เข้าสู่ความฟินน์ในวันที่สองที่จังหวัดสุรินทร์ เช้านี้เรานำกุญแจรถยามาฮ่าฟินน์ที่เป็นแบบMulti- Function คือเป็นสวิตช์กุญแจที่สามารถควบคุมการใช้งานในจุดเดียว ทั้งสตาร์ท เปิดเบาะ หรือ ล็อคคอรถในจุดเดียว ซึ่งถือเป็นความสะดวกสบายในการใช้งานเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 115 ซีซีของยามาฮ่า ฟินน์ ได้ถูกสตาร์ทขึ้นด้วยระบบสตาร์ทแบบไฟฟ้าเพียงสัมผัสปุ่มสตาร์ทเบาๆเครื่องยนต์ก็ติดขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็เดินทางไปรับประทานอาหารเช้าร้านดังในจังหวัดสุรินทร์ “ร้านทิพยรส” ซึ่งขายข้าวหมูแดง หมูกรอบ ขาหมู หมูอบเค็ม รวมถึงบะหมี่-เกี๊ยว ซึ่งถือเป็นร้านเด็ดให้ผู้ร่วมทริปได้ชิมกัน จากนั้นก็เดินทางสู่ศูนย์คชศึกษาหมู่บ้านช้างที่อยู่ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 56 กม. โดยเส้นทางเป็นถนนที่เป็นทางตรงยาวๆแต่มีเนินสวยๆพร้อมวิวงามๆให้ถ่ายรูป ถนนที่ราบเรียบทำให้ระบบกันสะเทือนที่นุ่มนวลอยู่แล้วยิ่งนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งเราใช้ความเร็วในการขับขี่ประมาณ 70-80 กม./ชม.ตลอดเส้นทาง โดยเรามาถึงศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างในช่วงเวลา 10โมงกว่าๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการจัดแสดงช้างที่ศูนย์แห่งนี้พอดี ทำให้ได้เพลินเพลินกับช้างเชือกต่างๆที่ควานช้างฝึกให้มาจัดแสดงโชว์ความน่ารักและความฉลาดให้กับผู้มาเยือน หลังจากนั้นเราก็นำยามาฮ่า ฟินน์ ไปถ่ายรูปกับช้างและบรรยากาศรอบๆศูนย์คชศึกษา ก่อนรับประทานอาหารเที่ยงที่บริเวณศูนย์
หลังจากอิ่มกับอาหารเที่ยงพร้อมถ่ายคลิปสัมภาษณ์ผู้ร่วมทริปแล้วก็เดินทางสู่แซตอม ออร์แกนิคฟาร์ม แซตอมในที่นี้หมายถึงนาที่ตั้งอยู่ริมห้วย เป็นวิสาหกิจชุมชนซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์โดยเน้นข้าวพื้นบ้าน ข้าวเพื่อสุขภาพ ซึ่งเมื่อเราเดินทางไปถึงก็ได้รับการต้อนอย่างดีจากเจ้าของฟาร์ม ที่ให้ความรู้ในเรื่องของข้าวพันธุ์ต่างๆของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในโอกาสนี้ก็ได้ถือโอกาสอุดหนุนข้าวแบบต่างๆกลับมารับประทาน ทั้งยังนำน้ำดื่มติดรถโดยใส่ไว้ที่ช่องเก็บของด้านหน้า ซึ่งยามาฮ่า ฟินน์ เป็นรถครอบครัวรุ่นเดียวที่มีกล่องเก็บของด้านหน้าไว้ให้ผู้ขับขี่ได้วางขวดน้ำดื่มหรือโทรศัพท์มือถือไว้ในช่องนี้ได้ จากนั้นก็เดินทางต่อกลับเข้าสู่อำเภอเมืองสุรินทร์ โดยใช้เส้นทางเดิมที่เต็มไปด้วยความสวยงามและพื้นถนนราบเรียบน่าขับขี่รถเป็นอย่างยิ่ง จนมาถึงวัดบูรพาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่เป็นศูนย์รวมใจของชาวจังหวัดสุรินทร์ เพราะเป็นวัดที่มีพระเถระสายกัมมัฎฐานด้านการภาวนาจิต หลวงปู่ดุล อตโล รวมถึงยังมีพิพิธภัณฑสถาน อตุลเถระ ที่เก็บอัฐิธาตุและบริขารของพระสายเถระองค์ต่างๆไว้มากมาย ซึ่งแน่นอนเราเข้าไปกราบนมัสการเพื่อเป็นศิริมงคล จากนั้นก็นำรถยามาฮ่า ฟินน์ รถจักรยานยนต์ครอบครัวพรีเมียมเข้าไปเติมน้ำมันเต็มถังอีกครั้ง โดยในทริปนี้เราใช้ระยะทางรวมทั้งหมด 190 กิโลมตร เติมน้ำมันกลับลงไปจนเต็มถังเป็นเงิน 90 บาทหรือ 3.27 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 58.10 กม./ลิตร เป็นอีกหนึ่งทริปที่จัดโปรแกรมเที่ยวกับเส้นทางขับขี่ที่ค่อนข้างไกล แต่สำหรับยามาฮ่า ฟินน์ แล้ว รถรุ่นนี้สามารถพาผู้ขับขี่เดินทางไปได้แบบสบายๆด้วยน้ำมันถังเดียวเที่ยวสุรินทร์ได้หลากหลายสถานที่
Gameleon Menu