดรถ และเมื่อบิดคันเร่งแค่0.4 องศา รถก็จะทำการสตาร์ทในทันทีและรถก็จะเคลื่อนตัวออกไป และถ้าขับขี่ไปด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. แล้วเราทำการจอดรถ ระบบจะทำการนับ 5 วินาที แล้วเครื่องยนต์จะดับลงอัตโนมัติ และเมื่อบิดคันเร่งรถก็จะเคลื่อนตัวในทันที



10.ยามาฮ่า แอร็อกซ์155 เป็นรถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BLUE CORE 4 จังหวะ 155 ซีซี SOHC 4วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีกระบอกสูบไดอะซิล ระบบสั่งจากน้ำมันแบบหัวฉีด ที่จะร่วมกันทำงานให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม การันตีด้วยยอดจำหน่ายเครื่องยนต์ไปแล้วถึง 1.5ล้านเครื่องนับตั้งแต่ปี2014 จนถึงเดือนสิงหาคม2016


 
11. ขนาดกระบอกสูบ 58 มม. ความกว้าง 58.7 มม. ทั้งนี้ยามาฮ่าแอร็อกซ์ได้ติดตั้งหม้อน้ำและพัดลมระบายความร้อนที่มีขนาดกะทัดรัด เพื่อให้ได้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้น ยามาฮ่าได้ติดตั้งรังผึ้งและพัดลมขนาดเล็กที่ด้านข้างของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังติดตั้งเทอร์โมสตัทพร้อมกับวาล์วบายพาส ทำให้ระยะเวลาในการอุ่นเครื่องสั้นและทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น


 
12. กรองอากาศขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของอากาศที่ไหลเข้าเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างราบรื่น



13. ระบบวาล์วแปรผัน หรือ VVA ที่ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้นในย่านความเร็วกลางถึงปลาย โดยระบบ VVA นั้นจะทำงานที่รอบความเร็ว 6,000 รอบ พร้อมมีสัญญาณไฟรูปตัว A ขึ้นที่หน้าปัด เพื่อแสดงให้เห็นว่าระบบ VVA กำลังทำงาน
 


14. ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 รุ่นนี้มีการติดตั้งระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ที่เรียกว่า Smart Motor Generator หรือ SMG เป็นระบบมอเตอร์ผลิตไฟแบบอัจฉริยะ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทได้เงียบ โดยให้กระแสไฟฟ้าผ่านชุดปั่นไฟ Generator ในทิศทางที่ตรงกันข้าม ทำให้เป็นทั้งมอเตอร์สตาร์ทและผลิตกระแสไฟในชุดเดียวกัน ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์มีความรวดเร็วขึ้น และไม่มีเสียงในการทำงานรบกวนในขณะทำการสตาร์ท
15. โช้คอัพหน้าขนาด 26 มม. โดยโช้คหน้าผ่านกรรมวิธีทางความร้อนเพื่อให้ได้ความแข็งแรงสูง ซึ่งช่วยให้มีน้ำหนักเบาและขับขี่ได้คล่องและให้ความรู้สึกทรงตัวดีเยี่ยม โช้คอัพหลังคู่ มีระยะยุบตัว 86 มม.และใช้สปริงที่มีความแข็ง 2 ระดับ ทำให้รองรับแรงสั่นสะเทือนได้นุ่มนวล โดยในรุ่น R Version นั้นจะเป็นโช้คอัพแบบซับแท็งก์



16. ช่องชาร์ตแบตแบบเดียวกับรถยนต์ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ที่ต้องการติดตามโลกโซเชียลตลอดเวลาสามารถชาร์ตไฟให้กับสมาร์ทโฟนของท่านได้ตามที่ใจต้องการ ด้วยช่องต่อชาร์ตแบตหรือไฟสำรอง พร้อมช่องเก็บของด้านหน้าที่ให้ความสะดวกสบาย
17. เบาะนั่งทรงสปอร์ต 2 ระดับพร้อมกล่องเก็บใต้เบาะMEGA BOX ที่มีความจุขนาด 25 ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้พร้อมสัมภาระอื่นๆแบบจุใจ






18. ยามาฮ่า แอร็อกซ์ มีระบบการหยุดรถโดยล้อหน้าเป็นระบบเบรกแบบดิสก์เบรก โดยในรุ่นตัวท็อปตัวเสริมด้วยระบบABS เข้าไปด้วย ส่วนล้อหลังเป็นระบบเบรกแบบดรัมเบรก



19. โครงรถเป็นเฟรมแบบอันเดอร์โบน ท่อโครงรถหลักเส้นผ่านศูนย์กลาง 60.5 มม. ขณะที่ท่อรองมีขนาด 45 มม. ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีการลดน้ำหนักที่ผ่านรายละเอียดแต่ละชิ้นงาน ทำให้ตัวโครงรถมีน้ำหนักเพียง 12.3 กิโลกรัม ซึ่งทำให้รถมีน้ำหนักเบา มีความแรง คงรูป ทำให้รู้สึกถึงการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ขับขี่ได้คล่องแคล่ว

จุดเด่นอันดับสุดท้าย  ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 มีให้เลือกถึง 3 เวอร์ชั่นด้วยกันคือ รุ่นเวอร์ชั่นสแตนดาร์ท รุ่นอาร์เวอร์ชั่น(มีจานดิสก์แต่งและโช้คอัพSub Tank) และรุ่นท็อปคือรุ่นABSเวอร์ชั่น (มีระบบระบบ stop & Star System และ สมาร์ทคีย์) ให้ผู้ใช้ได้เลือกเป็นเจ้าของตามความพึง
พอใจ โดยยามาฮ่า ได้เปิดราคาไว้ดังนี้ Standard Version : สีขาว และ สีแดง 

ราคาแนะนำ 63,900 บาท รุ่น R Version สีดำ-เหลือง และสีน้ำเงิน ราคา 66,900 บาท และ รุ่น ABS Version สีขาว-เทาและสีเทา ราคา 73,900 บาท ทั้งนี้ยามาฮ่ามอบความพิเศษ เมื่อจอง ยามาฮ่า แอร็อกซ์ 155 ภายในงานMotor Expo2016 รับสิทธิ์แลกซื้อกระเป๋า DEMON JET สุดเท่ มูลค่า 4,000 บาท ในราคา 1,000 บาท แล้วพบกันที่บูธยามาฮ่า ภายในงาน Motor Expo 2016 วันที่ 1-12 ธันวาคม ณ.อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
 

UIP : 12,298 | Page View : 13,823